คำพูดที่นำเสนอต่อไปนี้ เป็นของพี่มาร์ค มิเนอร์วินี จากหนังสือ Trade Like a Stock Market Wizard
พิมพ์ครั้งแรก ชื่อ "เทรดแบบเซียนหุ้นให้ได้กำไรขั้นเทพ" ซึ่งปกนี้เลิกพิมพ์ไปแล้ว
ปัจจุบันมีแปลอีกรอบชื่อ "เทรดอย่างพ่อมดตลาดหุ้น" ครับ


เล่มนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ขาดทุนยับจากการเล่นหุ้นขาลง ซื้อหุ้นตามชื่อ ซื้อถือยาวตามพื้นฐานแต่รู้ไม่จริง จึงขาดทุนยับเยิน
พี่มาร์ค ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยทำแบบนี้ แล้วหมดตัวไป 2 ครั้ง จึงเปลี่ยนแนวทางการคัดเลือกหุ้นใหม่
(เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เซียนก็เคยล้มเหลว ขาดทุนยับเยินในช่วงแรกเหมือนเม่า)
(อ่านประวัติของแกในเล่มนี้ แล้วคุณอาจจะเห็นตัวเองในนั้นครับ)
จากเลือกหุ้นตามความรู้สึก/ตามคำแนะนำคนอื่น ก็เลือกตามกราฟแทน
ซึ่งแนวทางเขาคือ คัดหุ้นตามพื้นฐาน(ด้วยการแสกนตัวเลขทางการเงิน) + ซื้อและขายตามกราฟ
แบบนี้เรียกว่า Techno Fundamental หรือถ้าเป็นชื่อที่รู้จักกันติดปากคือ CANSLIM นั่นเองครับ

นี่คือคำพูดที่อาจช่วยเปิดโลกให้คุณ

##เขาไม่ซื้อหุ้นขาลง
"ไม่ควรด่วนสรุปว่าหุ้นมีราคาถูกเพราะราคาร่วงลงจากจุดสูงสุดถึง 50-60%
ยิ่งหุ้นลงมากเท่าไหร่ผู้ซื้อที่เข้าไปติดกับดักก็ยิ่งรับภาระหนักขึ้นเท่านั้น
หากคนไหนมีโอกาสขายทำกำไรก็ยิ่งอยากขายมากขึ้นเท่านั้น"

"ผมไม่ค่อยซื้อหุ้นที่ปรับตัวลง 60% หรือมากกว่า
หุ้นปรับตัวลงมากมักส่งสัญญาณว่ามีปัญหารุนแรง
กรอบการปรับฐานเชิงสร้างสรรค์มากที่สุดอยู่ระหว่าง 10% - 35%"


##เขาชอบเทรดหุ้นนำตลาด
"หุ้นโปรดของผม หุ้นเทรดได้เงินมากที่สุดคือหุ้นนำตลาด
หุ้นนำตลาดดูง่าย แต่นักลงทุนทำใจซื้อหุ้นได้ยาก 
ราคาหุ้นนำตลาดปรับขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดในขั้นตอนแรกๆของตลาดขาขึ้น
หุ้นขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ใหม่ก่อน ขึ้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อ จนทำให้นักลงทุนคิดว่าหุ้นพวกนี้วิ่งเร็วจนเกินไป 
จนทำให้พวกเขาไม่กล้าซื้อ ทั้งๆที่เป็นหุ้นตัวเก่งสุดที่พร้อมเป็นหุ้นดาวรุ่ง"

"กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีหุ้นจำนวนมากทำจุดสูงสุดในตลาดกระทิงก่อน มักจะเป็นผู้นำตลาด 
พอร์ตลงทุนของคุณควรมีหุ้นตัวเก่งสุดใน 4-5 อันดับแรกของหมวด"

"หุ้นดาวรุ่งเริ่มพุงกระฉุดเป็นประวัติการณ์เมื่อตลาดรวมปรับฐานเสร็จแล้ว หรือหลุดจากตลาดหมีได้ 
สิ่งที่น่าสนใจคือ มีหุ้นนำตลาดจำนวนหนึ่งพุ่งแรงได้ในภาวะตลาดหมี"

"หุ้นดาวรุ่งจำนวนมากกว่า 90% ปรากฎให้เห็นในช่วงตลาดหมี และช่วงตลาดรวมปรับฐาน 
หัวใจหลักคือ ทำการบ้านช่วงตลาดขาลง แล้วก็เตรียมตัวเก็บกำไรก้อนใหญ่ตอนหุ้นขึ้น"

"หุ้นนำตลาดตัวจริงจะทรงตัวได้ดีที่สุดและวิ่งขึ้นทำจุดสูงสุดจากจุดต่ำสุดในช่วง 4-8 สัปดาห์แรกในตลาดกระทิงรอบใหม่
และวิ่งขึ้นได้แรงมาก ดังนั้นคุณต้องไม่ทิ้งโอกาสทองนี้ไป"

"มีคำถามว่า ควรซื้อหุ้นตัวไหนก่อน?
คำตอบง่ายมาก คือ ซื้อตัวที่แข็งแกร่งสุดก่อน
เมื่อพบว่าตลาดกลับตัวจากจุดต่ำสุดได้แล้ว - ผมชอบซื้อหุ้นที่ทะลุไฮเดิม 
มันมักจะเป็นหุ้นกลุ่มแรกที่พุ่งระเบิดก่อน และแสดงตัวขึ้นมาให้เห็นก่อนนับจากจุดซื้อเหมาะสม และทำจุดสูงสุดใหม่"

"หากตลาดกำลังทำจุดต่ำสุด หุ้นตัวเก่งจะทำจุดต่ำสุดก่อนตลาดรวม
ในขณะเดียวกันตอนที่ตลาดรวมทำจุดต่ำสุดใหม่ลดลงเรื่อยๆ ช่วงตลาดขาลงรอบสุดท้าย
หุ้นนำตลาดจะวิ่งฉีกออกจากกลุ่มเพื่อทำนิวไฮขึ้นไปเรื่อยๆ"


การตัดขาดทุน
"อย่ายอมให้ตัวเองเสียเงินมากจนทำให้พอร์ตมีความเสี่ยง
ยิ่งขาดทุนมากยิ่งฟื้นยาก"

"นักลงทุนเข้าใจดีว่า วินัยเป็นสิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้ไว้ถ้าอยากเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ 
แต่ส่วนใหญ่ทำไม่ได้ตลอดเวลา
วิธีดีที่สุดคือ ยอมรับการตัดสินของตลาดซะ"

"ไม่ว่าหลักการหรือวิธีการลงทุนหุ้นของคุณเป็นอย่างไร 
หนทางเดียวที่จะปกป้องพอร์ตของคุณไม่ให้หายนะได้คือ
"ขายตอนที่คุณยังขาดทุนไม่มาก" "

"วินัยเคร่งครัดที่สุดสำหรับนักลงทุนที่ต้องทำตามอย่างสม่ำเสมอ คือการ "ตัดขาดทุน" 
เพราะนั่นหมายถึงการยอมรับว่าซื้อพลาด และไม่มีใครอยากทำผิด"

"การเลี่ยงขาดทุนก้อนใหญ่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการชิงชัยนำไปสู่การเป็นนักเก็งกำไร 
คุณควบคุมไม่ได้ว่าหุ้นขึ้นไปได้เท่าไหร่
แต่ส่วนมากแล้วการยอมขาดทุนนิดหน่อยหรือขาดทุนก้อนโตก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คุณเลือกเองทั้งนั้น"

"การจะเชี่ยวชาญในศิลปะการเก็งกำไรนั้น คุณต้องยอมรับศักยภาพด้านอันตรายของตัวคุณเอง 
ทันทีที่คุณเข้าใจและรู้จักศักยภาพนี้แล้ว คุณก็จะควบคุมโชคชะตาและสร้างความสม่ำเสมอได้
เมื่อลงทุนพลาดไปแล้ว คุณต้องทุ่มเทเวลาและความพยายามในการเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ขาดทุนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ 
คุณต้องเรียนรู้วิธีหลบเลี่ยงความผิดมหันต์ให้ได้"

"จุดอ่อนของนักพนนันและนักเก็งกำไรส่วนใหญ่ คือ "อยากเล่นทุกตา"
เป็นจุดด้อยทั่วไปของมนุษย์ที่ยอมให้ความใจร้อนอยูเหนือการตัดสินใจดีๆ"

"ไม่มีใครเก่งมากเสียจนไม่เคยขาดทุน การเทรดพลาดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 
แต่การทำผิดโดยไม่ยอมปรับตัวเป็นสิ่งที่คุณเลือกเอง"

"การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรดและการลงทุน 
ถ้าคุณไม่เตรียมรับมือกับการขาดทุน คุณก็เตรียมตัวเสียเงินก้อนโตในตอนสุดท้ายได้เลย"

"ตลาดทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองโง่ นี่เป็นวิธีที่ตลาดให้กดดันให้คุณทำอะไรโง่ๆ 
อย่ายอมแพ้ จงมีวินัยและตัดขาดทุนไป"

"ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย ถ้าขาดทุนหุ้น แต่การยังถือให้ขาดทุนต่อและปล่อยให้ขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ
หรือแย่ยิ่งกว่าคือการซื้อเพิ่ม เป็นการกระทำของ "มือสมัครเล่น" และ "ทำร้ายตัวเอง"


"แตกต่างกันไหม ถ้าคุณยังคงถือหุ้นที่ราคาปรับลง 10%
และคอยให้มันฟื้นกลับมาและให้ข่าวร้ายๆหมดไป?
หรือไปซื้อหุ้นตัวใหม่ที่ดูดี ตั้งแต่เริ่มต้น?
คำตอบคือ เป็นเรื่องอีโก้ของคุณล้วนๆ
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ สามารถเปลี่ยนเกียร์และยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ 
พวกเขาไม่ตกหลุมรักหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง และไม่สนใจเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนเป็นเลวร้ายขึ้น
เป้าหมายคือทำเงิน ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าคุณถูกและตลาดหุ้นผิด
จงเดินหน้าและหาหุ้นตัวใหม่"


แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
เพจ Zyo Books: https://www.facebook.com/zyobooks
60 คำคมจากหนังสือ: https://www.zyo71.com/2017/04/60.html
บทสัมภาษณ์ลงหนังสือ Stock Market Wizards: https://www.zyo71.com/2019/02/mark-minervini-stock-around-clock.html
600+ บทความการเทรดที่เหมาะสำหรับมือใหม่: https://www.zyo71.com/p/index.html