ด้วยกติกาใหม่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ
1. อายุ 40 ปีลงมา ไม่อาจมีส่วนร่วมทางการเมือง
สมัคร สว ไม่ได้ และไม่มีสิทธิเลือก สว
สมัครไม่ได้ พอจะเข้าใจ เพราะบทบาทคือ กลั่นกรอง กม
จึงต้องการผู้มีวัยวุฒิ แต่คนครึ่งประเทศกำลังไม่มีสิทธิเลือก สว
ด้วยกติกานี้ กล่าวได้ว่า พวกเขาถูกกันออกจากการตัดสินใจทางการเมือง
2. ต้องประกอบอาชีพเดิม 10 ปีขึ้นไป
ในยุคใหม่ คน 1 คน ไม่ได้ประกอบอาชีพเดียว
บางคนทำ 2-3 อาชีพ หรือ เปลี่ยนอาชีพ 2 ครั้งใน 10 ปี
ต่างจากคนยุคก่อน ที่งานครอบครองเวลาเกือบทั้งชีวิต
เช่น เรียนตำรวจ จบแล้วเป็นตำรวจไปจนเกษียณ
3. ต้องมีเงิน 2500 บาท จึงมีสิทธิเข้าไปยกมือเลือก สว
มีทุนสมัคร + มีค่าเดินทางไปเลือกตั้งระดับชาติ + มีเวลา
จำนวนคนที่ทำได้ ยิ่งน้อยลงไปอีก
"ต้องมีเงิน จึงจะมีสิทธิเข้าไปเลือก สว ได้"
น่าคิดว่า แล้วความเท่าเทียมของคนในชาติ ... อยู่ตรงไหน?
4. Focus Group ที่ได้ น่าจะเป็นคนอายุเยอะ มีเวลา
ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง สะท้อนจากประกอบอาชีพเดียวเกิน 10 ปี
ไม่เข้าใจเทคโนโลยีในยุคเอไอมากนัก ในขณะที่สังคมเผชิญกับสิ่งท้าท้ายใหม่ๆ
ต้องการผู้ที่เข้าใจ จึงจะกลั่นกรอง กม ให้เหมาะสมได้
5. สุ่มเสี่ยงต่อการซื้อเสียง
เพราะไม่ต้องใช้เงินกับคนเป็นล้าน
พอเป็นระดับชาติ จำนวนคนเข้ารอบหลักร้อยเท่านั้น
แถมยังทราบตัวบุคคล ที่อาจเข้าถึงและเจรจาได้ง่าย
ไม่ต้องหว่านเงิน แค่ส่งเงิน ถึงคนกลุ่มเป้าหมาย
อะไรจะเกิดขึ้นถ้า สว เกิน 50 คน มีสายใย/ภูมิหลัง อิงกับพรรคใดพรรคหนึ่ง
รอดูว่า สัดส่วน baby boomers กี่เปอร์เซนต์ และ Gen X กี่เปอร์เซนต์
เสนอแนะ การเลือก สว ครั้งต่อไป
1. ให้คัดกันจนได้ 10 คนสุดท้ายต่อ 1 กลุ่มอาชีพ/อัตลักษณ์ แล้วให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้ง
ตามอาชีพ/อัตลักษณ์ของตนเอง ประชาชน 1 คน แสดงเจตจำนง ว่าต้องการเป็นผู้เลือกตั้งในกลุ่มใด
อาจจะให้คูหา มีสีที่แตกต่างกัน แยกกลุ่มอาชีพ/อัตลักษณ์ เช่น พิการ ชาติพันธุ์ย่อย
2. การออกกติกา ควรทำประชาพิจารณ์ หรือ เปิดให้สาธารณชนรับรู้ มีการอภิปรายทางสังคม
ก่อนรับรองเป็น กม/กติกา เลือก สว อย่างเป็นทางการ
ประเทศไทยเคยใช้วิธีประชาชนเลือก สว ในการเลือกตั้งยุคนั้น
ประชาชนไม่ได้ด้อยวิจารณญาณ ได้ สว น้ำดีเข้าไปทำงานในสภา
การที่ก้าวไกล ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด ประชาชนถูกปรามาส ว่าด้อยวิจารณญาณ
สมมุติ เราถอด ม. 112 ออกจากสลักการเมือง
คุณคิดว่า ก้าวไกล ยังคงเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดหรือไม่
หากเราใช้มันสมองคนวัยทำงานเมื่อ 40 ปีก่อน มาคุม กม.
กรณี 70% ของ สว ที่ได้ อายุเกิน 70 ปี
แน่นอนว่า Gen YZ ย่อมอึดอัด ปัญหาหลายอย่างของพวกเขา
อาจถูกมองข้าม และเข้าใจไม่ได้ โดย สว สูงวัย
ปริศนาเลือก สว 2024 หรือนี่คือกลเกมที่ซ่อนอยู่ ?
1. อายุ 40 ปีลงมา ไม่อาจมีส่วนร่วมทางการเมือง
สมัคร สว ไม่ได้ และไม่มีสิทธิเลือก สว
สมัครไม่ได้ พอจะเข้าใจ เพราะบทบาทคือ กลั่นกรอง กม
จึงต้องการผู้มีวัยวุฒิ แต่คนครึ่งประเทศกำลังไม่มีสิทธิเลือก สว
ด้วยกติกานี้ กล่าวได้ว่า พวกเขาถูกกันออกจากการตัดสินใจทางการเมือง
2. ต้องประกอบอาชีพเดิม 10 ปีขึ้นไป
ในยุคใหม่ คน 1 คน ไม่ได้ประกอบอาชีพเดียว
บางคนทำ 2-3 อาชีพ หรือ เปลี่ยนอาชีพ 2 ครั้งใน 10 ปี
ต่างจากคนยุคก่อน ที่งานครอบครองเวลาเกือบทั้งชีวิต
เช่น เรียนตำรวจ จบแล้วเป็นตำรวจไปจนเกษียณ
3. ต้องมีเงิน 2500 บาท จึงมีสิทธิเข้าไปยกมือเลือก สว
มีทุนสมัคร + มีค่าเดินทางไปเลือกตั้งระดับชาติ + มีเวลา
จำนวนคนที่ทำได้ ยิ่งน้อยลงไปอีก
"ต้องมีเงิน จึงจะมีสิทธิเข้าไปเลือก สว ได้"
น่าคิดว่า แล้วความเท่าเทียมของคนในชาติ ... อยู่ตรงไหน?
4. Focus Group ที่ได้ น่าจะเป็นคนอายุเยอะ มีเวลา
ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง สะท้อนจากประกอบอาชีพเดียวเกิน 10 ปี
ไม่เข้าใจเทคโนโลยีในยุคเอไอมากนัก ในขณะที่สังคมเผชิญกับสิ่งท้าท้ายใหม่ๆ
ต้องการผู้ที่เข้าใจ จึงจะกลั่นกรอง กม ให้เหมาะสมได้
5. สุ่มเสี่ยงต่อการซื้อเสียง
เพราะไม่ต้องใช้เงินกับคนเป็นล้าน
พอเป็นระดับชาติ จำนวนคนเข้ารอบหลักร้อยเท่านั้น
แถมยังทราบตัวบุคคล ที่อาจเข้าถึงและเจรจาได้ง่าย
ไม่ต้องหว่านเงิน แค่ส่งเงิน ถึงคนกลุ่มเป้าหมาย
อะไรจะเกิดขึ้นถ้า สว เกิน 50 คน มีสายใย/ภูมิหลัง อิงกับพรรคใดพรรคหนึ่ง
รอดูว่า สัดส่วน baby boomers กี่เปอร์เซนต์ และ Gen X กี่เปอร์เซนต์
เสนอแนะ การเลือก สว ครั้งต่อไป
1. ให้คัดกันจนได้ 10 คนสุดท้ายต่อ 1 กลุ่มอาชีพ/อัตลักษณ์ แล้วให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้ง
ตามอาชีพ/อัตลักษณ์ของตนเอง ประชาชน 1 คน แสดงเจตจำนง ว่าต้องการเป็นผู้เลือกตั้งในกลุ่มใด
อาจจะให้คูหา มีสีที่แตกต่างกัน แยกกลุ่มอาชีพ/อัตลักษณ์ เช่น พิการ ชาติพันธุ์ย่อย
2. การออกกติกา ควรทำประชาพิจารณ์ หรือ เปิดให้สาธารณชนรับรู้ มีการอภิปรายทางสังคม
ก่อนรับรองเป็น กม/กติกา เลือก สว อย่างเป็นทางการ
ประเทศไทยเคยใช้วิธีประชาชนเลือก สว ในการเลือกตั้งยุคนั้น
ประชาชนไม่ได้ด้อยวิจารณญาณ ได้ สว น้ำดีเข้าไปทำงานในสภา
การที่ก้าวไกล ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด ประชาชนถูกปรามาส ว่าด้อยวิจารณญาณ
สมมุติ เราถอด ม. 112 ออกจากสลักการเมือง
คุณคิดว่า ก้าวไกล ยังคงเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดหรือไม่
หากเราใช้มันสมองคนวัยทำงานเมื่อ 40 ปีก่อน มาคุม กม.
กรณี 70% ของ สว ที่ได้ อายุเกิน 70 ปี
แน่นอนว่า Gen YZ ย่อมอึดอัด ปัญหาหลายอย่างของพวกเขา
อาจถูกมองข้าม และเข้าใจไม่ได้ โดย สว สูงวัย