การทำงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างจะไม่เป็นชิ้นเป็นอันครับ ทำได้ไม่กี่เดือนก็ต้องออก เนื่องมาด้วยตัวของผมเองเเละปัจจัยรอบตัว
ตอนนี้รู้สึกหมดไฟในการทำทุกอย่าง จากเมื่อก่อนที่เป็นคนกระตือรือร้น
ผมยินดีรับทั้งคำเเนะนำเเละตำหนิ ตักเตือน จากทุกท่านครับ
-ที่เเรก "บ้านพัก ขรก." : 1 เดือนครึ่ง
กิน-นอน ที่ไซด์งานตลอด 24 ชม. เนื้องานทำตั้งเเต่เขียนเเผน-ทำงบ , ควบคุม-เบิกงวดงาน , คุยกับ sub.เเละ consult , รับ-ส่งคนงาน , ดูเเลเเคมป์ เเต่ว่าบุคลากรที่ดูเเลไซด์งานทั้งหมดกับมีเเค่ 2 คน สภาพตู้นอนก็เกินจุดที่จะซ่อมเเซมได้ ผมเลยต้องไปนอนใน Office เเทน
ผมทำงานไป 1 อาทิตย์ก็เริ่มได้กลิ่นตุๆ คือ ภาพรวมเเล้วเสร็จไป 23% ในระยะเวลา 3-4 ปี
มาลงรายละเอียดก็พบว่ามีการลดเสปควัสดุหลายจุดมาก
งานโครงสร้าง เหล็กไม่ได้ มอก. หรือมาตรฐานสากลตัวอื่น , ไม่มีการใส่เหล็กอะเส(คานรัดหัวเสา) , เหล็กเเกนเสาไม่ทำตามเเบบก่อสร้าง เเละที่หนักที่สุดคือเสาเข็มเยื้องศูนย์
งานสถาปัตย์ ก่อ-ฉาบ ไม่ถูกต้องตามไลน์ , ไม่ทำงานกันซึมตามรอยต่อ ฯลฯ
ผมพยายามเเก้งานบางตัวที่พอซ่อมเเซมได้ , เเต่ทว่าเถ้าเเก่ที่เป็นผู้ว่าจ้าง บังคับให้ผมเป็นคนเซ็นควบคุมงานในส่วนที่ผมไม่ได้ทำ , เรื่องการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานก็มาจากเเกนี่เเหละ บังคับให้ทำตามเเบบที่เเกต้องการ เวลาคุยงานด้วยกัน จะทำผมหงุดหงิดมากจนต้องเดินหนีออกมาปรับอารมณ์บ่อยครั้ง
ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาผมไม่ได้วันหยุดเลยซักวัน , ค่า OT ก็ไม่มีให้ จนถึงจุดที่เหนื่อยล้าเต็มทนผมเลยทำเอกสารขอหยุดประจำสัปดาห์เเละหยุดพักวันถัดไป เเต่ทว่าวันนั้นเถ้าเเก่มาไซด์เเล้วไม่เจอผม เเกเลยให้ไม่ผ่านทดลองงาน
-ที่สอง "งาน บ.มหาชน" : 3 เดือน
หลังจากที่ทราบว่าไม่ผ่านทดลองงานผมก็เก็บของทันที พอกลับมาถึงบ้าน บริษัทใหม่ก็ติดต่อให้ไปสอบข้อเขียน-สัมภาษณ์
ไปเริ่มงานที่ใหม่ได้ 1 อาทิตย์ ทุกอย่างก็ดูโอเค เเต่เเล้วก็เข้าสูตรเดิม เนื้องานกับระยะเวลาไม่สัมพันธ์กัน (อีกเเล้ว) เเละก็พบสภาพการเงินที่ผิดปกติ
ผมเลยถอดราคางานตัวนั้นเเละคุยกับผู้รับเหมา พบว่าราคางานอยู่ที่ราวๆ 5,000 บาท.(ราคาที่ผู้รับเหมาได้รับจริงๆเเละงานมีมาตรฐาน) เเต่ถ้าประเมินตามหน้างานจริงๆ 2,500 ก็เพียงพอเเล้ว , ผมถือว่ายกผลประโยชน์ให้ เเต่ทว่างบประมาณที่ทำขอกับบริษัทไปดันขึ้นไปถึงหลักหมื่นบาท (ไปจนถึงครึ่งเเสน)
ผมเรียก"ผู้ควบคุมงาน"มานั่งคุย เเต่อาจจะด้วยวัยวุฒิผมที่อ่อนกว่าเกือบ 10 ปี + น้ำเสียงที่เหมือนโกรธตลอดเวลา ผมเลยโดนเขาปล่อยสัตว์เลื้อยคลานใส่ , ทางผู้ควบคุมงานอ้างว่าราคากลางบริษัทต่ำเกินไปเลยต้องหางานตัวอื่นมาให้ , เงินที่เกินมานั้นก็โอนเข้าบัญชีของ ผรม. ตามปกติ เเต่ผมมาทราบทีหลังว่ามีการโอนให้กันนอกรอบอีกทีนึง
สภาพหน้างานก็ปล่อยสะเปะสะปะ เละเทะ จ่ายงานไว้ตอนเช้าเเล้วเข้ามาอีกทีตอนบ่าย ไม่ไปดูผู้รับเหมา ไม่สั่งเเก้ , งานระบบ งานสถาปัตย์ ใช้ของไม่ได้มาตรฐานตามคู่มือก่อสร้างของบริษัท มีการปล่อยให้ ผรม.เบิกเกินงวดงาน , หลอกขายของที่ไม่ได้มาตรฐานให้ลูกค้า , ซึ่งถ้าหากโดนบริษัทจ้างตรวจมีโอกาศ 90% ที่จะหลุดเเน่นอน ทุกหลัง
ผมเลยนำเรื่องนี้ไปปรึกษา "หัวหน้า1" เเต่ไม่ได้พูดถึงการกระทำของ Foreman เเต่อย่างใด เพราะสภาพหน้างานมันฟ้องอยู่เเล้ว , ทว่า หน.1 กับพูดเหมือนผู้ควบคุมงาน เป๊ะ!
จากนั้นเป็นต้นมา ผมจะเรียก ผรม. มาตกลงราคากันก่อนเเล้วเผื่ออีก 20% , 20% ที่เกินมาจะโอนเข้าบัญชี ผรม. ไปเลย ถือเป็นค่าเร่งงานเเละเป็นข้ออ้างใช้ให้ ผรม. ไปทำงานตัวอื่นได้ , งานตัวไหนที่เบิกเกินมา ถ้า ผรม. จะส่งงานตัวใหม่ ถ้ามูลค่างานไม่ถึง 50% ของที่เบิกเกิน ผมก็จะไม่ส่งให้เด็ดขาด
งานตัวไหนที่ ผรม.ทำไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาตรฐาน ผมก็จะสั่งเเก้เรื่อยๆ ไม่ส่งงานให้
จากนั้นพฤติกรรมของ หน.1 ก็เริ่มเปลี่ยนไป
1.เอกสารทำงบ โดนตีกลับทุกครั้งโดยอ้างเหตุผลว่าราคาน้อยไป , พอผมส่งไฟล์ไปให้ดูก่อน เเกก็ไม่เปิดอ่าน (ไม่มีงบ=ไม่มีผลงาน)
2.เริ่มเอางานยากๆมาให้ทำ ผมเเก้ปัญหาโดยการใช้ตัวช่วย , ติดต่อผู้รับเหมาที่ออกเเบบ-ทำเฉพาะด้าน ให้ส่งใบเสนอราคากับเเบบมาให้ เเต่พอ หน.1 ได้ข้อมูลไป เเทนที่จะไปประสานงานต่อกับส่วนกลาง เเต่ดันไปพูดในที่ประชุมว่าจะทำเองคนเดียวทั้งหมด (ผมไปเเอบรู้มา)
3.มาขอยืมเงินผม 2 ครั้ง (หลักหมื่น/ครั้ง)
4.ผมเริ่มโดนตำหนิเรื่องไม่เป็นเรื่องมากขึ้น หาว่าเข้ากับใครไม่ได้ , ไม่มีผลงาน ,ไม่ใส่ใจหน้างาน , โทรมาด่าผมต่อหน้าฝ่ายอื่น เเต่ไม่มีการเรียกไปคุยเเบบเป็นกิจลักษณะ
ผมจับไต๋ได้ว่าเเกเอาเงินตัวเองมาลงไว้ในโครงการที่ตัวเองดูเเล , ที่ผ่านมาผมไม่เคยเถียงเลย เพราะคิดว่าการที่ผู้ใหญ่ด่า ตักเตือน ถือว่าเขาสอนเรา เเต่กลายเป็นเหมือนโดนกดมากขึ้นๆ
หน.2 ที่ตำเเหน่งใหญ่กว่า หน.1 พยายามเอาผมไปทำงานอื่นเเต่ว่ายังดูงานหลักควบคู่ไปด้วย ซึ่งงานตัวนี้คือการ "รายงาน สภาพหน้างานของโครงการที่ หน.2 รับผิดชอบอยู่" พร้อมกับออกใบเตือนผู้ควบคุมงานคนนั้น , 2-3 วันถัดมาผมก็ได้ใบเตือนที่ออกโดย หน.1
อาทิตย์ถัดไปจะครบ 3 เดือน ผมส่งรายงานให้ หน.2 , ตื่นมาอีกวันผมก็โดนทาง HR ติดต่อมาว่าไม่ผ่านทดลองงาน ให้ไปเขียนใบลาออก............
ผมเก็บของกลับมาบ้านได้ 1 วัน ก็มี เพื่อนของ หน.1 ที่ดูเเลอีกโครงการติดต่อมา ว่าอยากให้ผมไปทำงานด้วย ผมเลยขอตัดสินใจครึ่งวันก่อนตอบตกลงไป เเต่เขากลับอ้างขึ้นมาว่า "ผมเขียนใบลาออกไปเเล้ว คงจะช่วยไม่ได้เเล้วล่ะ"
ผมไม่เคยขาด ลา , มาสายตอนทำงาน เเถมออกเกินเวลาบ่อยครั้ง ส่วนนึงอาจจะมาจากน้ำเสียงเเละลักษณะการพูดที่หลายๆคนไม่ชอบ
*** ขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านกระทู้เล็กๆนี้ครับ ***
ขอคำเเนะนำ ตำหนิ จากทุกท่านว่าควรปรับปรุงตัวยังไงในการทำงาน
กิน-นอน ที่ไซด์งานตลอด 24 ชม. เนื้องานทำตั้งเเต่เขียนเเผน-ทำงบ , ควบคุม-เบิกงวดงาน , คุยกับ sub.เเละ consult , รับ-ส่งคนงาน , ดูเเลเเคมป์ เเต่ว่าบุคลากรที่ดูเเลไซด์งานทั้งหมดกับมีเเค่ 2 คน สภาพตู้นอนก็เกินจุดที่จะซ่อมเเซมได้ ผมเลยต้องไปนอนใน Office เเทน
ผมทำงานไป 1 อาทิตย์ก็เริ่มได้กลิ่นตุๆ คือ ภาพรวมเเล้วเสร็จไป 23% ในระยะเวลา 3-4 ปี
มาลงรายละเอียดก็พบว่ามีการลดเสปควัสดุหลายจุดมาก
งานโครงสร้าง เหล็กไม่ได้ มอก. หรือมาตรฐานสากลตัวอื่น , ไม่มีการใส่เหล็กอะเส(คานรัดหัวเสา) , เหล็กเเกนเสาไม่ทำตามเเบบก่อสร้าง เเละที่หนักที่สุดคือเสาเข็มเยื้องศูนย์
งานสถาปัตย์ ก่อ-ฉาบ ไม่ถูกต้องตามไลน์ , ไม่ทำงานกันซึมตามรอยต่อ ฯลฯ
ผมพยายามเเก้งานบางตัวที่พอซ่อมเเซมได้ , เเต่ทว่าเถ้าเเก่ที่เป็นผู้ว่าจ้าง บังคับให้ผมเป็นคนเซ็นควบคุมงานในส่วนที่ผมไม่ได้ทำ , เรื่องการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานก็มาจากเเกนี่เเหละ บังคับให้ทำตามเเบบที่เเกต้องการ เวลาคุยงานด้วยกัน จะทำผมหงุดหงิดมากจนต้องเดินหนีออกมาปรับอารมณ์บ่อยครั้ง
ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาผมไม่ได้วันหยุดเลยซักวัน , ค่า OT ก็ไม่มีให้ จนถึงจุดที่เหนื่อยล้าเต็มทนผมเลยทำเอกสารขอหยุดประจำสัปดาห์เเละหยุดพักวันถัดไป เเต่ทว่าวันนั้นเถ้าเเก่มาไซด์เเล้วไม่เจอผม เเกเลยให้ไม่ผ่านทดลองงาน
-ที่สอง "งาน บ.มหาชน" : 3 เดือน
หลังจากที่ทราบว่าไม่ผ่านทดลองงานผมก็เก็บของทันที พอกลับมาถึงบ้าน บริษัทใหม่ก็ติดต่อให้ไปสอบข้อเขียน-สัมภาษณ์
ไปเริ่มงานที่ใหม่ได้ 1 อาทิตย์ ทุกอย่างก็ดูโอเค เเต่เเล้วก็เข้าสูตรเดิม เนื้องานกับระยะเวลาไม่สัมพันธ์กัน (อีกเเล้ว) เเละก็พบสภาพการเงินที่ผิดปกติ
ผมเลยถอดราคางานตัวนั้นเเละคุยกับผู้รับเหมา พบว่าราคางานอยู่ที่ราวๆ 5,000 บาท.(ราคาที่ผู้รับเหมาได้รับจริงๆเเละงานมีมาตรฐาน) เเต่ถ้าประเมินตามหน้างานจริงๆ 2,500 ก็เพียงพอเเล้ว , ผมถือว่ายกผลประโยชน์ให้ เเต่ทว่างบประมาณที่ทำขอกับบริษัทไปดันขึ้นไปถึงหลักหมื่นบาท (ไปจนถึงครึ่งเเสน)
ผมเรียก"ผู้ควบคุมงาน"มานั่งคุย เเต่อาจจะด้วยวัยวุฒิผมที่อ่อนกว่าเกือบ 10 ปี + น้ำเสียงที่เหมือนโกรธตลอดเวลา ผมเลยโดนเขาปล่อยสัตว์เลื้อยคลานใส่ , ทางผู้ควบคุมงานอ้างว่าราคากลางบริษัทต่ำเกินไปเลยต้องหางานตัวอื่นมาให้ , เงินที่เกินมานั้นก็โอนเข้าบัญชีของ ผรม. ตามปกติ เเต่ผมมาทราบทีหลังว่ามีการโอนให้กันนอกรอบอีกทีนึง
สภาพหน้างานก็ปล่อยสะเปะสะปะ เละเทะ จ่ายงานไว้ตอนเช้าเเล้วเข้ามาอีกทีตอนบ่าย ไม่ไปดูผู้รับเหมา ไม่สั่งเเก้ , งานระบบ งานสถาปัตย์ ใช้ของไม่ได้มาตรฐานตามคู่มือก่อสร้างของบริษัท มีการปล่อยให้ ผรม.เบิกเกินงวดงาน , หลอกขายของที่ไม่ได้มาตรฐานให้ลูกค้า , ซึ่งถ้าหากโดนบริษัทจ้างตรวจมีโอกาศ 90% ที่จะหลุดเเน่นอน ทุกหลัง
ผมเลยนำเรื่องนี้ไปปรึกษา "หัวหน้า1" เเต่ไม่ได้พูดถึงการกระทำของ Foreman เเต่อย่างใด เพราะสภาพหน้างานมันฟ้องอยู่เเล้ว , ทว่า หน.1 กับพูดเหมือนผู้ควบคุมงาน เป๊ะ!
จากนั้นเป็นต้นมา ผมจะเรียก ผรม. มาตกลงราคากันก่อนเเล้วเผื่ออีก 20% , 20% ที่เกินมาจะโอนเข้าบัญชี ผรม. ไปเลย ถือเป็นค่าเร่งงานเเละเป็นข้ออ้างใช้ให้ ผรม. ไปทำงานตัวอื่นได้ , งานตัวไหนที่เบิกเกินมา ถ้า ผรม. จะส่งงานตัวใหม่ ถ้ามูลค่างานไม่ถึง 50% ของที่เบิกเกิน ผมก็จะไม่ส่งให้เด็ดขาด
งานตัวไหนที่ ผรม.ทำไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาตรฐาน ผมก็จะสั่งเเก้เรื่อยๆ ไม่ส่งงานให้
จากนั้นพฤติกรรมของ หน.1 ก็เริ่มเปลี่ยนไป
1.เอกสารทำงบ โดนตีกลับทุกครั้งโดยอ้างเหตุผลว่าราคาน้อยไป , พอผมส่งไฟล์ไปให้ดูก่อน เเกก็ไม่เปิดอ่าน (ไม่มีงบ=ไม่มีผลงาน)
2.เริ่มเอางานยากๆมาให้ทำ ผมเเก้ปัญหาโดยการใช้ตัวช่วย , ติดต่อผู้รับเหมาที่ออกเเบบ-ทำเฉพาะด้าน ให้ส่งใบเสนอราคากับเเบบมาให้ เเต่พอ หน.1 ได้ข้อมูลไป เเทนที่จะไปประสานงานต่อกับส่วนกลาง เเต่ดันไปพูดในที่ประชุมว่าจะทำเองคนเดียวทั้งหมด (ผมไปเเอบรู้มา)
3.มาขอยืมเงินผม 2 ครั้ง (หลักหมื่น/ครั้ง)
4.ผมเริ่มโดนตำหนิเรื่องไม่เป็นเรื่องมากขึ้น หาว่าเข้ากับใครไม่ได้ , ไม่มีผลงาน ,ไม่ใส่ใจหน้างาน , โทรมาด่าผมต่อหน้าฝ่ายอื่น เเต่ไม่มีการเรียกไปคุยเเบบเป็นกิจลักษณะ
ผมจับไต๋ได้ว่าเเกเอาเงินตัวเองมาลงไว้ในโครงการที่ตัวเองดูเเล , ที่ผ่านมาผมไม่เคยเถียงเลย เพราะคิดว่าการที่ผู้ใหญ่ด่า ตักเตือน ถือว่าเขาสอนเรา เเต่กลายเป็นเหมือนโดนกดมากขึ้นๆ
หน.2 ที่ตำเเหน่งใหญ่กว่า หน.1 พยายามเอาผมไปทำงานอื่นเเต่ว่ายังดูงานหลักควบคู่ไปด้วย ซึ่งงานตัวนี้คือการ "รายงาน สภาพหน้างานของโครงการที่ หน.2 รับผิดชอบอยู่" พร้อมกับออกใบเตือนผู้ควบคุมงานคนนั้น , 2-3 วันถัดมาผมก็ได้ใบเตือนที่ออกโดย หน.1
อาทิตย์ถัดไปจะครบ 3 เดือน ผมส่งรายงานให้ หน.2 , ตื่นมาอีกวันผมก็โดนทาง HR ติดต่อมาว่าไม่ผ่านทดลองงาน ให้ไปเขียนใบลาออก............
ผมเก็บของกลับมาบ้านได้ 1 วัน ก็มี เพื่อนของ หน.1 ที่ดูเเลอีกโครงการติดต่อมา ว่าอยากให้ผมไปทำงานด้วย ผมเลยขอตัดสินใจครึ่งวันก่อนตอบตกลงไป เเต่เขากลับอ้างขึ้นมาว่า "ผมเขียนใบลาออกไปเเล้ว คงจะช่วยไม่ได้เเล้วล่ะ"
ผมไม่เคยขาด ลา , มาสายตอนทำงาน เเถมออกเกินเวลาบ่อยครั้ง ส่วนนึงอาจจะมาจากน้ำเสียงเเละลักษณะการพูดที่หลายๆคนไม่ชอบ
*** ขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านกระทู้เล็กๆนี้ครับ ***