5/05/24
วันนี้ สถานพยาบาลค่อนข้างวุ่นวายกว่าวันอื่นๆ นั่นเพราะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่มี la Messa (มิสซา) แต่จะว่าไป เราก็วุ่นกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้วหล่ะ...หลังจากการประชุมเล็กๆเพื่อรับข้อมูลต่างๆของผู้พักอาศัยจากเพื่อนร่วมงานกะกลางคืน ฉันก็เดินตามซุปเปอร์ไวเซอร์ ซึ่งเป็นหัวหน้างานของฉันตลอดระยะการฝึกงานที่นี่ เข้าไปในห้องพักของผู้พักอาศัย โดยจะขอเรียกสั้นๆง่ายๆว่าคนแก่ก็แล้วกัน
ฉันกดสัญญาณไฟหน้าห้องให้เป็นสีเขียว เพื่อให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆทราบว่าห้องนี้มีพนักงานอยู่ เวลาที่ต้องการตามตัวก็จะง่ายหน่อย.. ตามข้อมูลที่ได้จากกะกลางคืน เราจะรู้ว่าคนแก่คนไหนมีนัดตรวจสุขภาพ หรือมีธุระจะต้องออกไปข้างนอกสถานพยาบาลกับญาติๆ ดังนั้นเราจะเริ่มเช็ดตัวให้กับคนที่มี la priorità ก่อน
หลังจากเช็ดตัว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และแต่งตัวด้วยชุดที่สะอาดให้กับคนแก่แล้ว เราจะเคลื่อนย้ายเขาลงจากเตียงเพื่อนั่งลงบนรถเข็น ที่นี่คนแก่ส่วนใหญ่จะนั่งรถเข็น กันเนื่องจากปัญหาสุขภาพด้านต่างๆ แล้วจึงเข็นพาไปห้องอาหาร สำหรับมื้อเช้าจะเป็นชา กาแฟ คุกกี้ และครัวซองต์ เมื่อเราส่งมอบคนแก่ให้กับเพื่อนร่วมงานที่คอยบริการประจำห้องอาหารแล้ว เราก็จะไปเช็ดตัวให้คนอื่นๆจนครบจำนวนคนตามที่ได้แบ่งงานกับเพื่อนๆ
เมื่อคนแก่บางคนเริ่มกินอาหารเช้าเสร็จ เราก็จะพาลงลิฟต์ไปที่ชั้นกราวนด์ เพื่อส่งต่อให้กับเพื่อนร่วมงานประจำชั้นนั้นเข็นคนแก่ที่ต้องการเข้าร่วมพิธีมิสซาไปยังโบสถ์เล็กๆที่ก็ตั้งอยู่ในสถานพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง... ตรงนี้หล่ะที่ค่อนข้างวุ่นวาย เพราะชั้นอื่นๆก็ต้องนำคนแก่ลงมาชั้นกราวนด์ด้วยเช่นกัน แม้จะมีลิฟต์ 2 ตัวแต่ก็ยังต้องรอคิว รถเข็นจึงออติดกันเป็นพรืดหน้าลิฟต์ในทุกๆชั้น
หลังจากพิธีมิสซา เราก็พาคนแก่มาที่ห้องนั่งเล่น ใครมีญาติมาเยี่ยมก็จะชวนกันจับกลุ่มนั่งคุยกันตามโต๊ะที่จัดไว้ให้ในมุมต่างๆ บางกลุ่มก็ออกไปนั่งกันที่ระเบียง และสำหรับคนที่กำลังรอญาติหรือที่ญาติไม่มาในวันนี้ ก็จะมีพนักงานที่อยู่แผนก l'animazione หากิจกรรมต่างๆให้ทำ แต่ด้วยวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่ไม่มีกิจกรรมให้ ก็จะมีการเปิดหนังให้คนแก่ดู และสำหรับบางคนที่อ่อนล้า ก็ให้หนังเป็นฝ่ายดูแทน...
...ฉันเฝ้ามองคนแก่เหล่านี้จากเบื้องหลัง ก่อนหน้านี้ชีวิตเขาเป็นอย่างไรนะ จากเด็กน้อยที่ค่อยๆเติบโตในครอบครัวของตัวเอง ไปโรงเรียน ทำงาน สร้างครอบครัว และแล้วก็ถึงวัยเกษียณ... 10 คน 10 หมื่นเรื่องราว จะเทียบได้ไหมหนอ และสิ่งเหล่านั้นยังอยู่ในความทรงจำหรือช่างพร่าเลือนเต็มทีแล้ว.. ฉันเองก็เริ่มเส้นทางจากแผ่นดินโพ้นทะเล และเดินทางมาครึ่งทางแล้ว จนกระทั่งเวลานี้พวกเขาที่อยู่ตรงหน้าก็มาเป็นส่วนหนึ่งให้ได้ปฏิสัมพันธ์และทรงจำไว้ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง และสำหรับพวกเขาก็คงไม่ต่างกัน... ในความคะนึงฉันอาจจะถึงสถานีปลายทางก่อนพวกเขาก็ได้ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน หรือจะกล่าวให้ถูกต้องไปกว่านั้น ไม่มีสิ่งใดเป็นของเที่ยงแท้แน่นอนเลย แต่คงเว้นไว้เพียง...
#รูปจากอินเตอร์เน็ต RSA di Regina, Arco, Italia
#ฉันแอบถ่ายรูปนี้มาเก็บเอาไว้ก่อนที่จะฝึกงานเฟส 2 เสร็จสิ้น
ขึ้นที่นี่ ต่างเส้นทาง และลงสถานีเดียวกัน
วันนี้ สถานพยาบาลค่อนข้างวุ่นวายกว่าวันอื่นๆ นั่นเพราะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่มี la Messa (มิสซา) แต่จะว่าไป เราก็วุ่นกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้วหล่ะ...หลังจากการประชุมเล็กๆเพื่อรับข้อมูลต่างๆของผู้พักอาศัยจากเพื่อนร่วมงานกะกลางคืน ฉันก็เดินตามซุปเปอร์ไวเซอร์ ซึ่งเป็นหัวหน้างานของฉันตลอดระยะการฝึกงานที่นี่ เข้าไปในห้องพักของผู้พักอาศัย โดยจะขอเรียกสั้นๆง่ายๆว่าคนแก่ก็แล้วกัน
ฉันกดสัญญาณไฟหน้าห้องให้เป็นสีเขียว เพื่อให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆทราบว่าห้องนี้มีพนักงานอยู่ เวลาที่ต้องการตามตัวก็จะง่ายหน่อย.. ตามข้อมูลที่ได้จากกะกลางคืน เราจะรู้ว่าคนแก่คนไหนมีนัดตรวจสุขภาพ หรือมีธุระจะต้องออกไปข้างนอกสถานพยาบาลกับญาติๆ ดังนั้นเราจะเริ่มเช็ดตัวให้กับคนที่มี la priorità ก่อน
หลังจากเช็ดตัว เปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และแต่งตัวด้วยชุดที่สะอาดให้กับคนแก่แล้ว เราจะเคลื่อนย้ายเขาลงจากเตียงเพื่อนั่งลงบนรถเข็น ที่นี่คนแก่ส่วนใหญ่จะนั่งรถเข็น กันเนื่องจากปัญหาสุขภาพด้านต่างๆ แล้วจึงเข็นพาไปห้องอาหาร สำหรับมื้อเช้าจะเป็นชา กาแฟ คุกกี้ และครัวซองต์ เมื่อเราส่งมอบคนแก่ให้กับเพื่อนร่วมงานที่คอยบริการประจำห้องอาหารแล้ว เราก็จะไปเช็ดตัวให้คนอื่นๆจนครบจำนวนคนตามที่ได้แบ่งงานกับเพื่อนๆ
เมื่อคนแก่บางคนเริ่มกินอาหารเช้าเสร็จ เราก็จะพาลงลิฟต์ไปที่ชั้นกราวนด์ เพื่อส่งต่อให้กับเพื่อนร่วมงานประจำชั้นนั้นเข็นคนแก่ที่ต้องการเข้าร่วมพิธีมิสซาไปยังโบสถ์เล็กๆที่ก็ตั้งอยู่ในสถานพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง... ตรงนี้หล่ะที่ค่อนข้างวุ่นวาย เพราะชั้นอื่นๆก็ต้องนำคนแก่ลงมาชั้นกราวนด์ด้วยเช่นกัน แม้จะมีลิฟต์ 2 ตัวแต่ก็ยังต้องรอคิว รถเข็นจึงออติดกันเป็นพรืดหน้าลิฟต์ในทุกๆชั้น
หลังจากพิธีมิสซา เราก็พาคนแก่มาที่ห้องนั่งเล่น ใครมีญาติมาเยี่ยมก็จะชวนกันจับกลุ่มนั่งคุยกันตามโต๊ะที่จัดไว้ให้ในมุมต่างๆ บางกลุ่มก็ออกไปนั่งกันที่ระเบียง และสำหรับคนที่กำลังรอญาติหรือที่ญาติไม่มาในวันนี้ ก็จะมีพนักงานที่อยู่แผนก l'animazione หากิจกรรมต่างๆให้ทำ แต่ด้วยวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่ไม่มีกิจกรรมให้ ก็จะมีการเปิดหนังให้คนแก่ดู และสำหรับบางคนที่อ่อนล้า ก็ให้หนังเป็นฝ่ายดูแทน...
...ฉันเฝ้ามองคนแก่เหล่านี้จากเบื้องหลัง ก่อนหน้านี้ชีวิตเขาเป็นอย่างไรนะ จากเด็กน้อยที่ค่อยๆเติบโตในครอบครัวของตัวเอง ไปโรงเรียน ทำงาน สร้างครอบครัว และแล้วก็ถึงวัยเกษียณ... 10 คน 10 หมื่นเรื่องราว จะเทียบได้ไหมหนอ และสิ่งเหล่านั้นยังอยู่ในความทรงจำหรือช่างพร่าเลือนเต็มทีแล้ว.. ฉันเองก็เริ่มเส้นทางจากแผ่นดินโพ้นทะเล และเดินทางมาครึ่งทางแล้ว จนกระทั่งเวลานี้พวกเขาที่อยู่ตรงหน้าก็มาเป็นส่วนหนึ่งให้ได้ปฏิสัมพันธ์และทรงจำไว้ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง และสำหรับพวกเขาก็คงไม่ต่างกัน... ในความคะนึงฉันอาจจะถึงสถานีปลายทางก่อนพวกเขาก็ได้ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน หรือจะกล่าวให้ถูกต้องไปกว่านั้น ไม่มีสิ่งใดเป็นของเที่ยงแท้แน่นอนเลย แต่คงเว้นไว้เพียง...
#รูปจากอินเตอร์เน็ต RSA di Regina, Arco, Italia
#ฉันแอบถ่ายรูปนี้มาเก็บเอาไว้ก่อนที่จะฝึกงานเฟส 2 เสร็จสิ้น