วันนี้ 5/7/24 ผมได้เข้าไปร้านขายยา ที่มีเภสัชกรประจำร้าน โดยไปซื้อยาลดกรดในกระเพาะ ที่กินประจำ (เป็นโรคกระเพราะเรื้อรัง) ระหว่างที่ผมถามเภสัชกรเกี่ยวกับยา เภสัชกรก็แนะนำยา ที่เป็นตัวยาเดียวกัน แต่คนละราคา ซึ่งมีราคาตั้งแต่แผงละ 30 บาท ไปจนถึงแผงละ 100 บาท ผมก็รู้สึกสงสัย เพราะปกติไปซื้อยา จะไม่ค่อยมีเภสัชกรมาอธิบายว่ามีราคาเท่าไหร่บ้าง ก็เลยถามว่า ราคายาที่มันแตกต่างกัน 3 เท่าเนี่ย เพราะอะไร ก็ได้คำตอบมาว่า ในเรทราคายา 100 บาท ส่วนใหญ่เป็นบ.ต่างชาติ หรือบ.ที่มีมาตรฐานยาสูง ทำให้ราคาแพง และในเรทราคา 50 บาท เป็นยา Local เป็นยาที่ผลิตในประเทศไทย ได้รับ อย.มีมาตรฐานเหมือนกัน แต่มีราคาที่ถูกกว่า และในเรทราคาสุดท้าย 30 บาท ผมก็ถามเภสัชกรว่า เป็นยาจากจีนรึเปล่า จะมีคุณภาพดีไหม เภสัชกรก็บอกว่า เป็นยา Local เกรดเดียวกับยาที่ผลิตในประเทศ แต่ว่า .... ผมก็ถามต่อ แต่ว่าอะไรครับ ใกล้หมดอายุหรือเปล่า เภสัชกรก็ตอบมา เปล่าค่ะ เป็นยาเอ่อ ยาหลุดโรงพยาบาล คือโรงพยาบาลจะได้ราคายาถูกกว่า ที่ร้านขายยาได้รับ ผมก็ถามต่อว่า แล้วแบบนี้มันก็เหมือนกันเลย แล้วจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพยาหรือเปล่า เภสัชกรก็ตอบว่า มันก็อาจจะมีบ้าง โดยปกติยาที่ร้านขายยาซื้อจากบริษัท จะเป็นรถเย็นขนส่งมาให้ถึงหน้าร้านเลย แต่ยาหลุด จะต้องซื้อจากนายหน้าขายส่ง(ยี่ปั้ว) ซึ่งเขาจะส่งเป็นพัสดุไปรษณีย์มาให้ อาจจะมีร้อนบ้าง อะไรบ้าง แต่ “น่าจะ” ไม่ส่งผลต่อคุณภาพยา อ้าว อย่างไรกันนี่ สรุปจะมีคุณภาพจริงๆหรือไม่ ก็เลยตัดสินใจเลือกยา ที่อยู่ในเรทราคา 70-100 ดีกว่า เพราะคิดว่ายาที่ต้องกินต่อเนื่อง ถ้าไม่ดี อาจจะมีผลกระทบได้ การเข้าร้านยาครั้งนี้เหมือนเปิดโลกเลย ไม่เคยรู้รายละเอียดมาก่อน คนส่วนใหญ่มาซื้อยา เอายาเก่ามาเทียบเลยไม่ได้รู้รายละเอียดแบบนี้ ถ้าไปร้านขายยาที่ไม่มีเภสัชกร ยิ่งหนักเลย เพราะไม่รู้ว่าเขาจะจ่ายยาแบบไหนมาให้บ้าง ก็เลยมาเล่าให้เพื่อนๆฟังครับ