ผมในฐานะที่เป็นคนเข้าใจคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงได้ดีในระดับหนึ่ง จะขออนุญาตสารธยายให้ได้รู้กันว่า จริงๆแล้ว
คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงที่หลายๆคนชอบที่จะเข้าใจผิดกันนั้น แท้จริงๆแล้วมันคืออะไร ด้วยหลายๆคนมักหลงทางและ
เข้าใจผิดกับคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 กันอย่างมากมายมหาศาล และเข้าใจว่า คนจนห้ามรวย
เศรษฐกิจพอเพียงใช้เพื่อกดหัวคนจน คำๆนี้ผมได้ยินกับหูจากนักการเมืองสีส้ม และหลายคนคิดว่าเศรษฐกิจพอเพียง
คือการทำการเกษตร อย่างที่มีคนพูดถึงในโชว์ของคนบ้างคน ที่ได้เห็นกันไปในทางเน็ตฟิกส์ วันนี้ผมเลยอยากมาขอ
สารธยายคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงนี้ให้ได้รับรู้กันว่าจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่ และก็ไม่ผิดที่หลายๆคนจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ว่าคืออะไร เพราะแม้แต่ข้าราชการระดับสูงหรือผู้มีอำนาจหลายคนก็ยังเข้าใจไม่แตกต่างกัน
ฉะนั้นวันนี้ผมขอสารธยายในกระทู้นี้อาจจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่จะพยายามอธิบายทุกอย่างที่เข้าใจให้ได้รับรู้กัน
คำว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่การทำการเกษตร ไม่ใช่การให้ใครต้องไปปลูกพืชผักทำไร่ทำนา นั้นไม่ใช่
แต่ที่เราชอบได้ยินเรื่องการทำเกษตรนั้น ตามความเป็นจริง มันคือการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง
แต่การทำเกษตรนั้นมันเป็นแค่ส่วนๆเดียวของคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง และจริงๆแล้ว เศรษฐกิจพอเพียงนี้คุณสามารถนำมาใช้ได้
แม้กระทั่งคุณเล่นหุ้น คุณเป็นนักลงทุนคุณก็สามารถใช้เศรษฐกิจพอเพียงได้ อย่างเช่นการซื้อหุ้นที่พอดีกับเงินที่คุณมีอยู่และ
คุณก็ต้องเพื่อเงินเหลือไว้สำหรับการขาดทุนบ้างนี้คือคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงในบริบทของการที่คุณเป็นนักลงทุน
เศรษฐกิจพอเพียงจริงๆแล้วก็คือการจัดการทางการเงินของทุกๆคน ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตาม คุณใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
เศรษฐกิจพอเพียงเท่ากับวิธีการจัดการทางการเงินที่ไม่เกินตัวของตัวเอง ความหมายคือ เมื่อไหร่ที่คุณมีเงินเดือน มีรายได้
ให้คุณนั้นแบ่งออกมา เป็นเงินที่คุณต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เงินที่คุณต้องเก็บสะสม เงินที่คุณต้องเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
เมื่อคุณสามารถที่แยกมันออกมาได้ทั้งหมดและมีเงินเก็บสะสมที่มันมากขึ้น หรือที่เราเรียกกันว่าเงินออม และเมื่อคุณมีเงินออมที่มากพอ
จำนวนหนึ่งแล้ว คุณก็แยกเงินออมนี้ออกมาเพื่อเอามาเป็นเงินลงทุน และที่ให้แยกไว้แบบนี้ก็เพื่อที่จะทำให้พวกคุณๆนั้น
มีสภาพทางการเงินที่คล่องตัวมากขึ้น เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่การประหยัดเงินทั้งหมดที่คุณหามาได้ แต่ให้คุณมีเงินเก็บไว้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง
และเมื่อคุณมีเงินออมและมากพอที่จะลงทุนก็ให้แยกนั้นก็เพราะว่า ถ้าคุณลงทุนค้าขายหรือทำอะไรก็ตามถ้ามันเกิดเหตุขาดทุน
คุณก็ยังเหลือเงินจำนวนหนึ่ง และก็ยังมีเงินที่คุณสามารถกินใช้ได้สบายๆอยู่ ไม่เดือดร้อนใคร ไม่ต้องไปหยิบยืมใคร นี้ต่างหาก
คือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริง และถามว่าทำไมเศรษฐกิจพอเพียงถึงไปเชื่อมโยงกับการทำการเกษตรได้ก็เพราะว่า
การทำเกษตรนั้นมันเป็นวิธีการอย่างง่ายที่จะทำให้คุณนั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นมาได้โดยที่ไม่ต้องใช้การลงทุนที่มากมาย
ก็คือถ้าคุณมีบริเวณบ้านที่มันไม่ได้กว้างมากมายนัก ก็สามารถปลูกพืชที่เป็นตระกูลถั่วหรือ พืชที่มันสามารถโตได้แม้ไม่ได้อยู่ในดิน
เพราะมันจะใช้พื้นที่น้อย และเมื่อเราปลูกได้แล้ว มีมากพอแล้วนอกจากเก็บไว้กิน คุณก็เอาไปขายได้ด้วย เมื่อขายได้
คุณก็เอาเงินจำนวนนั้นมาเพิ่มพูนพืชที่ปลูกขึ้นอีกไปเรื่อยๆวนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยจนคุณสามารถมีกำไรที่มากพอแล้ว
ก็เอาไปลงทุนในส่วนอื่นๆได้ด้วยเช่นกัน เศรษฐกิจพอเพียงนั้นก็คือการที่คุณวางรากฐานของเงินในกระเป๋าคุณให้มีความมั่นคง
แข็งแรงมากยิ่งๆขึ้นไปเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่มีรากที่หยั่งลึกลงในดินแม้จะล้มลง แต่ไม่นานก็จะสามารถโตเป็นไม้ใหญ่ได้เหมือนเดิมอีกครั้ง
และนี้คือคำว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริง สรุปง่ายๆ เศรษฐกิจพอเพียงคือ การวางแผนทางการเงินที่ทำให้คุณมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
อย่างแท้จริง ไม่ใช่วาทกรรมลวงโลกแบบที่นักการเมืองบ้างพวกพูด แต่มันคือการวางแผนทางการเงินที่มั่นคงอย่างมากๆ
ถ้าจะสรุปย่อๆ ง่ายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ เมื่อมีรายได้ให้แยกเงินไว้เป็น 4 ส่วน คือ เงินเก็บ เงินใช้ประจำวัน เงินใช้ยามฉุกเฉิน และสุดท้ายคือ
เงินลงทุน แต่ถ้าคุณมีหนี้สินที่ต้องใช้ก็ต้องต้องแยกออกมาอีก แต่ต้องมีการออมเงินทุกๆครั้ง และออมเงินตลอด เพื่อที่จะทำให้คุณมั่นคง
มั่งคั่ง และยั่งยืนได้ ผมก็ขอจบการสารธยายแค่นี้ ขอบคุณครับ
ปรับญาเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร สิ่งที่พรรคการเมืองสีส้มและพวกชอบปลุกปั่นในทางที่ผิด วันนี้ผมจะบรรยายให้ฟัง
คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงที่หลายๆคนชอบที่จะเข้าใจผิดกันนั้น แท้จริงๆแล้วมันคืออะไร ด้วยหลายๆคนมักหลงทางและ
เข้าใจผิดกับคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 กันอย่างมากมายมหาศาล และเข้าใจว่า คนจนห้ามรวย
เศรษฐกิจพอเพียงใช้เพื่อกดหัวคนจน คำๆนี้ผมได้ยินกับหูจากนักการเมืองสีส้ม และหลายคนคิดว่าเศรษฐกิจพอเพียง
คือการทำการเกษตร อย่างที่มีคนพูดถึงในโชว์ของคนบ้างคน ที่ได้เห็นกันไปในทางเน็ตฟิกส์ วันนี้ผมเลยอยากมาขอ
สารธยายคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงนี้ให้ได้รับรู้กันว่าจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่ และก็ไม่ผิดที่หลายๆคนจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ว่าคืออะไร เพราะแม้แต่ข้าราชการระดับสูงหรือผู้มีอำนาจหลายคนก็ยังเข้าใจไม่แตกต่างกัน
ฉะนั้นวันนี้ผมขอสารธยายในกระทู้นี้อาจจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่จะพยายามอธิบายทุกอย่างที่เข้าใจให้ได้รับรู้กัน
คำว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่การทำการเกษตร ไม่ใช่การให้ใครต้องไปปลูกพืชผักทำไร่ทำนา นั้นไม่ใช่
แต่ที่เราชอบได้ยินเรื่องการทำเกษตรนั้น ตามความเป็นจริง มันคือการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง
แต่การทำเกษตรนั้นมันเป็นแค่ส่วนๆเดียวของคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง และจริงๆแล้ว เศรษฐกิจพอเพียงนี้คุณสามารถนำมาใช้ได้
แม้กระทั่งคุณเล่นหุ้น คุณเป็นนักลงทุนคุณก็สามารถใช้เศรษฐกิจพอเพียงได้ อย่างเช่นการซื้อหุ้นที่พอดีกับเงินที่คุณมีอยู่และ
คุณก็ต้องเพื่อเงินเหลือไว้สำหรับการขาดทุนบ้างนี้คือคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงในบริบทของการที่คุณเป็นนักลงทุน
เศรษฐกิจพอเพียงจริงๆแล้วก็คือการจัดการทางการเงินของทุกๆคน ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตาม คุณใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
เศรษฐกิจพอเพียงเท่ากับวิธีการจัดการทางการเงินที่ไม่เกินตัวของตัวเอง ความหมายคือ เมื่อไหร่ที่คุณมีเงินเดือน มีรายได้
ให้คุณนั้นแบ่งออกมา เป็นเงินที่คุณต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เงินที่คุณต้องเก็บสะสม เงินที่คุณต้องเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
เมื่อคุณสามารถที่แยกมันออกมาได้ทั้งหมดและมีเงินเก็บสะสมที่มันมากขึ้น หรือที่เราเรียกกันว่าเงินออม และเมื่อคุณมีเงินออมที่มากพอ
จำนวนหนึ่งแล้ว คุณก็แยกเงินออมนี้ออกมาเพื่อเอามาเป็นเงินลงทุน และที่ให้แยกไว้แบบนี้ก็เพื่อที่จะทำให้พวกคุณๆนั้น
มีสภาพทางการเงินที่คล่องตัวมากขึ้น เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่การประหยัดเงินทั้งหมดที่คุณหามาได้ แต่ให้คุณมีเงินเก็บไว้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง
และเมื่อคุณมีเงินออมและมากพอที่จะลงทุนก็ให้แยกนั้นก็เพราะว่า ถ้าคุณลงทุนค้าขายหรือทำอะไรก็ตามถ้ามันเกิดเหตุขาดทุน
คุณก็ยังเหลือเงินจำนวนหนึ่ง และก็ยังมีเงินที่คุณสามารถกินใช้ได้สบายๆอยู่ ไม่เดือดร้อนใคร ไม่ต้องไปหยิบยืมใคร นี้ต่างหาก
คือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริง และถามว่าทำไมเศรษฐกิจพอเพียงถึงไปเชื่อมโยงกับการทำการเกษตรได้ก็เพราะว่า
การทำเกษตรนั้นมันเป็นวิธีการอย่างง่ายที่จะทำให้คุณนั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นมาได้โดยที่ไม่ต้องใช้การลงทุนที่มากมาย
ก็คือถ้าคุณมีบริเวณบ้านที่มันไม่ได้กว้างมากมายนัก ก็สามารถปลูกพืชที่เป็นตระกูลถั่วหรือ พืชที่มันสามารถโตได้แม้ไม่ได้อยู่ในดิน
เพราะมันจะใช้พื้นที่น้อย และเมื่อเราปลูกได้แล้ว มีมากพอแล้วนอกจากเก็บไว้กิน คุณก็เอาไปขายได้ด้วย เมื่อขายได้
คุณก็เอาเงินจำนวนนั้นมาเพิ่มพูนพืชที่ปลูกขึ้นอีกไปเรื่อยๆวนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยจนคุณสามารถมีกำไรที่มากพอแล้ว
ก็เอาไปลงทุนในส่วนอื่นๆได้ด้วยเช่นกัน เศรษฐกิจพอเพียงนั้นก็คือการที่คุณวางรากฐานของเงินในกระเป๋าคุณให้มีความมั่นคง
แข็งแรงมากยิ่งๆขึ้นไปเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่มีรากที่หยั่งลึกลงในดินแม้จะล้มลง แต่ไม่นานก็จะสามารถโตเป็นไม้ใหญ่ได้เหมือนเดิมอีกครั้ง
และนี้คือคำว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริง สรุปง่ายๆ เศรษฐกิจพอเพียงคือ การวางแผนทางการเงินที่ทำให้คุณมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
อย่างแท้จริง ไม่ใช่วาทกรรมลวงโลกแบบที่นักการเมืองบ้างพวกพูด แต่มันคือการวางแผนทางการเงินที่มั่นคงอย่างมากๆ
ถ้าจะสรุปย่อๆ ง่ายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ เมื่อมีรายได้ให้แยกเงินไว้เป็น 4 ส่วน คือ เงินเก็บ เงินใช้ประจำวัน เงินใช้ยามฉุกเฉิน และสุดท้ายคือ
เงินลงทุน แต่ถ้าคุณมีหนี้สินที่ต้องใช้ก็ต้องต้องแยกออกมาอีก แต่ต้องมีการออมเงินทุกๆครั้ง และออมเงินตลอด เพื่อที่จะทำให้คุณมั่นคง
มั่งคั่ง และยั่งยืนได้ ผมก็ขอจบการสารธยายแค่นี้ ขอบคุณครับ