จีน ประเทศที่ใหญ่โตมหาศาล แค่เขตปกครองเดียวก็ใหญ่พอๆกับบ้านเรา ... เมื่อ 10 ปีก่อนผมเคยไปเมืองจีน ไปดูงานด้วย ไปเที่ยวด้วย มีส่วนที่ทั้งชอบมากและไม่ชอบเลย
..... แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้เดินทางออกนอกประเทศอีกเลยจนผ่านมา 10 ปีพอดี อยากออกนอกประเทศมากๆแต่ไม่รู้จะไปไหนดี วนดูในเน็ตอยู่หลายวันจนมาเจอทัวร์เจ้านึงเป็นสถานที่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หารีวิวใดๆก็ไม่เจอ ดูแล้วสวย น่าไป เหมาะมากกับการออกนอกประเทศครั้งแรกในรอบ 10 ปี แล้วช่วงนี้จีนฟรีวีซ่า ทำให้เดินทางไปง่ายขึ้น ทัวร์ที่จะไปสถานที่นี้จะมี 2 รอบคือตอนใบไม้ผลิกับตอนใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนตัวอยากไปรอบหลังมากกว่าเพราะคิดว่าน่าจะสวยมากกว่าแต่ช่วงเวลาไม่เอื้อกับตารางงานเท่าไหร่ ก็เลยได้ไปช่วงต้นใบไม้ผลิ
..... ทริปนี้ผมใช้กล้องฟิล์ม เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกันที่พกออกนอกประเทศและเป็นครั้งแรกที่ไปแบบกึ่งเที่ยวกึ่ง phototrip อุปกรณ์ที่เอาไปด้วยไม่นับรวมกระเป๋าเสื่อผ้าก็คือ กล้อง 3 ตัว เลนส์ 4 ตัว ขาตั้งกล้อง แล้วก็ฟิล์มหลายสิบม้วน เฉพาะส่วนนี้ก็สิบกว่ากิโล
เข้าใจว่าไปแล้วจะมีเพื่อนร่วมทริปคล้ายๆเรา เพราะจากที่หาข้อมูลจากคนรู้จักบอกว่าพวก Phototrip จะมีคนพกอุปกรณ์ไปเยอะ แต่คิดผิดถนัด ส่วนใหญ่ทุกคนใช้แค่มือถือ มี 1-2 คนที่พกกล้องไปด้วย ... ก็ดีจะได้มีเพื่อน
....10 ปีก่อนรู้สึกว่าจีนเจริญมากๆแล้ว ไปตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่าเขาไปไกลกว่านั้นอีกมาก ถนนหนทางดีมาก มีทางที่เจาะทะลุภูเขาที่ยาวมาก ขนาดที่ว่ารถวิ่งด้วยความเร็ว 80 km/hr วิ่งอยู่ในอุโมงค์เกือบๆ 20 นาทีก็ยังไม่ออกจากอุโมงค์นี้ ที่ประทับใจที่สุดระหว่างการเดินทางคงจะเป็นเรื่องสัญญาณโทรสัพท์ที่เร็วแรง มีทุกพื้นที่จริงๆ ขนาดในฮุโมงค์รถวิ่ง หรือซอกหลืบเขา ผมก็ยังสามารถเล่น FB ได้แบบสบายๆ ส่วนสิ่งที่ไปครั้งก่อนแล้วไม่ชอบมากๆ มาครั้งนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่ก็คงจะเป็นเรื่องสูบบุหรี่ที่เขาสูบกันทุกที่ เหม็นไปหมด ห้องน้ำระหว่างทางหรือตามร้านอาหารหรือแหล่งท่องเที่ยวที่รู้สึกแย่มากๆ ทั้งๆที่เมืองพัฒนาไปไกลมากแต่ทำไมเรื่องแบบนี้ยังเหมือนเดิม สุดท้ายคงเป็นเรื่องอาหาร อันนี้ก็ยังรู้สึกเหือนเดิมว่าไม่ชอบจริงๆ
..... เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เอากล้องฟิล์มไปใช้ต่างแดนบวกกับข้อมูลที่เที่ยวคือน้อยมาก สิ่งที่ทำได้คือเดาว่าจะเป็นแบบไหน แล้วก็เตรียมอุปกรณ์ไห้พร้อมที่สุด
Camera : Rollei 35s ,Pentax 645n ,Fotoman
Lens : Schneider 180 mm , Pentax smc 45 mm , Schneider 110 mm , Voigtlander 210 mm
Film : Fujichrome slide , Fuji pro 400H , Kodak portra 160 , Kodak Gold 200
Filter : Kolari ND 10 stop
ทริปนี้ไปเสฉวนช่วงใบไม้ผลิ นั่งเครื่องไปลงที่เฉิงตู แล้วทางทัวร์มีจัดเป็น Road trip ที่เที่ยวหลักๆจะอยู่หางจากเฉิงตูประมาณ 300 km.เป็นโซนภูเขาที่มีชื่อว่า "ก้งก่า"
Minya Konka (Khams Tibetan)) เป็นการนั่งรถไปตามจุดต่างๆเพื่อถ่ายรูปรอบๆภูเขา บางช่วงต้องนั่งม้าขึ้นภูเขาเนื่องจากรถเข้าไม่ถึง ...
เพราะไปเที่ยวหน้าฝน ก็เลยเจอฝนตกตลอดทาง ทั้งลมและหมอกก็มาเต็มเช่นกัน มีบางช่วงที่ฟ้าเปิดทำให้เก็บรูปได้บ้าง ... สิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิดก็คืออุบัติเหตุ รถที่ผมนั่งเกิดเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งสวนกันมาระหว่างทางขึ้นเขา โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่มองข้างทางก็เสียวสันหลังเหมือนกันเพราะมันสูงเหลือเกิน ที่เสียแน่ๆคือเวลาเพราะคนขับรถต้องมาเคลียร์เรื่องค่าเสียหาย ตอนแรกเข้าใจว่าจะแป๊บเดียว สุดท้ายกินเวลายาวเป็นชั่วไมง อากาศข้างนอกคือหนาวลมมากๆ ปวดฉี่อีกแต่ไม่มีห้องน้ำแถวนั้น ...ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ไปฉี่ที่สถานีตำรวจจีนบนภูเขา เพราะเขาไปเคลียร์กันต่อที่สถานีตำรวจ (ห้องน้ำคือห่วยมาก แต่ก็ต้องเข้า)
....สำหรับคนพื้นราบอย่างเราพอต้องขึ้นที่สูงมากๆ.... ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าแค่นั่งคุยเฉยๆจะเหนื่อยขนาดนี้ มึนหัว ปวดตึงๆที่หัวตลอดเวลา เคยได้ยินแต่ที่คนอื่นพูดเรื่องแพ้ความสูง ไม่เคยคิดว่าาจะเกิดกับตัวเองจริงๆ คราวนี้รู้แระว่าเป็นยังไง พอเป็น Road trip ก็มีข้อดีอยู่อย่างคือสามารถจะแจ้งคนขับได้เลยว่าอยากจอดตรงไหน มันจะมีตารางเวลาหลวมๆ ทำให้เราสามารถอยู่ในจุดที่เราชอบนานๆได้ บางจุดที่สวยมากๆขอเป็นชั่วโมงก็ได้ จุดที่ไปทุกจุดไม่เจอนักท่องเที่ยวไทยเลย แม้กระทั่งเจ้าถิ่นเองก็ยังถือว่าน้อย บางจุดเหมือนเราเป็นเจ้าของสถานที่ มีแต่กลุ่มเราที่นั่งอยู่ตรงนั้น อนนี้ส่วนตัวรู้สึกชอบมากๆ ไม่ต้องวุ่นวายไม่ต้องแย่งวิวกับใคร นั่งแหมะรอแสงสวยๆแบบชิลๆ
.... ทริปนี้ผมชอบมาก(ถ้าไม่นับห้องน้ำระหว่างทาง บุหรี่ แล้วก็อาหารจีน) ..... ถึงจะเหนื่อยมากเพราะแพ้ความสูงกับติดโควิดหลังจากกลับมาถึงไทยก็ตาม ถ้ามีโอกาสก็อยากไปแบบนี้อีก ชอบๆ
.... สำหรับเรื่องฟิล์มที่พกไป กระเป๋าฟิล์มโดนสแกนที่สนามบินทั้งที่เมืองไทยและที่จีน รวมทั้งที่รถไฟฟ้าจีนด้วยทั้งหมด 3 ครั้ง ทุกคนที่ใช้ฟิล์มถ่ายรูปน่าจะรู้ดีว่ารังสีจากเครื่องสแกนที่สนามบินมักจะมีผลต่อฟิล์ม ... ผมเป็นกังวลเรื่องนี้มากเพราะอาจจะไม่ได้รูปเลยทั้งทริป ผมได้สอบถามกับทางร้านที่ล้างฟิล์ม ก็ได้ข้อมูลมาว่าพวกฟิล์มไวแสงอาจจะเกิดปัญหาได้แต่พวกฟิล์มที่ ISO ต่ำๆ มักจะไม่เป็นอะไร ....แต่เราก็ไม่สบายใจอยู่ดี จนวันที่กลับมาแล้วส่งไปล้าง ความไม่สบายใจก็วนไปวนมาในหัวตลอด ผ่านไป 1 wk ทางร้านที่ 1 ก็แจ้งว่าไม่มีปัญหาอะไร แล้วอีก 1 wk ทางร้านที่ 2 ก็แจ้งว่าปกติ ...โล่งใจเลยคับผม
Special Thanks
: Big Buddy เที่ยวถ่ายภาพผจญภัย
: FINE LAB แล็ปล้างฟิล์มออนไลน์
: Patani studio - ปาตานี สตูดิโอ
: เพื่อนร่วมทริปทุกคน สนุกมากๆ ไว้จะชวนไปด้วยกันใหม่
Ps. ทุกรูปที่ท่านเห็นสแกนด้วยเครื่องสแกน Nikon supercoolscan 9000 ED
**** Minya Konka (Khams Tibetan) ****
..... แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้เดินทางออกนอกประเทศอีกเลยจนผ่านมา 10 ปีพอดี อยากออกนอกประเทศมากๆแต่ไม่รู้จะไปไหนดี วนดูในเน็ตอยู่หลายวันจนมาเจอทัวร์เจ้านึงเป็นสถานที่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หารีวิวใดๆก็ไม่เจอ ดูแล้วสวย น่าไป เหมาะมากกับการออกนอกประเทศครั้งแรกในรอบ 10 ปี แล้วช่วงนี้จีนฟรีวีซ่า ทำให้เดินทางไปง่ายขึ้น ทัวร์ที่จะไปสถานที่นี้จะมี 2 รอบคือตอนใบไม้ผลิกับตอนใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนตัวอยากไปรอบหลังมากกว่าเพราะคิดว่าน่าจะสวยมากกว่าแต่ช่วงเวลาไม่เอื้อกับตารางงานเท่าไหร่ ก็เลยได้ไปช่วงต้นใบไม้ผลิ
..... ทริปนี้ผมใช้กล้องฟิล์ม เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกันที่พกออกนอกประเทศและเป็นครั้งแรกที่ไปแบบกึ่งเที่ยวกึ่ง phototrip อุปกรณ์ที่เอาไปด้วยไม่นับรวมกระเป๋าเสื่อผ้าก็คือ กล้อง 3 ตัว เลนส์ 4 ตัว ขาตั้งกล้อง แล้วก็ฟิล์มหลายสิบม้วน เฉพาะส่วนนี้ก็สิบกว่ากิโล
เข้าใจว่าไปแล้วจะมีเพื่อนร่วมทริปคล้ายๆเรา เพราะจากที่หาข้อมูลจากคนรู้จักบอกว่าพวก Phototrip จะมีคนพกอุปกรณ์ไปเยอะ แต่คิดผิดถนัด ส่วนใหญ่ทุกคนใช้แค่มือถือ มี 1-2 คนที่พกกล้องไปด้วย ... ก็ดีจะได้มีเพื่อน
....10 ปีก่อนรู้สึกว่าจีนเจริญมากๆแล้ว ไปตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่าเขาไปไกลกว่านั้นอีกมาก ถนนหนทางดีมาก มีทางที่เจาะทะลุภูเขาที่ยาวมาก ขนาดที่ว่ารถวิ่งด้วยความเร็ว 80 km/hr วิ่งอยู่ในอุโมงค์เกือบๆ 20 นาทีก็ยังไม่ออกจากอุโมงค์นี้ ที่ประทับใจที่สุดระหว่างการเดินทางคงจะเป็นเรื่องสัญญาณโทรสัพท์ที่เร็วแรง มีทุกพื้นที่จริงๆ ขนาดในฮุโมงค์รถวิ่ง หรือซอกหลืบเขา ผมก็ยังสามารถเล่น FB ได้แบบสบายๆ ส่วนสิ่งที่ไปครั้งก่อนแล้วไม่ชอบมากๆ มาครั้งนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่ก็คงจะเป็นเรื่องสูบบุหรี่ที่เขาสูบกันทุกที่ เหม็นไปหมด ห้องน้ำระหว่างทางหรือตามร้านอาหารหรือแหล่งท่องเที่ยวที่รู้สึกแย่มากๆ ทั้งๆที่เมืองพัฒนาไปไกลมากแต่ทำไมเรื่องแบบนี้ยังเหมือนเดิม สุดท้ายคงเป็นเรื่องอาหาร อันนี้ก็ยังรู้สึกเหือนเดิมว่าไม่ชอบจริงๆ
..... เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เอากล้องฟิล์มไปใช้ต่างแดนบวกกับข้อมูลที่เที่ยวคือน้อยมาก สิ่งที่ทำได้คือเดาว่าจะเป็นแบบไหน แล้วก็เตรียมอุปกรณ์ไห้พร้อมที่สุด
Camera : Rollei 35s ,Pentax 645n ,Fotoman
Lens : Schneider 180 mm , Pentax smc 45 mm , Schneider 110 mm , Voigtlander 210 mm
Film : Fujichrome slide , Fuji pro 400H , Kodak portra 160 , Kodak Gold 200
Filter : Kolari ND 10 stop
ทริปนี้ไปเสฉวนช่วงใบไม้ผลิ นั่งเครื่องไปลงที่เฉิงตู แล้วทางทัวร์มีจัดเป็น Road trip ที่เที่ยวหลักๆจะอยู่หางจากเฉิงตูประมาณ 300 km.เป็นโซนภูเขาที่มีชื่อว่า "ก้งก่า" Minya Konka (Khams Tibetan)) เป็นการนั่งรถไปตามจุดต่างๆเพื่อถ่ายรูปรอบๆภูเขา บางช่วงต้องนั่งม้าขึ้นภูเขาเนื่องจากรถเข้าไม่ถึง ...
เพราะไปเที่ยวหน้าฝน ก็เลยเจอฝนตกตลอดทาง ทั้งลมและหมอกก็มาเต็มเช่นกัน มีบางช่วงที่ฟ้าเปิดทำให้เก็บรูปได้บ้าง ... สิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิดก็คืออุบัติเหตุ รถที่ผมนั่งเกิดเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งสวนกันมาระหว่างทางขึ้นเขา โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่มองข้างทางก็เสียวสันหลังเหมือนกันเพราะมันสูงเหลือเกิน ที่เสียแน่ๆคือเวลาเพราะคนขับรถต้องมาเคลียร์เรื่องค่าเสียหาย ตอนแรกเข้าใจว่าจะแป๊บเดียว สุดท้ายกินเวลายาวเป็นชั่วไมง อากาศข้างนอกคือหนาวลมมากๆ ปวดฉี่อีกแต่ไม่มีห้องน้ำแถวนั้น ...ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ไปฉี่ที่สถานีตำรวจจีนบนภูเขา เพราะเขาไปเคลียร์กันต่อที่สถานีตำรวจ (ห้องน้ำคือห่วยมาก แต่ก็ต้องเข้า)
....สำหรับคนพื้นราบอย่างเราพอต้องขึ้นที่สูงมากๆ.... ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าแค่นั่งคุยเฉยๆจะเหนื่อยขนาดนี้ มึนหัว ปวดตึงๆที่หัวตลอดเวลา เคยได้ยินแต่ที่คนอื่นพูดเรื่องแพ้ความสูง ไม่เคยคิดว่าาจะเกิดกับตัวเองจริงๆ คราวนี้รู้แระว่าเป็นยังไง พอเป็น Road trip ก็มีข้อดีอยู่อย่างคือสามารถจะแจ้งคนขับได้เลยว่าอยากจอดตรงไหน มันจะมีตารางเวลาหลวมๆ ทำให้เราสามารถอยู่ในจุดที่เราชอบนานๆได้ บางจุดที่สวยมากๆขอเป็นชั่วโมงก็ได้ จุดที่ไปทุกจุดไม่เจอนักท่องเที่ยวไทยเลย แม้กระทั่งเจ้าถิ่นเองก็ยังถือว่าน้อย บางจุดเหมือนเราเป็นเจ้าของสถานที่ มีแต่กลุ่มเราที่นั่งอยู่ตรงนั้น อนนี้ส่วนตัวรู้สึกชอบมากๆ ไม่ต้องวุ่นวายไม่ต้องแย่งวิวกับใคร นั่งแหมะรอแสงสวยๆแบบชิลๆ
.... ทริปนี้ผมชอบมาก(ถ้าไม่นับห้องน้ำระหว่างทาง บุหรี่ แล้วก็อาหารจีน) ..... ถึงจะเหนื่อยมากเพราะแพ้ความสูงกับติดโควิดหลังจากกลับมาถึงไทยก็ตาม ถ้ามีโอกาสก็อยากไปแบบนี้อีก ชอบๆ
.... สำหรับเรื่องฟิล์มที่พกไป กระเป๋าฟิล์มโดนสแกนที่สนามบินทั้งที่เมืองไทยและที่จีน รวมทั้งที่รถไฟฟ้าจีนด้วยทั้งหมด 3 ครั้ง ทุกคนที่ใช้ฟิล์มถ่ายรูปน่าจะรู้ดีว่ารังสีจากเครื่องสแกนที่สนามบินมักจะมีผลต่อฟิล์ม ... ผมเป็นกังวลเรื่องนี้มากเพราะอาจจะไม่ได้รูปเลยทั้งทริป ผมได้สอบถามกับทางร้านที่ล้างฟิล์ม ก็ได้ข้อมูลมาว่าพวกฟิล์มไวแสงอาจจะเกิดปัญหาได้แต่พวกฟิล์มที่ ISO ต่ำๆ มักจะไม่เป็นอะไร ....แต่เราก็ไม่สบายใจอยู่ดี จนวันที่กลับมาแล้วส่งไปล้าง ความไม่สบายใจก็วนไปวนมาในหัวตลอด ผ่านไป 1 wk ทางร้านที่ 1 ก็แจ้งว่าไม่มีปัญหาอะไร แล้วอีก 1 wk ทางร้านที่ 2 ก็แจ้งว่าปกติ ...โล่งใจเลยคับผม
Special Thanks
: Big Buddy เที่ยวถ่ายภาพผจญภัย
: FINE LAB แล็ปล้างฟิล์มออนไลน์
: Patani studio - ปาตานี สตูดิโอ
: เพื่อนร่วมทริปทุกคน สนุกมากๆ ไว้จะชวนไปด้วยกันใหม่
Ps. ทุกรูปที่ท่านเห็นสแกนด้วยเครื่องสแกน Nikon supercoolscan 9000 ED