ทำไม เรามักจะหงุดหงิดใส่กับคนที่เค้ารักและหวังดีกับเราที่สุดบนโลกใบนี้

เป็นคุณพ่อลูกสองที่หย่ากับภรรยามาสิบกว่าปี ลูกๆโตพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว(แต่ก็ยังต้องขอตังค์พ่อและแม่ใช้ในการดำรงชีวิต ในการศึกษาเล่าเรียน ลูกสาวคนโตเรียนมหาลัยปีสองจะขึ้นปีสาม ลูกชายกำลังจะขึ้น ม.6 ลูกๆไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ ลูกสาวพักอยู่หอพักบริเวณที่เรียนมหาลัย ลูกชายพักอยู่กับลูกพี่ลูกน้อง ที่เรียนในตัวเมือง 
          ผมอาศัยอยู่กับคุณแม่สองคนที่บ้านเกิด ส่วนคุณพ่อเสียได้จะครบสามปีในเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้ คุณแม่อายุยังไม่เยอะมากถ้าดูตามตัวเลขของอายุ(68ปี) แต่สภาพร่างกายท่านทรุดโทรมมากๆตั้งแต่คุณพ่อเสีย กระดูกผุ กระดูกพรุน กระดูกคด(อาจจะเนื่องเพราะคุณแม่ทำงานหนักมาตั้งแต่ยังสาวๆยังไม่ได้แต่งงาน ทุกวันนี้ก็มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เก๊าต์ สโตร้คสองรอบ ไตวายระยะสอง(ไตเหลือข้างเดียว) ยังเหลือเบาหวานที่ยังตรวจไม่เจอ
          ผมมีความรู้สึกว่า ทำไมผมถึงหงุดหงิดใส่ท่านจัง ทั้งๆที่ท่านก็หวังดีกับเราเหลือเกิน ท่านจะทำอะไร จะพูดอะไร มันเหมือนขัดใจเราค่อนข้างบ่อย ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้อยากจะหงุดหงิดใส่ท่านนะ สงสารท่านด้วยซ้ำที่เห็นท่านชราภาพ ช่วยเหลือตัวเองพอได้บ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นแข็งแรงมาก เดินมากก็เท้าบวม นั่งมากก็ปวดเอว บางทีก็ให้รู้สึกทุกข์ทรมาน บาปในใจทุกครั้ง ก็พยายามใจเย็น พยายามเข้าใจ ในการที่อยู่กับผู้สูงวัย อยู่ดูแลท่านมาจะครบสามปีตั้งแต่คุณพ่อเสีย ง้องแง้งกันเรื่อย สามวันดี สี่วันง้องแง้งกัน จนบางทีเราก็ให้รู้สึกเบื่อๆเหมือนกัน ซึ่งปกติผมก็ไม่ได้ว่าจะมีความสุขในชีวิตอะไรนะ จะออกไปทางไม่มีความสุขในชีวิตซะด้วยซ้ำ อยากอยู่เงียบๆ อยู่สงบๆ สันโดษ มากกว่า แต่ก็ด้วยภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบต่างๆที่มี ก็สู้กันต่อไป ตราบที่ยังหายใจอยู่ ก็ดิ้นรนกันต่อไป ตราบที่ยังมีชีวิต เน้าะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่