ม็อบรถบรรทุกย้ำมติเดิม 3 ก.ค. เคลื่อนทัพเข้ากรุง นัดประชุม 1 ก.ค. ต้องลุ้นจะเลื่อนหรือไม่
https://www.matichon.co.th/economy/news_4653106
สิงห์รถบรรทุก ยืนยันมติเดิม เคลื่อนทัพล้อหมุน 3 ก.ค. ไม่ยกเลิก รอ 1 ก.ค. แถลงความชัดเจน เลื่อนหรือไม่
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นาย
ศุภศักดิ์ รุ่งเจิดฟ้า ที่ปรึกษาสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสหพันธ์การขนส่งยังคงมีมติเคลื่อนทัพกลุ่มรถ 10 ล้อเข้ามาที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เหมือนเดิม ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศเลื่อนและยังไม่มีแนวโน้มที่ยกเลิกวันเดินทางทั้งสิ้น ซึ่งสหพันธ์การขนส่งและกลุ่มม็อบรถบรรทุกเตรียมเสบียงและอุปกรณ์พร้อมทุกอย่างพร้อมออกเดินทางไว้เรียบร้อย เนื่องจากต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลหาข้อแก้ไขที่ชัดเจนจากกรณีที่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง
นาย
ศุภศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่สหพันธ์การขนส่งได้รับการติดต่อจากหน่วยงานราชการเพื่อขอร้องให้สหพันธ์การขนส่งพิจารณาปรับมติการเคลื่อนม็อบอีกครั้ง เนื่องจากเดือนกรกฎาคมเป็นเดือนมหามงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งถ้าหากมีม็อบก็อาจจะทำให้บรรยากาศภาพรวมทั้งเดือนไม่ค่อยดีนัก ในส่วนนี้สหพันธ์การขนส่งจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนในการเคลื่อนทัพม็อบ 10 ล้อ ส่วนการเคาะเวลาและสถานที่สำหรับการประชุมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งภายในวันนั้นจะสรุปมติร่วมกันชัดเจนว่าจะมีการต้องปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ แต่ยังคงยืนยันว่า ยังไม่มีการยกเลิกมติการเคลื่อนทัพรถบรรทุกในวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ที่จะถึงนี้
นาย
ศุภศักดิ์กล่าวต่อไปว่า หลังจากสหพันธ์การขนส่งได้รับการติดต่อจากทางหน่วยงานพลังงานเพื่อรับทราบถึงข้อเรียกร้องการตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทน้น สหพันธ์การขนส่งเห็นด้วยกับข้อเสนอจากทางหน่วยงานพลังงานที่จะเปิดต้นทุนราคาจริงของน้ำมันตลาดโลก เพื่อให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่ต้องปรับราคาน้ำมัน แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทางสหพันธ์การขนส่งต้องการคือการหาทางออกของปัญหาเรื่องนี้ที่ชัดเจน จริงใจ และ เห็นผล
ทั้งนี้ แผนเส้นทางการเคลื่อนตัวของม็อบคาราวานสิบล้อที่จะมาที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 3 กรกฎาคม มีดังนี้
1.ฝั่งภาคเหนือ จะเริ่มเคลื่อนทัพมายังเส้นทางแถวประตูน้ำ-บางปะอิน
2.ฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะรวมตัวกันและเริ่มเคลื่อนตัวจาก จ.สระบุรี ก่อนมา อ.วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา
3.เส้นตะวันออก จะรวมตัวที่ถนนมีนพัฒนา
และในส่วนของฝั่งภาคตะวันตกและภาคกลาง จะรวมตัวกันที่เขตพุทธมณฑล
โดยเหล่าคาราวานสิงห์รถบรรทุกที่เดินทางมาจากทุกภาคทั่วไทยจะพร้อมใจกันยกทัพไปยังจุดศูนย์กลางที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร
ปริญญา ลั่น บ้านใหญ่มา เหมือนทำนายไว้เป๊ะ! ย้ำเลือก ส.ว.ห้ามโมฆะ เดี๋ยวชุดก่อนอยู่ยาว
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4652960
ปริญญา ลั่น เหมือนที่ทำนายไว้เป๊ะ เปลี่ยนเถอะ ‘ระบบพวก+ดวง’ เอื้อบ้านใหญ่ ยัน ต้องเดินหน้าห้ามโมฆะ-ถาม รอบหน้าเลือกตั้งไปเลยไหม?
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เวลา 09.00 น. ที่ห้อง 322 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw ร่วมกับ เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We Watch) และคณะนิติศาสตร์ มธ. จัดเวทีเสวนา “
ทางข้างหน้า? จากสิ่งที่เห็น”
โดยวงเสวนาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ในตอนหนึ่ง ผศ.ดร.
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในหัวข้อ “
เลือก ส.ว.จะได้ประกาศผลหรือไม่ ปัญหาการฮั้ว กกต.จะสอยอย่างไร?”
ผศ.ดร.
ปริญญากล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีกระบวนการในการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ก็ย่อมมีคู่แข่ง คือ บ้านใหญ่ ที่มี 2 เครือข่ายหลักๆ เท่าที่เห็น และฝ่ายราชการ หรือฝ่ายอนุรักษนิยม และความมั่นคงก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ประชาชนไม่ได้มีเครือข่ายจัดตั้งมา อย่างเป็นเรื่องเป็นราว ชัดเจน
“
คำถามของผม เมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ ผมว่าเราเลือกตั้งโดยตรงไปเลยไม่ดีกว่าหรือ เป็นข้อเสนอหนึ่ง และเป็นภารกิจของ ส.ว. 200 ท่านที่เข้าไป จะได้คุยกันว่า เปลี่ยนเถอะ ระบบแบบนี้ ถามว่าระบบแบบนี้มันคืออะไร ผมขอพูดซ้ำ มันเป็นระบบที่ อะไรที่ทำนายไว้ มันออกมาตามนั้นทุกอย่าง” ผศ.ดร.
ปริญญากล่าว
ผศ.ดร.
ปริญญากล่าวต่อว่า ระบบที่ซับซ้อนขนาดนี้ คนที่จะเข้าไปสู่ปลายทางได้ จะได้เปรียบมากที่สุดคือ 1.ต้องพวกเยอะ หรือต้องจัดตั้งพวกให้ได้มากๆ
จากข้อมูลที่ทางผู้สังเกตการณ์ วีวอตช์และไอลอว์ และในมุมนักวิชาการที่คุยกัน ซึ่งน่าวิเคราะห์ต่อในทางวิชาการอย่างมาก เพื่อนำปมสู่การเปลี่ยนแปลง มี ส.ว.ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ คือผู้แทนปวงชนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าไปอย่างเสมอกัน ในการเป็นผู้แทน
“
แล้วการจัดตั้งพวกให้ได้มาก ต้องมีค่าสมัคร 2,500 แปลว่าต้องมีทุนทรัพย์และเครือข่ายในพื้นที่ ยิ่งมากยิ่งได้เปรียบ แล้วผลก็ออกมาอย่างที่วิเคราะห์ ก่อนหน้านี้ก็คาดการณ์กันว่า เครือข่ายบ้านใหญ่ ของพรรคอันดับ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ เชื่อว่าจะมามากกว่า แต่ปรากฏว่า ทางฝั่งบุรีรัมย์ ขึ้นมา ซึ่งจะมีผลทางการเมืองด้วย”
ผศ.ดร.
ปริญญากล่าวต่อว่า ประการที่ 2 ต้องโชคดี ต้องมากับดวงด้วย เนื่องจากในตอนจับสลากไขว้ มี 20 กลุ่มอาชีพ แบ่งเป็น 4 สาย มี 5 กลุ่มต่อสาย ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปเจอใคร ถ้าเจอคนที่สนับสนุนกัน ก็โชคดีไป ถ้าไปเจอคนที่ไม่เลือกเราแน่ ก็ลำบาก ผลคือ ถ้าอันดับท้ายๆ คะแนนเท่ากัน ก็ต้องจับสลากอีก ตนมองว่าน่าเก็บข้อมูลมีการจับสลากกี่ครั้ง ประท้วงกี่คน
“
ถามว่าระบบการเลือกผู้แทนปวงชน ที่ต้องมีพวกกับดวง เราโอเคหรือ ดังนั้น ก็ต้องเปลี่ยน เพราะต้องจัดให้ตั้งกว้างถึงขั้นกลุ่มอาชีพ จัดตั้งได้มากก็จะเข้าไปได้มาก เราเห็นได้ชัดว่า เครือข่ายบ้านใหญ่ ใครเก่งกว่า ทำได้ดีกว่า เห็นได้ในคราวนี้”
“
ถามว่าถ้ามีปัญหามากขนาดนี้ เอายังไงดี โมฆะไปเลยไหม ไม่ได้ เพราะมาตรา 9 วรรค 3 ของรัฐธรรมนูญ ส.ว.ชุดที่ คสช.เลือกมา ทำให้ท่านมีความอิสระได้ไม่มาก มีทิศทางการอยู่นานเป็นกลุ่มก้อน ในแง่โหวตรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระ ซึ่งจะอยู่ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังประกาศผล ส.ว.ชุดใหม่ไม่ได้
จากที่เกิดขึ้น ไม่ได้แปลว่าการเลือกมันเป็นโมฆะ แต่เป็นปัญหาที่คนๆ ไป กล่าวคือการที่ระบบเลือก ส.ว. หรือ พ.ร.ป.เลือก ส.ว.ไม่ดี หรือการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ดี ไม่ได้แปลว่าจะเป็นโมฆะ ในภาพรวมต้องเดินหน้าต่อ” ผศ.ดร.
ปริญญาชี้
ผศ.ดร.
ปริญญาตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การประกาศที่ว่า ส.ว.ชุดก่อนจะดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะมี ส.ว.ชุดใหม่ หมายถึงต้องครบ 200 ใช่หรือไม่ ถึงจะเป็น ส.ว.ชุดใหม่ ที่มาแทนชุดปัจจุบัน มีปัญหาตรงข้อกฎหมายนี้อยู่
ปรากฎการณ์ สว.สีน้ำเงินคุมสภาสูง เกมบ้านใหญ่เหนือชั้น ภูมิใจไทยเรือธงปีกอนุรักษนิยม
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4652191
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ
ช่อ พรรณิการ์ วานิช คณะก้าวหน้า วิเคราะห์ปรากฎการณ์ สว.สีน้ำเงินคุมสภาสูง สว.สีน้ำเงิน 130 คน
สว.ประชาชน 30 คน และกลุ่มอื่นๆ อีกที่ยังไม่ทราบฝ่าย 40 คน บ้านใหญ่ระเบียบมั่นคงแข็งแรง เรื่องการจัดตั้งและคณิตศาสตร์ทางการเมืองสีน้ำเงินแม่นจริงๆ ฝ่ายอนุรักษนิยมถ่ายเททายาทอสูรไปสู่พรรคน้ำเงินเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย ได้รับการสถาปนาให้เป็นตัวแทนของฝ่ายอนุรักษนิยมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
JJNY : ม็อบรถบรรทุกย้ำมติเดิม│ปริญญาลั่นเหมือนทำนายไว้เป๊ะ!│ภูมิใจไทยเรือธงปีกอนุรักษนิยม│ชิลีหนาวจัดเป็นประวัติการณ์
https://www.matichon.co.th/economy/news_4653106
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายศุภศักดิ์ รุ่งเจิดฟ้า ที่ปรึกษาสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสหพันธ์การขนส่งยังคงมีมติเคลื่อนทัพกลุ่มรถ 10 ล้อเข้ามาที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เหมือนเดิม ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศเลื่อนและยังไม่มีแนวโน้มที่ยกเลิกวันเดินทางทั้งสิ้น ซึ่งสหพันธ์การขนส่งและกลุ่มม็อบรถบรรทุกเตรียมเสบียงและอุปกรณ์พร้อมทุกอย่างพร้อมออกเดินทางไว้เรียบร้อย เนื่องจากต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลหาข้อแก้ไขที่ชัดเจนจากกรณีที่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง
นายศุภศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่สหพันธ์การขนส่งได้รับการติดต่อจากหน่วยงานราชการเพื่อขอร้องให้สหพันธ์การขนส่งพิจารณาปรับมติการเคลื่อนม็อบอีกครั้ง เนื่องจากเดือนกรกฎาคมเป็นเดือนมหามงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งถ้าหากมีม็อบก็อาจจะทำให้บรรยากาศภาพรวมทั้งเดือนไม่ค่อยดีนัก ในส่วนนี้สหพันธ์การขนส่งจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนในการเคลื่อนทัพม็อบ 10 ล้อ ส่วนการเคาะเวลาและสถานที่สำหรับการประชุมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งภายในวันนั้นจะสรุปมติร่วมกันชัดเจนว่าจะมีการต้องปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ แต่ยังคงยืนยันว่า ยังไม่มีการยกเลิกมติการเคลื่อนทัพรถบรรทุกในวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ที่จะถึงนี้
นายศุภศักดิ์กล่าวต่อไปว่า หลังจากสหพันธ์การขนส่งได้รับการติดต่อจากทางหน่วยงานพลังงานเพื่อรับทราบถึงข้อเรียกร้องการตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทน้น สหพันธ์การขนส่งเห็นด้วยกับข้อเสนอจากทางหน่วยงานพลังงานที่จะเปิดต้นทุนราคาจริงของน้ำมันตลาดโลก เพื่อให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่ต้องปรับราคาน้ำมัน แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทางสหพันธ์การขนส่งต้องการคือการหาทางออกของปัญหาเรื่องนี้ที่ชัดเจน จริงใจ และ เห็นผล
ทั้งนี้ แผนเส้นทางการเคลื่อนตัวของม็อบคาราวานสิบล้อที่จะมาที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 3 กรกฎาคม มีดังนี้
1.ฝั่งภาคเหนือ จะเริ่มเคลื่อนทัพมายังเส้นทางแถวประตูน้ำ-บางปะอิน
2.ฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะรวมตัวกันและเริ่มเคลื่อนตัวจาก จ.สระบุรี ก่อนมา อ.วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา
3.เส้นตะวันออก จะรวมตัวที่ถนนมีนพัฒนา
และในส่วนของฝั่งภาคตะวันตกและภาคกลาง จะรวมตัวกันที่เขตพุทธมณฑล
โดยเหล่าคาราวานสิงห์รถบรรทุกที่เดินทางมาจากทุกภาคทั่วไทยจะพร้อมใจกันยกทัพไปยังจุดศูนย์กลางที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร
ปริญญา ลั่น บ้านใหญ่มา เหมือนทำนายไว้เป๊ะ! ย้ำเลือก ส.ว.ห้ามโมฆะ เดี๋ยวชุดก่อนอยู่ยาว
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4652960
ปริญญา ลั่น เหมือนที่ทำนายไว้เป๊ะ เปลี่ยนเถอะ ‘ระบบพวก+ดวง’ เอื้อบ้านใหญ่ ยัน ต้องเดินหน้าห้ามโมฆะ-ถาม รอบหน้าเลือกตั้งไปเลยไหม?
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เวลา 09.00 น. ที่ห้อง 322 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw ร่วมกับ เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We Watch) และคณะนิติศาสตร์ มธ. จัดเวทีเสวนา “ทางข้างหน้า? จากสิ่งที่เห็น”
โดยวงเสวนาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ในตอนหนึ่ง ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในหัวข้อ “เลือก ส.ว.จะได้ประกาศผลหรือไม่ ปัญหาการฮั้ว กกต.จะสอยอย่างไร?”
ผศ.ดร.ปริญญากล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีกระบวนการในการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ก็ย่อมมีคู่แข่ง คือ บ้านใหญ่ ที่มี 2 เครือข่ายหลักๆ เท่าที่เห็น และฝ่ายราชการ หรือฝ่ายอนุรักษนิยม และความมั่นคงก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ประชาชนไม่ได้มีเครือข่ายจัดตั้งมา อย่างเป็นเรื่องเป็นราว ชัดเจน
“คำถามของผม เมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ ผมว่าเราเลือกตั้งโดยตรงไปเลยไม่ดีกว่าหรือ เป็นข้อเสนอหนึ่ง และเป็นภารกิจของ ส.ว. 200 ท่านที่เข้าไป จะได้คุยกันว่า เปลี่ยนเถอะ ระบบแบบนี้ ถามว่าระบบแบบนี้มันคืออะไร ผมขอพูดซ้ำ มันเป็นระบบที่ อะไรที่ทำนายไว้ มันออกมาตามนั้นทุกอย่าง” ผศ.ดร.ปริญญากล่าว
ผศ.ดร.ปริญญากล่าวต่อว่า ระบบที่ซับซ้อนขนาดนี้ คนที่จะเข้าไปสู่ปลายทางได้ จะได้เปรียบมากที่สุดคือ 1.ต้องพวกเยอะ หรือต้องจัดตั้งพวกให้ได้มากๆ
จากข้อมูลที่ทางผู้สังเกตการณ์ วีวอตช์และไอลอว์ และในมุมนักวิชาการที่คุยกัน ซึ่งน่าวิเคราะห์ต่อในทางวิชาการอย่างมาก เพื่อนำปมสู่การเปลี่ยนแปลง มี ส.ว.ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ คือผู้แทนปวงชนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าไปอย่างเสมอกัน ในการเป็นผู้แทน
“แล้วการจัดตั้งพวกให้ได้มาก ต้องมีค่าสมัคร 2,500 แปลว่าต้องมีทุนทรัพย์และเครือข่ายในพื้นที่ ยิ่งมากยิ่งได้เปรียบ แล้วผลก็ออกมาอย่างที่วิเคราะห์ ก่อนหน้านี้ก็คาดการณ์กันว่า เครือข่ายบ้านใหญ่ ของพรรคอันดับ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ เชื่อว่าจะมามากกว่า แต่ปรากฏว่า ทางฝั่งบุรีรัมย์ ขึ้นมา ซึ่งจะมีผลทางการเมืองด้วย”
ผศ.ดร.ปริญญากล่าวต่อว่า ประการที่ 2 ต้องโชคดี ต้องมากับดวงด้วย เนื่องจากในตอนจับสลากไขว้ มี 20 กลุ่มอาชีพ แบ่งเป็น 4 สาย มี 5 กลุ่มต่อสาย ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปเจอใคร ถ้าเจอคนที่สนับสนุนกัน ก็โชคดีไป ถ้าไปเจอคนที่ไม่เลือกเราแน่ ก็ลำบาก ผลคือ ถ้าอันดับท้ายๆ คะแนนเท่ากัน ก็ต้องจับสลากอีก ตนมองว่าน่าเก็บข้อมูลมีการจับสลากกี่ครั้ง ประท้วงกี่คน
“ถามว่าระบบการเลือกผู้แทนปวงชน ที่ต้องมีพวกกับดวง เราโอเคหรือ ดังนั้น ก็ต้องเปลี่ยน เพราะต้องจัดให้ตั้งกว้างถึงขั้นกลุ่มอาชีพ จัดตั้งได้มากก็จะเข้าไปได้มาก เราเห็นได้ชัดว่า เครือข่ายบ้านใหญ่ ใครเก่งกว่า ทำได้ดีกว่า เห็นได้ในคราวนี้”
“ถามว่าถ้ามีปัญหามากขนาดนี้ เอายังไงดี โมฆะไปเลยไหม ไม่ได้ เพราะมาตรา 9 วรรค 3 ของรัฐธรรมนูญ ส.ว.ชุดที่ คสช.เลือกมา ทำให้ท่านมีความอิสระได้ไม่มาก มีทิศทางการอยู่นานเป็นกลุ่มก้อน ในแง่โหวตรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระ ซึ่งจะอยู่ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังประกาศผล ส.ว.ชุดใหม่ไม่ได้
จากที่เกิดขึ้น ไม่ได้แปลว่าการเลือกมันเป็นโมฆะ แต่เป็นปัญหาที่คนๆ ไป กล่าวคือการที่ระบบเลือก ส.ว. หรือ พ.ร.ป.เลือก ส.ว.ไม่ดี หรือการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ดี ไม่ได้แปลว่าจะเป็นโมฆะ ในภาพรวมต้องเดินหน้าต่อ” ผศ.ดร.ปริญญาชี้
ผศ.ดร.ปริญญาตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การประกาศที่ว่า ส.ว.ชุดก่อนจะดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะมี ส.ว.ชุดใหม่ หมายถึงต้องครบ 200 ใช่หรือไม่ ถึงจะเป็น ส.ว.ชุดใหม่ ที่มาแทนชุดปัจจุบัน มีปัญหาตรงข้อกฎหมายนี้อยู่
ปรากฎการณ์ สว.สีน้ำเงินคุมสภาสูง เกมบ้านใหญ่เหนือชั้น ภูมิใจไทยเรือธงปีกอนุรักษนิยม
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4652191
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ ช่อ พรรณิการ์ วานิช คณะก้าวหน้า วิเคราะห์ปรากฎการณ์ สว.สีน้ำเงินคุมสภาสูง สว.สีน้ำเงิน 130 คน
สว.ประชาชน 30 คน และกลุ่มอื่นๆ อีกที่ยังไม่ทราบฝ่าย 40 คน บ้านใหญ่ระเบียบมั่นคงแข็งแรง เรื่องการจัดตั้งและคณิตศาสตร์ทางการเมืองสีน้ำเงินแม่นจริงๆ ฝ่ายอนุรักษนิยมถ่ายเททายาทอสูรไปสู่พรรคน้ำเงินเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย ได้รับการสถาปนาให้เป็นตัวแทนของฝ่ายอนุรักษนิยมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป