ต้องไปเริ่มงานใหม่แต่หัวใจพังสลายจากที่เก่า รู้สึกไร้คุณค่าเหมือนไม่มีแรงเริ่มต้นค่ะ

เราอายุ 31 ทีอาชีพกราฟฟิคค่ะก่อนหน้านี้เราทำงานที่โรงพิมพ์เล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งโรงพิมพ์แห่งนี้เกิดขึ้นเพราะว่าเจ้านายต้องการมีโรงพิมพ์ที่ซัพพอร์ตกับธุรกิจหลักเรามีหน้าที่ทำกราฟฟิค ซึ่งก่อนนี้มีพี่อีกคนนึงคอยดูแลเรื่องเอกสารแต่พอพี่ที่ดูแลเรื่องเอกสารออกไปเราก็รับหน้าที่แทนทั้งทำกราฟฟิคตีราคาสติกเกอร์เสนอราคาสติกเกอร์คุมเครื่องจักรไดคัทชิ้นงานคอยดูแลสต๊อกกระดาษดิวกับ ลูกค้าทวงเงินลูกค้าและทำกราฟฟิคให้กับธุรกิจหลักของเจ้านายทั้งแพ็คเก็จจิ้งและงานอื่นๆที่ได้รับมอบหมายซึ่งงานของเราขึ้นตรงกับเจ้านายเราก็ได้รับคำชมด้วยดีมาตลอดทำอยู่สามปีก็รู้สึกว่างานที่ทำมันเยอะ เกินไปบางทีคุมเครื่องจักรก็ไม่มีเวลาทำงานออกแบบเพราะต้องดูเครื่องจักรตลอดเวลาแล้วก็ไม่มีคนมาช่วยแบบจริงจัง
   จึงตัดสินใจลาออกตอนสิ้นปีแล้วมาเริ่มต้นงานใหม่ตอนปีใหม่ ซึ่งเป็นงานในรูปแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดทั้งการใช้กล้อง การรีทัชที่ลึกขึ้นซึ่งก่อนหน้านี้ตำแหน่งนี้ก็มีคนไม่ผ่านโปรมาแล้วสองคน ลาออกเพราะซึมเศร้าจากตำแหน่งและหัวหน้างานอีกคนนึง ทำให้เรารู้สึกกดดันว่ากลัวจะไม่ผ่านโปรมากๆแล้วก็ตั้งใจมากๆประสบการณ์ทำงานของเรา มีมาทั้งหมด 8 ปีซึ่งเราก็มีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าเราเก่งเราสามารถจัดการทุกอย่างได้แต่พอเอาเข้าจริงๆพอมาทำงานที่ใหม่เรามีหัวหน้าที่เก่งกว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าจริงๆ เหมือนออกมานอกกะลาน่ะค่ะ 555|แล้วหัวหน้าเราเป็นคนที่เนี้ยบมากๆมาตรฐานสูงเรายินดีที่จะเรียนรู้จากเขาในทุกๆอย่างที่เขาสอนหรือทุกๆการแก้งานเราไม่หงุดหงิดเลยเพราะงานไม่สวยเราก็ต้องแก้มันเป็นเรื่องปกติ จนเราสามารถผ่านโปร 4 เดือนได้ อย่างทุลักทุเลและเหงาๆ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือหัวหน้าของเราวิจารณ์งานค่อนข้างถึงพริกถึงขิงตามประสาคนที่เก่งกว่าทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่เก่งเลยที่ผ่านมางานของเรา มันด้อยมาก เช่น พูดว่างานที่กำลังทำแบบนี้มันเชยมันเป็นงานตลาดอีกเกรดนึงอะไรแบบนั้น จากความที่มั่นใจเราตั้งใจมากๆมันเริ่มรู้สึกว่าเราไม่มีคุณค่าอะไรเลย แล้วด้วยความใหม่ทำให้เราทำงานค่อนข้างช้ากว่าหัวหน้า เราค่อนข้างจิตตกทำให้เราไม่สามารถเข้ากับหัวหน้าได้หรือไปกินข้าวด้วยได้เลยแยกตัวก่อนผ่านโปรเรารู้ตัวแล้วว่าเราไม่น่าจะเหมาะจากความกดดันหลายหลายอย่างทำงานเสร็จไม่ทันต่างๆนานาแต่หัวหน้าก็บอกว่าเราทำได้ จนครั้งที่จะตัดสินใจเด็ดขาดก็คือหัวหน้าวิจารณ์งานเราเหมือนเดิมว่าเคยสอนเราไปแล้วต่างๆนาๆ พอครั้งนี้มันรับไม่ไหวมานั่งร้องไห้อยู่ที่โต๊ะทำงาน 2 ชั่วโมง จนปรึกษาหัวหน้าทีมซึ่งเป็นหัวหน้ากราฟฟิคเหมือนกันแต่คนละส่วนแล้วก็ไม่ค่อยคลิกกับหัวหน้าเราเท่าไหร่ แต่ว่าอีกทีมหนึ่งสามารถทำงานแบบช่วยเหลือกันได้ทุกอย่างแต่เราทำงานคนเดียวถ่ายรูปคนเดียวจัดฉากคนเดียว ไม่มีใครช่วยเลยซึ่งแตกต่างจากอีกทีมมาก พี่หัวหน้าทีมก็เฉลยทุกอย่างให้เราฟังว่าหัวหน้าเราเป็นคนแบบไหนอะไรยังไง
   เราเลยตัดสินใจหางานใหม่ในเดือนที่ 6 แล้วก็ได้งานที่ใกล้บ้านมากขึ้นอีก ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก 2000 ได้หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เก่าเสาร์เว้นเสาร์ค่ะ แต่ว่าตอนนี้เราร้องไห้ทุกวันเราเกิดความกังวลว่าเราจะเจอหัวหน้าแบบเดิมหรือแย่กว่าเดิมไหมถ้าเจอเราจะรับได้ไหมถ้ามีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเราจะรับมือยังไงเหมือนความมั่นใจมันหายไปหมดเลยแต่เราก็ต้องเหมือนฝืน ที่จะตั้งสติไปเริ่มงานใหม่โดยที่แทบไม่มีเวลาพักเลย เพราะลาออกจากที่เก่าสิ้นเดือนนี้และเริ่มงานใหม่วันที่ 1 รู้สึกเหมือนไม่มีแรงจะทำอะไรใจนึงก็กลัวคิดถึงที่นี่เพราะก็เริ่มสนิทกับหัวหน้าอีกทีม และสนิทกับน้องๆอีกฝั่งที่ไม่ได้ร่วมงานหรือเกี่ยวข้องในงานด้วยกันเลย ลืมบอกไปว่าตอนลาออกเจ้านายเสนอกับหัวหน้าเราว่าจะย้ายเราไปช่วยอีกฝั่งหัวหน้าจะยินดีไหมเหมือนว่าช่วยให้เราอยู่ได้แต่เราไม่รับข้อเสนอเพราะเราได้งานที่ดีกว่า (ฝั่งที่จะย้ายไปเงินเดือนตันง่ายฟังจากพี่คนที่อยู่มาหลายๆปี)  เราอยากไปเริ่มใหม่เพราะก็หาตั้งแต่ก่อนผ่านโปรแล้วค่ะ แต่ก็กลัวว่าเราจะตัดสินใจผิดพลาดที่ทิ้งที่นี่ กลัวกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง กลัวทำงานที่ใหม่ไม่ได้ ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไงค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่