JJNY : “นิด้าโพล”หนุน“พิธา”เป็นนายกฯ│‘พิธา’นัดแถลงคืบหน้า│รอดูร้านอาหารปิดตัวเพิ่ม│เกาหลีเหนือชี้แผนสร้าง นาโตแห่งเอเชีย

“นิด้าโพล” หนุน “พิธา” เป็นนายกฯขณะ “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง” ยังเป็นรอง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_739510/
 
 
“นิด้าโพล”คนหนุน”พิธา”เป็นนายกฯ ชอบอุดมการณ์ทางการเมือง ขณะ”เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง-“ยังเป็นรอง ให้ความนิยมก้าวไกล อันดับ 1 เพื่อไทย อันดับ 2
 
ศูนย์สำรวจความเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2567” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 14-18 มิถุนายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง พบว่า เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้
 
อันดับ 1 ร้อยละ 45.50 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะชื่นชอบอุดมการณ์ทางการเมือง มีความรู้ และความสามารถรอบด้าน
อันดับ 2 ร้อยละ 20.55 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 3 ร้อยละ 12.85 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) เพราะมีความเป็นผู้นำ กล้าตัดสินใจ และมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาของประเทศ
อันดับ 4 ร้อยละ 6.85 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะมีภาพลักษณ์ที่ดี มีความน่าเชื่อถือ การทำงานมีความซื่อสัตย์ สุจริต
อันดับ 5 ร้อยละ 4.85 ระบุว่าเป็น นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะมีวิสัยทัศน์ มีความเป็นผู้นำ และมีความรู้ ความเข้าใจปัญหาของประเทศ
อันดับ 6 ร้อยละ 3.40 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารที่โดดเด่น และมีความน่าเชื่อถือ
อันดับ 7 ร้อยละ 2.05 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีประสบการณ์ทำงานด้านการบริหาร เข้าถึงประชาชน และชื่นชอบนโยบายที่ผ่านมา
ส่วนที่ระบุอื่นๆ ได้แก่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายชัยธวัช ตุลาธน (พรรคก้าวไกล) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) พลตำรวจเอกทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคก้าวไกล) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) และร้อยละ 0.55 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า
 
อันดับ 1 ร้อยละ 49.20 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล
อันดับ 2 ร้อยละ 16.85 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย
อันดับ 3 ร้อยละ 15.00 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 4 ร้อยละ 7.55 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ
อันดับ 5 ร้อยละ 3.75 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 6 ร้อยละ 2.20 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย
อันดับ 7 ร้อยละ 1.75 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ
อันดับ 8 ร้อยละ 1.55 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย
และร้อยละ 1.05 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทยรวมพลัง และพรรคไทยภักดี
และร้อยละ 1.10 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ



‘พิธา’ นัดแถลงคืบหน้า แนวทางสู้คดียุบพรรควันนี้ ย้ำอีกไม่คิดกดดันศาลรธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4655610

‘พิธา’ นัดแถลงคืบหน้า แนวทางสู้คดียุบพรรควันนี้ ย้ำอีกไม่คิดกดดันศาลรธน.
 
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงข่าวความคืบหน้าการต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 30 มิถุนายน ว่า รายละเอียดจะขอแถลงข่าวในวันที่ 30 มิถุนายนครั้งเดียว แต่ก็มีความคืบหน้า หลังจากที่มีการแถลงเปิดข้อต่อสู้เมื่อครั้งก่อน เมื่อมีความคืบหน้าพรรคก้าวไกลก็ต้องการจะชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ
 
นายพิธายังยืนยันว่า “การแถลงข่าวไม่ได้เป็นการชี้นำหรือกดดันศาล แต่เมื่อมีความคืบหน้าพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน มีหน้าที่ในการชี้แจงให้ทราบว่ากระบวนการนั้นดำเนินไปถึงไหนแล้ว ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้
 
เมื่อถามย้ำถึงความคาดหวังถึงผลการประชุมพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ จะให้เปิดการไต่สวนหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เท่าที่ตัวเองทราบศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการพิจารณาคดีอย่างไรต่อ

ส่วนวันที่ 9 กรกฎาคม เป็นการนัดตรวจพยานหลักฐานของผู้ร้องและผู้ถูกร้อง ตัวเองจะอธิบายว่าก่อนที่จะไปถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนั้น มีความคืบหน้าที่พรรคนั้นดำเนินการอยู่ แต่จะขอยกยอดอธิบายในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากหากอธิบายนิดๆ หน่อยๆ อาจเข้าใจผิด


 
นายกสมาคมภัตตาคาร ชี้รบ.ไร้สัญญาณกระตุ้นศก. ฉุดกำลังซื้อ รอดูร้านอาหารปิดตัวเพิ่ม
https://www.matichon.co.th/economy/news_4655620

นายกสมาคมภัตตาคาร ชี้รบ.ไร้สัญญาณกระตุ้นศก. ฉุดกำลังซื้อ รอดูร้านอาหารปิดตัวเพิ่ม
 
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน น.ส.ประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด เปิดเผยว่า ภาครัฐได้มีการตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน (แอลพีจี) ราคา 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม อีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2567 คาดว่าร้านอาหารและสตรีทฟู้ดคงไม่ปรับราคาขึ้น เพราะปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจยังแย่ หากขึ้นราคาไปจะทำให้ลูกค้าหายไปอีก จากปัจจุบันกำลังซื้อก็ลดลงเรื่อยๆ ประมาณ 5-10%
 
เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นจึงยังไม่เห็นสัญญาณอะไรที่จะทำให้กำลังซื้อดีขึ้น หากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังซึมต่อเนื่องแบบนี้ คงต้องลุ้นอีกทีสิ้นปี 2567 นี้ จะมีร้านอาหารปิดตัวลงหรือไม่
 
ปัจจุบันกำลังซื้อเงียบเหงามาก เป็นกันทั่วประเทศ แต่ร้านค้ายังไม่มีปิดกิจการ แต่มีย้ายทำเลและลดขนาดพื้นที่ร้านลง เพื่อลดภาระค่าเช่าพื้นที่ ขณะที่ภาระต้นทุนวัตถุดิบยังปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะผักสดที่ราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 100% ยังมีต้นทุนแฝงอีก เช่น ค่าน้ำมัน ค่าขนส่ง ค่าแรง ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น เมื่อร้านอาหารขายไม่ดี ลดการซื้อลง ทำให้ร้านขายผักในตลาดสด มีการปิดตัวไปบ้างแล้วในช่วงที่ผ่านมา

น.ส.ประภัสสร กล่าวว่า อยากให้ภาครัฐออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่าย นอกจากตรึงราคาแอลพีจีแล้ว ขอให้ตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีให้กับภาคการขนส่งด้วย เนื่องจากส่งผลกระทบต่อต้นทุนร้านอาหารทางอ้อม ทำให้ราคาสินค้าและวัตถุดิบสูงขึ้นจากค่าขนส่งที่ปรับขึ้น รวมถึงอยากให้มีการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อลดต้นทุนของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายเล็ก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่