JJNY : เพจทะลุฟ้า ชวนบุกสภา-ทำเนียบ│อัยการตลิ่งชันยื่นฟ้องหมิ่น โรม│ศก.ซบ อยากขายมากกว่าซื้อ│ลอบสังหารนายกฯ สโลวาเกีย

เพจทะลุฟ้า ชวนบุกสภา-ทำเนียบ ยื่นทวงสิทธิประกันนักโทษทางการเมืองต่อรัฐบาล-กมธ.นิรโทษ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4577900
 
 
เพจทะลุฟ้า ชวนบุกสภา-ทำเนียบ ยื่นทวงสิทธิประกันนักโทษทางการเมืองต่อรัฐบาล-กมธ.นิรโทษ
 
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม เพจทะลุฟ้า – Thalufah โพสต์กรณี “บุ้ง เนติพร” เสียชีวิต โดยระบุว่า 

สิ่งที่เธอทำจะไม่สูญเปล่า

ชวนเชิญพี่น้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรม ร่วมกันยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้มีนโยบายคืนสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ณ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. และยื่นข้อเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการเร่งพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน ณ รัฐสภา เกียกกาย เวลา 12:30 น.

https://www.facebook.com/thalufah/posts/744982544505822?ref=embed_post


 
อัยการตลิ่งชันยื่นฟ้องหมิ่น โรม อภิปรายเปิดโปงเครือข่ายบ้านป่ารอยต่อ เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ศาลให้ประกันตัว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4577703

อัยการตลิ่งชันยื่นฟ้องหมิ่น รังสิมันต์ โรม อภิปรายเปิดโปงเครือข่ายบ้านป่ารอยต่อปี 63 เจ้าตัวให้การปฏิเสธสู้คดี ศาลให้ประกันตัว ไม่ต้องวางหลักทรัพย์
 
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน 2 ได้นำตัวนายรังสิมันต์ โรม จำเลย อายุ 30 ปี ส.ส.พรรคก้าวไกล มายื่นฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา
 
โดยพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2563 จำเลยได้หมิ่นประมาทใส่ความมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผู้เสียหายซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยการโฆษณาต่อประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งเป็นบุคคลที่สามโดยการกระจายเสียง กระจายภาพ โดยการป่าวประกาศโดยวิธีอื่นใด และประชาชนทั่วไปที่มีการรับรู้จากการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตจากโพสต์ใน twitter เว็บไซต์ประชาไท จะพบภาพและเสียงของจำเลยอภิปรายนอกที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร รังสิมันต์ โรม เปิดโปงเครือข่ายประวิตร-ป่ารอยต่อ โดยมีนายทุนสนับสนุนผลประโยชน์และอยู่เบื้องหลังโครงสร้างทางการเมืองรวมถึงการรัฐประหารอันเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง เหตุเกิดที่มูลนิธิป่ารอยต่อ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร และทุกแขวงในราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน
 
สอบคำให้การวันนี้ จำเลยให้การปฏิเสธ โดยศาลอนุญาตให้จำเลยได้รับการประกันตัวโดยสาบานตน มีเงื่อนไขให้มารายงานตัวต่อศาลทุกนัด



เศรษฐกิจซบ คนอยากขายมากกว่าซื้อ ดัน ‘บ้านมือ2’ ท่วมตลาด 9.9 แสนล้าน ติดหล่มกู้ไม่ผ่านพุ่ง 50%
https://www.matichon.co.th/economy/news_4577937

เศรษฐกิจซบ คนอยากขายมากกว่าซื้อ ดัน‘บ้านมือ2’ท่วมตลาด 9.9 แสนล้าน ติดหล่มกู้ไม่ผ่านพุ่ง 50%
 
วันที่ 15 พฤษภาคม นายปรีชา ศิภปิติพร นายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์โควิดจนถึงปี 2567 มีทรัพย์มือสองออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทรัพย์จากธนาคารเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทรัพย์ที่ออกจากธนาคารยังขายได้เรื่อยๆ เนื่องจากตั้งราคาค่อนข้างต่ำ มีการจัดโปรโมชั่น และมีการขายผ่านนายหน้า จึงทำให้สามารถระบายได้เร็ว ประกอบกับปีนี้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯออกมาในส่วนของลดค่าโอนและจดจำนอง สินเชื่อซอฟต์โลน ที่ครอบคลุมทั้งบ้านใหม่และมือสองด้วย คาดว่าจะทำให้กำลังซื้อในตลาดคึกคักมากยิ่งขึ้น

นายปรีชากล่าวว่า ตลาดบ้านมือสองยังประสบกับปัญหาถูกปฎิเสธสินเชื่อหรือรีเจ็กต์เรต ใกล้กับบ้านมือหนึ่งระดับ 40-50% สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และกู้ได้ไม่เต็ม 100% มาตรการLTV ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยังไม่ยกเลิกหรือผ่อนเปรนให้ก็มีผลกระทบเช่นกัน โดยทรัพย์มือสองจากแบงก์ อยู่ในกรุงเทพฯน้อย ส่วนใหญ่อยู่รอบนอก ราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ถ้าเป็นทรัพย์มือสองทั่วไปจะกระจายในหลายพื้นที่ ซึ่งคอนโดฯมีมากขึ้น ส่วนบ้านมีออกมาเรื่อยๆ
 
จากภาวะเศรษฐกิจ มีเปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่ หรือมีความต้องการหมุนเงิน พบว่ามีคนอยากขายมากกว่าซื้อ อย่างไรก็ดี ซึ่งบ้านมือสองยังขายได้ เพราะราคาถูกกว่าบ้านใหม่เกือบ 50% และอยู่ในทำเลสะดวก ใกล้โรงเรียน ทำให้คนซื้ออยู่เองและซื้อรีโนเวตเพื่อขายต่อ ปัจจุบันราคาขายยังไม่ตก แต่ไม่หวือหวา” นายปรีชากล่าว
 
นายปรีชากล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่าในปี 2567 มีที่ดินเปล่าออกมาขายมากขึ้น เพื่อลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ปีนี้จ่ายเต็ม 100% หากยังไม่ได้ทำประโยชน์ต้องจ่ายเพิ่มเท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นขนาด 1 ไร่ขึ้นไป และอยู่ในทำเลที่ราคาประเมินสูง มีทั้งที่ที่ดินส่วนบุคคลและบริษัทอสังหาฯที่ต้องการบริหารและจัดพอร์ตใหม่ นอกจากประกาศขายแล้ว ยังมีการปล่อยเช่า
 
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า สภาวะตลาดบ้านมือสองในประเทศไทยมีขนาดใหญ่พอสมควร โดยจำนวนอุปทานบ้านมือสองจะมีหน่วยที่มีเสนอขาย 60% เมื่อเทียบกับอุปทานตลาดบ้านใหม่ และในแต่ละปีมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์มากกว่า 2 แสนหน่วย มูลค่ากว่า 470,000 ล้านบาท จึงถือบ้านมือสองมีความสำคัญต่อตลาดอสังหาฯมาก จากที่ได้รวบรวมข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศที่ประกาศขายผ่านเว็บไซต์บริษัทภาคเอกชน และข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองของสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน บริษัทบริหารสินทรัพย์ภาครัฐและเอกชน และกรมบังคับคดี ที่ขายผ่านเว็บไซต์ตลาดนัดบ้านมือสองพบไตรมาส 4 ปี 2566 มีประกาศขาย 150,465 หน่วย มูลค่า 999,874 ล้านบาท
 
นายวิชัยกล่าวว่า ปี 2567 คาดตลาดบ้านมือสองจะขยายตัว 5-10% ตามภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัย เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาฯของรัฐบาล และทิศทางดอกเบี้ยที่อาจมีการปรับตัวลดลง 0.25%-0.50% อย่างไรก็ตามตลาดบ้านมือสองยังคงมีปัจจัยลบอยู่มาก โดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงผู้ซื้อบ้านมือสอง คาดว่าปีนี้บ้านมือสองอาจจะมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 2.3 แสนหน่วย มูลค่า 490,000 ล้านบาท.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่