[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขออนุญาตตั้งคำถามนะครับ
ไม่ได้จะลองภูมิหรือเรียกแขกแต่อย่างใด ผมมีปัญหานึงคาใจมาโดยตลอด
แต่ขอไม่เล่าในตัวรายละเอียด มันพอจะสรุปตะกอนความคิดออกมาเป็นคำถามด้านล่าง ดังนี้ครับ:
ผมเชื่อว่าคนทุกคนมีอดีต ไม่ว่าจะเป็นอดีตที่ควรค่าแก่การจดจำ หรือ อดีตที่อยากจะลบเลือนออกไปจากความทรงจำ
ความสวยงามของอดีต ความหนักหนาสาหัส เลเวลของความโหดร้าย เป็นเรื่องของช่วงวัยและปัจเจกบุคคล
ในวัยเด็ก การอุจจาระราดกางเกง , การถูกทำโทษหน้าชั้นเรียน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ของอายุ บางคนก็จำฝังใจมาจนโต
เมื่อเราโตขึ้น เราต่างเรียนรู้ชีวิตว่ามันมีอะไรที่ซับซ้อน มีเรื่องราวมากมายที่หนักหนาสาหัสกว่าสิ่งที่เราเจอในวัยเด็ก
การทำงาน , ความรัก , ชีวิตคู่ , ครอบครัว สารพัดสิ่งท้าทายที่ถาโถมเข้ามา
สังคมเราขยายกว้างขึ้น ผู้คนมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต
ถูกหรือผิดไม่ได้มีแค่พ่อแม่หรือคุณครูเป็นคนตัดสิน
ในสังคมที่ทุกคนต่างต้องการรับบทคนดี ย่อมมีคนที่ตกเป็น ผู้ร้าย
การชี้นิ้วตัดสินคนอื่นว่า ถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว กลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ
ทั้งที่บางเวลา บางสถานการณ์ บางความจำเป็น
ผลักให้เราต้องทำในสิ่งที่ขัดกับบรรทัดฐานทางศีลธรรมสังคม
เราอาจต้องก้าวเดินในทางที่คนส่วนมากตั้งคำถามหรือดูแคลน
แม้ว่าเราจะตอบคำถามตัวเองได้ถึงเหตุผลและที่มาของการกระทำ
แม้ว่าเราจะเข้าใจตัวเองอย่างถี่ถ้วนถ่องแท้
แต่คำดูถูกว่าร้าย เป็นเหมือนกำแพงสูงที่คอยกดทับ
คำตัดสินตราหน้าจากสังคมรอบกาย เป็นเหมือนปลวกที่เซาะทำลายความมั่นใจในคุณค่าของตัวเอง
เรามีวิธีที่จะลบเลือนหรือสลัดทิ้งอดีตที่โหดร้าย
ก้าวข้ามคำตัดสิน ตีตรา ตราหน้าของสังคมได้อย่างไร?
เราจะลบเลือนหรือสลัดทิ้งอดีตที่โหดร้าย และ ก้าวข้ามคำตัดสินของสังคมได้อย่างไร
ผมเชื่อว่าคนทุกคนมีอดีต ไม่ว่าจะเป็นอดีตที่ควรค่าแก่การจดจำ หรือ อดีตที่อยากจะลบเลือนออกไปจากความทรงจำ
ความสวยงามของอดีต ความหนักหนาสาหัส เลเวลของความโหดร้าย เป็นเรื่องของช่วงวัยและปัจเจกบุคคล
ในวัยเด็ก การอุจจาระราดกางเกง , การถูกทำโทษหน้าชั้นเรียน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ของอายุ บางคนก็จำฝังใจมาจนโต
เมื่อเราโตขึ้น เราต่างเรียนรู้ชีวิตว่ามันมีอะไรที่ซับซ้อน มีเรื่องราวมากมายที่หนักหนาสาหัสกว่าสิ่งที่เราเจอในวัยเด็ก
การทำงาน , ความรัก , ชีวิตคู่ , ครอบครัว สารพัดสิ่งท้าทายที่ถาโถมเข้ามา
สังคมเราขยายกว้างขึ้น ผู้คนมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต
ถูกหรือผิดไม่ได้มีแค่พ่อแม่หรือคุณครูเป็นคนตัดสิน
ในสังคมที่ทุกคนต่างต้องการรับบทคนดี ย่อมมีคนที่ตกเป็น ผู้ร้าย
การชี้นิ้วตัดสินคนอื่นว่า ถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว กลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ
ทั้งที่บางเวลา บางสถานการณ์ บางความจำเป็น
ผลักให้เราต้องทำในสิ่งที่ขัดกับบรรทัดฐานทางศีลธรรมสังคม
เราอาจต้องก้าวเดินในทางที่คนส่วนมากตั้งคำถามหรือดูแคลน
แม้ว่าเราจะตอบคำถามตัวเองได้ถึงเหตุผลและที่มาของการกระทำ
แม้ว่าเราจะเข้าใจตัวเองอย่างถี่ถ้วนถ่องแท้
แต่คำดูถูกว่าร้าย เป็นเหมือนกำแพงสูงที่คอยกดทับ
คำตัดสินตราหน้าจากสังคมรอบกาย เป็นเหมือนปลวกที่เซาะทำลายความมั่นใจในคุณค่าของตัวเอง
เรามีวิธีที่จะลบเลือนหรือสลัดทิ้งอดีตที่โหดร้าย
ก้าวข้ามคำตัดสิน ตีตรา ตราหน้าของสังคมได้อย่างไร?