ฟองน้ำล้างจาน ควรจะต้องเปลี่ยนเมื่อใด สังเกตอย่างไรล่ะเน่อ ?



      ฟองน้ำล้างจานสามารถสะสมสิ่งสกปรกได้ง่าย เพราะว่ามีโครงสร้างที่เป็นรูพรุน รูพรุนเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนกับบ้านของเชื้อโรค เศษอาหาร และคราบสกปรกต่างๆ

สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ฟองน้ำล้างจานสะสมสิ่งสกปรกได้ง่าย มีดังนี้

ความชื้น: ฟองน้ำล้างจานมักเปียกน้ำอยู่เสมอ ความชื้นเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค

เศษอาหาร: เศษอาหารที่ติดอยู่บนจาน ชาม หรืออุปกรณ์ครัวอื่นๆ จะติดอยู่บนฟองน้ำล้างจานเมื่อเราใช้ฟองน้ำล้างจาน

คราบสกปรก: คราบสกปรกจากน้ำมัน ไขมัน และสิ่งสกปรกอื่นๆ จะเกาะติดบนฟองน้ำล้างจาน

อุณหภูมิ: อุณหภูมิห้องครัวที่อบอุ่น เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค

วิธีป้องกันฟองน้ำล้างจานสะสมสิ่งสกปรก

       
1.  ล้างฟองน้ำล้างจานด้วยน้ำยาล้างจานและน้ำสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน: วิธีนี้จะช่วยขจัดเศษอาหาร คราบสกปรก และน้ำมันออกจากฟองน้ำล้างจาน

2.  บีบฟองน้ำล้างจานให้แห้ง: น้ำที่ขังอยู่ในฟองน้ำล้างจานเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

3.  แขวนฟองน้ำล้างจานในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก: อากาศถ่ายเทสะดวกจะช่วยให้ฟองน้ำล้างจานแห้งเร็ว

4.  เปลี่ยนฟองน้ำล้างจานใหม่ทุก 1-2 เดือน: ฟองน้ำล้างจานที่ใช้มานานจะมีรูพรุนใหญ่ขึ้น ทำความสะอาดยาก และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากขึ้น

สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาเปลี่ยนฟองน้ำล้างจานใหม่

1.  ฟองน้ำล้างจานมีกลิ่นเหม็น: กลิ่นเหม็นบนฟองน้ำล้างจานเป็นสัญญาณว่ามีเชื้อโรคสะสมอยู่
2.  ฟองน้ำล้างจานมีสีดำหรือสีเขียว: สีดำหรือสีเขียวบนฟองน้ำล้างจานเป็นสัญญาณว่ามีเชื้อราขึ้น
3.  ฟองน้ำล้างจานมีสภาพเปื่อยยุ่ย: ฟองน้ำล้างจานที่เปื่อยยุ่ย ทำความสะอาดได้ยาก และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
4.  การดูแลรักษาฟองน้ำล้างจานอย่างถูกต้อง จะช่วยป้องกันไม่ให้ฟองน้ำล้างจานสะสมสิ่งสกปรก และช่วยให้เราสามารถใช้งานฟองน้ำล้างจานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่