โรคไซนัสอักเสบเป็นโรคที่เกิดการอักเสบติดเชื้อของโพรงอากาศในจมูก ซึ่งปกติโพรงไซนัสจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คู่ ได้แก่ บริเวณหน้าผาก บริเวณระหว่างหัวตา บริเวณโหนกแก้มข้างจมูก และบริเวณฐานกะโหลก โดยการอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้กับไซนัสทุกตำแหน่ง
ไซนัสอักเสบจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดาหรือโรคภูมิแพ้ แต่จะมีอาการรุนแรงและยาวนานมากกว่า เช่น คัดจมูก น้ำมูกข้นเขียวหรือเหลือง , เสมหะไหลลงคอ กระตุ้นให้เกิดการไอบ่อย, หายใจมีกลิ่นเหม็น, ปวดหัว หรือปวดขมับ หรือปวดบริเวณรอบๆ จมูกหรือหัวคิ้ว และหน้าผาก, ในบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีไข้สูง ตาบวมอักเสบ เป็นต้น
ไซนัสอักเสบ แบ่งเป็น 3 ชนิด ดังนี้
1. ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน (Acute Sinusitis) เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบ มีเสมหะมากขึ้น คัดจมูก จะมีอาการไม่เกิน 4 สัปดาห์
2. ไซนัสอักเสบชนิดกึ่งเฉียบพลัน (Subacute) คือ โรคไซนัสอักเสบที่มีอาการตั้งแต่ 4 ถึง 12 สัปดาห์
3. ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (chronic sinusitis) เป็นการอักเสบเรื้อรังที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อ โดยจะมีอาการเรื้อรังมานานกว่า 12 สัปดาห์ มักพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้
สาเหตุการเกิดโรคไซนัสอักเสบ
👩🏻⚕️ เกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น เกิดขึ้นหลังจากอาการไข้หวัด เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุด โดยเฉพาะในรายที่เป็นหวัดแล้วไม่พักผ่อนอย่างเพียงพอ, โรคภูมิแพ้ ทำให้เยื่อบุภายในช่องจมูกและไซนัสบวม เป็นๆ หายๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน, ความผิดปกติในช่องจมูก เช่น ผนังกั้นจมูกคด หรือ กระดูกที่ผนังด้านข้างโพรงจมูกมีขนาดใหญ่มาก จนไปอุดตันรูเปิดของไซนัส และโรคริดสีดวงจมูก หรือเนื้องอกในโพรงจมูก
ภาวะแทรกซ้อนจากไซนัสอักเสบ
👁 มีผลทางตา ทำให้เนื้อเยื่อรอบๆ ตาอักเสบ เช่น ตาบวม เจ็บตา กลอกตาแล้วเจ็บ มองเห็นภาพซ้อนหรือ เห็นภาพไม่ชัด เป็นต้น
🧠 ทางสมอง โดยมีอาการปวดหัว มีอาการคลื่นไส้อาเจียน มองเห็นภาพซ้อนหรือ เห็นภาพไม่ชัด กล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมกับไข้สูง
👃 มีผลต่อเยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง เกิดการอักเสบในหูชั้นกลางทำให้หูอื้อ เยื่อบุลำคออักเสบ กล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง
การวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบ
👩🏻⚕️ แพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย การส่องกล้องตรวจโพรงจมูกและไซนัส ส่วนในกรณีที่เป็นไซนัสอักเสบเรื้อรังที่ต้องทำการผ่าตัด หรือในผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อน อาจจำเป็นต้องมีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมโดยการทำ CT สแกนหรือเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยยืนยันการวินิจฉัย หรือบอกความรุนแรงของโรค
การรักษาไซนัสอักเสบเฉียบพลัน
👩🏻⚕️ ส่วนใหญ่มักจะรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ยาลดบวมของเยื่อจมูก โดยแพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะระยะเวลาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและชนิดของเชื้อก่อโรค
👩🏻⚕️ ส่วนไซนัสอักเสบเรื้อรังแพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยสเตียรอยด์พ่นจมูกหรือใช้น้ำเกลือล้างจมูก แต่ถ้ารักษาด้วยวิธีข้างต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
👩🏻⚕️ในปัจจุบันการผ่าตัดไซนัส นิยมผ่าตัดผ่านทางจมูกโดยใช้กล้อง Endoscope ทำให้แพทย์เห็นบริเวณผ่าตัดได้ชัดเจน สามารถตัดเนื้อเยื่อที่อักเสบออก เนื่องจากเป็นการผ่าตัดผ่านรูจมูกจึงไม่มีแผลผ่าตัดที่ผิวหนัง และเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ทำให้ผู้ป่วยเลือดออกน้อย เจ็บแผลน้อย สามารถหายใจทางจมูกได้ดี ฟื้นตัวเร็ว
ทั้งนี้การดูแลตัวเองเมื่อเป็นไซนัสอักเสบ ต้องเริ่มจากการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังสม่ำเสมอ งดการสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำวันละ7-8 แก้ว หลีกเลี่ยงฝุ่นและพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิฉับพลัน เช่น จากร้อนมากไปเย็นจัดในทันทีทันใด หากมีอาการมากขึ้นควรรีบพบแพทย์ รับประทานยา และติดตามการรักษาสม่ำเสมอ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมไซนัสอักเสบเรื้อรัง” อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง คลิก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์หู คอ จมูก
โทร. 02-734-0000 ต่อ 3400
ไซนัสอักเสบเรื้อรัง” อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
ไซนัสอักเสบ แบ่งเป็น 3 ชนิด ดังนี้
2. ไซนัสอักเสบชนิดกึ่งเฉียบพลัน (Subacute) คือ โรคไซนัสอักเสบที่มีอาการตั้งแต่ 4 ถึง 12 สัปดาห์
3. ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (chronic sinusitis) เป็นการอักเสบเรื้อรังที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อ โดยจะมีอาการเรื้อรังมานานกว่า 12 สัปดาห์ มักพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้
🧠 ทางสมอง โดยมีอาการปวดหัว มีอาการคลื่นไส้อาเจียน มองเห็นภาพซ้อนหรือ เห็นภาพไม่ชัด กล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมกับไข้สูง
👃 มีผลต่อเยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง เกิดการอักเสบในหูชั้นกลางทำให้หูอื้อ เยื่อบุลำคออักเสบ กล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง
👩🏻⚕️ ส่วนไซนัสอักเสบเรื้อรังแพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยสเตียรอยด์พ่นจมูกหรือใช้น้ำเกลือล้างจมูก แต่ถ้ารักษาด้วยวิธีข้างต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมไซนัสอักเสบเรื้อรัง” อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง คลิก