ไป Hunza ปากีสถานมาเมื่อช่วงสงกรานต์ซึ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ Northern Pakistan จริงๆเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.ละล่ะแต่เมษาก็ยังมีซากุระอยู่ ยิ่งสูงยิ่งเยอะ จากที่อ่านรีวิวมาหลายๆคนบอกว่าปากีช่วง autumn จะสวยมาก ซึ่งดูจากรูปก็สวยมากจริงๆ แต่อยากลองเห็นปากีแบบสีพาสเทลมั่ง เปลี่ยนบรรยากาศ เพราะก่อนหน้านี้มีทริปใบไม้เปลี่ยนสีติดๆกันเลย และหลายๆคนก็รีวิวปากีช่วง blossom ไว้เหมือนกัน ลองดูแล้วก็สวยไปอีกแบบ ประกอบกับหยุดยาวด้วยเลยเลือกไปช่วงนี้แหละ
ดอก cherry และ apricot พบได้ทั่วไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
การเดินทางครั้งนี้บินกับการบินไทยซึ่งมีบินตรงถึงอิสลามาบัดใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ไปกันเองแต่ใช้บริการ local tour ของที่โน่นที่ติดต่อไปตั้งแต่อยู่ไทย เพราะคิดว่าราคาย่อมเยากว่า รีวิวก็โอเค จากการพูดคุยผ่าน whatsapp ก็ดูทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอนน่าเชื่อถือดีค่ะ ก่อนไปก็บอกเงื่อนไขเราไป และเค้าจะออกแบบทัวร์ให้ ไปกี่คน กี่วัน อยากได้กี่ห้อง สนใจเส้นทางไหน มีข้อจำกัดอะไรไหม นี่บอกไปว่าเอาแบบไม่เร่งรีบ ขอเรื่อยๆตามวัย ราคาไม่แพงมาก ไม่ need นั่งเครื่อง ฯลฯ ทัวร์ก็เลยทำโปรแกรมมาให้ประมาณนี้
Day 1: Bangkok to Islamabad
Day 2: Islamabad to Chilas (10 – 12 hours drive)
Day 3: Chilas to Hunza (06 hours drive)
- 3 Mountain Range Point – Karakorum – Himalaya & Hindukush
- Sightseeing at Nanga Parbat Viewpoint as its 9th highest Peak of the World
- Rakaposhi Viewpoint
Day 4: Excursions in Hunza Valley
- Karimabad
- Altit Fort & Baltit Fort
- Eagle’s Nest Viewpoint
Day 5: Hunza Excursion
- Attabad Lake
- Gulmit Village
- Passu
- Husseini Bridge
Day 6: Hunza to Gilgit City
- Hooper Valley
- Glaciers & Peaks
- Gilgit City
Day 7: Gilgit to Besham City (7 – 8 Hours drive)
Day 8: Besham to Islamabad (5 - 7 hour drive)
Day 9: Islamabad City for 4 – 5 hours then drop to Islamabad Airport
ทะเลสาบ Attabad อีกหนึ่งไฮไลท์ของปากีสถานตอนเหนือ
การเตรียมตัว
แลกเงิน: แลกเงินจากไทยเป็น USD ไป ควรแลกเป็นธนบัตร 100 USD ฉบับหลังปี 2000 เท่านั้น และไปแลกเป็น PKR (ปากีสถานรูปี) ที่โน่น อาจแลกที่สนามบินอิสลามาบัดก็ได้แต่เรตจะแพง ส่วนใหญ่ไกด์จะเตรียมให้เราได้แค่ต้องแจ้งเค้าล่วงหน้า และก็ไม่ต้องแลกไปเยอะมาก เพราะค่าครองชีพ ค่าอาหารไม่แพง ไม่มีอะไรให้ช้อปปิ้งเท่าไหร่สำหรับคนไทย ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ก็รวมไปในทัวร์แล้ว และถ้าเหลือแลกคืนก็ไม่คุ้ม เพราะงั้นแลกไปไม่ต้องเยอะ หากไม่พอจริงๆกด ATM ที่อิสลามาบัดได้ ร้านขายของที่ระลึกตามแหล่งท่องเที่ยวก็มีใช้บัตรเครดิตได้
อากาศ: เรนจ์กว้างมาก ให้เตรียมเสื้อผ้าไปหลายแบบ ช่วงเมษาจะยังเย็นๆ ที่สูงๆอย่าง Hunza นี่หนาวเลย บางวันเลขตัวเดียวถึงติดลบ พอลงมา Gilgit ก็สบายๆ 10 กว่า Islamabad นี่ 20 กว่าๆ และด้วยความที่อยู่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลบางที่อากาศจะบางหน่อย จะเตรียมกินยา diamox ไปด้วยก็ได้
อินเตอร์เนต: ซื้อ package โทรต่างประเทศหรือพวก SIM2Fly จากไทยไปได้เลย สัญญาณไม่ค่อยมีเกือบตลอดการเดินทาง เว้นในเมืองใหญ่ๆ ส่วน wifi มีตามโรงแรม ร้านอาหาร แต่ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง
อาหาร: เป็นประเทศมุสลิม อาหารก็จะแนวข้าวหมก แกงกระหรี่ เนื้อสัตว์จะมีพวกแพะแกะไก่และก็เนื้อจามรี หาผักกินยากมาก จริงๆก็มีเป็นสลัดผักสดบ้างผลไม้บ้างแต่ต้องระวังท้องเสีย เตรียมยาเตรียมเกลือแร่เผื่อท้องเสียไปด้วยเลยรวมถึงยาอื่นๆด้วย เพราะเป็นที่ห่างไกล เดินทางลำบาก หาโรงพยบาลยาก และก็เตรียมน้ำพริกเตรียมมาม่าอะไรที่ชอบไปเยอะๆเพราะช่วงหลังๆมันจะเบื่ออาหารมาก ใครติดกาแฟพกไปด้วยเพราะหากาแฟยากเช่นกัน
ความปลอดภัย
ปากีสถานดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติดีมาก มาตรการรัดกุม บางเมือง เช่น Besham ต้องมีรถตำรวจถือปืนคอยนำตลอด ตอนขากลับเข้าเมืองเปลี่ยนรถและคนนำตั้ง 7 คัน ไม่รู้ปกติไหมแต่เท่าที่ถามไกด์ก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่เป็นมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งเค้าก็ไม่ได้มาทำให้เราอึดอัดอะไร คอยนำคอยดูแลห่างๆ ดูเฟรนลี่ดีด้วย นอกจากนั้น อย่างใน Chilas เค้าก็จะมีห้ามเราเดินเตร็ดเตร่นอกโรงแรม เป็นต้น
การเดินทาง
เดินทางเยอะและยาวนาน ข้อควรต้องรู้ก่อนเดินทางคือแต่ละสถานที่ห่างกันมาก ถนนหลายช่วงแย่มาก การนั่งรถนานๆบนทางโหดๆแบบนั้นใช้ความอดทนมากค่ะ ยิ่งถ้าเจอฝนตกจะทำให้ใช้เวลานานกว่าเดิมไปอีก เพราะงั้นหากใครคิดว่าไม่สะดวก ก็นั่งเครื่องจาก Islamabad มาลง Gilgit ได้ ประหยัดเวลาและพลังงานได้หน่อย แต่ก็ยังต้องนั่งรถต่ออยู่ดีนะ และก็ราคาต่างกับเดินทางโดยรถเยอะและมีโอกาส cancel ไฟล์ทเพราะสภาพอากาศเหมือนกัน
ถนนหนทาง
วิวระหว่างทาง
สถานที่ท่องเที่ยว
สวยงามน่าประทับใจทั้งหมด ชอบ Hopper Valley, Hopper Glacier, Passu และ Husseini Bridge เป็นพิเศษ และไม่ใช่แค่ที่เที่ยวธรรมชาติเท่านั้น พวกสถานที่ประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น ป้อม มัสยิด เส้นทางสายไหม ฯลฯ ก็สวยงามและมีเรื่องราวน่าสนใจมากๆ ตรง Hunza ที่เราไปจะเป็นเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ซึ่งเป็นทางหลวงที่ทอดยาวไปบนเทือกเขาคาราโครัมเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศคือจีนกับปากีสถาน เพราะงั้นประวัติศาสตร์ของ Hunza จะใกล้ชิดจีนอยู่มากตั้งแต่อดีตมาก่อนจะมาเป็นส่วนหนึ่งของปากีสถานอย่างในปัจจุบัน เคยไปคาราโครัมทั้ง 2 ฝั่ง คือซินเจียงฝั่งจีนและก็ฝั่งปากีสถานคราวนี้ คิดว่าวิวฝั่งปากีสวยกว่าแต่การเดินทางถนนหนทางฝั่งจีนคือดีและสะดวกกว่ามาก ส่วนถ้าเทียบปากีกับเลห์ลาดักห์ ซึ่งจริงๆ Skurdu อาจจะคล้ายเลห์มากกว่า Hunza เพราะอันนั้นอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัยเหมือนกัน แต่ถ้าเอาเท่าที่เห็นแถบ Hunza ก็มองว่าสวยและยิ่งใหญ่กินกันไม่ลง แต่เลห์ลาดักห์จะสวยจัดจ้านกว่าและก็มีความ Tibet แต่ Hunza จะยังดูสดใหม่และมีความน่า explore อันนี้แล้วแต่ว่าชอบแบบไหน
Husseini Bridge และสวน Cherry และ apricot ระหว่างเดินไปสะพาน
Welcome to Passu
Hopper Glacier ธารน้ำแข็งที่เป็นสีดำ เพราะยัง active อยู่ยังเคลื่อนตัวอยู่อย่างช้าๆ
Hopper Valley ทุ่งซากุระ
วิวมุมสูงจาก Altit Fort
ล่องเรือใน Attabad Lake จุดนั่งเรือตรงนี้จะไม่สวยเท่าจุดชมวิว แต่การนั่งเรือชมวิวทะเลสาบก็สนุกไปอีกแบบ
Attabad Lake ไม่ได้เป็นทะเลสาบโดยกำเนิด แต่เกิดจากแผ่นดินไหวและภูเขาถล่ม block ทางไหลของน้ำ เกิดเป็นทะเลสาบ
ผู้คน
คนปากีน่ารัก friendly คนขายของก็ไม่ hard sale พนักงานให้บริการก็เว้นระยะห่าง local guide เราก็ดีมากๆ สุภาพและก็ nice มาก คิดว่าคนไทยไปเยอะ ไกด์ปากีก็จะชินกับชาวไทยประมาณหนึ่ง เด็กๆที่มาด้อมๆมองๆเค้าก็จะไม่มาขอแบบขอให้เห็นนะ ยืนมองยิ้มๆ เราให้ขนมไปนิดๆหน่อยๆก็จะดีใจมาก
ทัวร์ท้องถิ่น
ถ้าอยากประหยัดหน่อยก็ใช้บริการ local tour ได้ค่ะ search หาได้ทั่วไป มีค่อนข้างเยอะและส่วนใหญ่คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างดี นี่ใช้บริการทัวร์นี้ www.pakistantourntravel.com ก็โอเคเลยนะ
สรุป
ข้อดี: ปากีสถานไม่อันตราย คนน่ารัก ค่าตั๋วเครื่องบินค่าทัวร์ท้องถิ่น affordable บินไม่ไกล ค่าครองชีพไม่แพง อาหารค่อนข้างถูกปากคนไทย ห้องน้ำรับได้ ไม่สกปรก ที่สำคัญวิวสวยมากๆ สงบและอากาศดี
ข้อควรระวัง: การเดินทางลำบาก นั่งรถนานและทางโหด ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการปวดหลัง สูงอายุ หรือมีโรคอะไรที่อาจต้องการหมอด่วนเพราะแต่ละที่ไกลกันมาก รพ.หายาก (ถ้าบินไปก็จะสบายขึ้นหน่อย) ต้องระวังท้องเสีย ผักผลไม้สดต้องระวังเป็นพิเศษเพราะไม่ได้ปรุงสุก ผู้หญิงระมัดระวังการแต่งตัว เตรียมแบตสำรองมาให้พร้อมเพราะไฟฟ้าไม่พอ จะมีช่วงเวลาดับไฟ ช่วงไหนชาร์ตได้ให้รีบชาร์ต เคลียร์งานให้เรียบร้อยเพราะอาจทำทางไกลไม่ได้ wifi ไม่ดี
สรุปว่าถ้าใครชอบแนวนี้ก็น่ามาซักครั้งค่ะ คุ้ม
Blossom Pakistan ปากีสีพาสเทล
Day 1: Bangkok to Islamabad
Day 2: Islamabad to Chilas (10 – 12 hours drive)
Day 3: Chilas to Hunza (06 hours drive)
- 3 Mountain Range Point – Karakorum – Himalaya & Hindukush
- Sightseeing at Nanga Parbat Viewpoint as its 9th highest Peak of the World
- Rakaposhi Viewpoint
Day 4: Excursions in Hunza Valley
- Karimabad
- Altit Fort & Baltit Fort
- Eagle’s Nest Viewpoint
Day 5: Hunza Excursion
- Attabad Lake
- Gulmit Village
- Passu
- Husseini Bridge
Day 6: Hunza to Gilgit City
- Hooper Valley
- Glaciers & Peaks
- Gilgit City
Day 7: Gilgit to Besham City (7 – 8 Hours drive)
Day 8: Besham to Islamabad (5 - 7 hour drive)
Day 9: Islamabad City for 4 – 5 hours then drop to Islamabad Airport
การเตรียมตัว
แลกเงิน: แลกเงินจากไทยเป็น USD ไป ควรแลกเป็นธนบัตร 100 USD ฉบับหลังปี 2000 เท่านั้น และไปแลกเป็น PKR (ปากีสถานรูปี) ที่โน่น อาจแลกที่สนามบินอิสลามาบัดก็ได้แต่เรตจะแพง ส่วนใหญ่ไกด์จะเตรียมให้เราได้แค่ต้องแจ้งเค้าล่วงหน้า และก็ไม่ต้องแลกไปเยอะมาก เพราะค่าครองชีพ ค่าอาหารไม่แพง ไม่มีอะไรให้ช้อปปิ้งเท่าไหร่สำหรับคนไทย ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ก็รวมไปในทัวร์แล้ว และถ้าเหลือแลกคืนก็ไม่คุ้ม เพราะงั้นแลกไปไม่ต้องเยอะ หากไม่พอจริงๆกด ATM ที่อิสลามาบัดได้ ร้านขายของที่ระลึกตามแหล่งท่องเที่ยวก็มีใช้บัตรเครดิตได้
อากาศ: เรนจ์กว้างมาก ให้เตรียมเสื้อผ้าไปหลายแบบ ช่วงเมษาจะยังเย็นๆ ที่สูงๆอย่าง Hunza นี่หนาวเลย บางวันเลขตัวเดียวถึงติดลบ พอลงมา Gilgit ก็สบายๆ 10 กว่า Islamabad นี่ 20 กว่าๆ และด้วยความที่อยู่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลบางที่อากาศจะบางหน่อย จะเตรียมกินยา diamox ไปด้วยก็ได้
อินเตอร์เนต: ซื้อ package โทรต่างประเทศหรือพวก SIM2Fly จากไทยไปได้เลย สัญญาณไม่ค่อยมีเกือบตลอดการเดินทาง เว้นในเมืองใหญ่ๆ ส่วน wifi มีตามโรงแรม ร้านอาหาร แต่ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง
อาหาร: เป็นประเทศมุสลิม อาหารก็จะแนวข้าวหมก แกงกระหรี่ เนื้อสัตว์จะมีพวกแพะแกะไก่และก็เนื้อจามรี หาผักกินยากมาก จริงๆก็มีเป็นสลัดผักสดบ้างผลไม้บ้างแต่ต้องระวังท้องเสีย เตรียมยาเตรียมเกลือแร่เผื่อท้องเสียไปด้วยเลยรวมถึงยาอื่นๆด้วย เพราะเป็นที่ห่างไกล เดินทางลำบาก หาโรงพยบาลยาก และก็เตรียมน้ำพริกเตรียมมาม่าอะไรที่ชอบไปเยอะๆเพราะช่วงหลังๆมันจะเบื่ออาหารมาก ใครติดกาแฟพกไปด้วยเพราะหากาแฟยากเช่นกัน
ความปลอดภัย
ปากีสถานดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติดีมาก มาตรการรัดกุม บางเมือง เช่น Besham ต้องมีรถตำรวจถือปืนคอยนำตลอด ตอนขากลับเข้าเมืองเปลี่ยนรถและคนนำตั้ง 7 คัน ไม่รู้ปกติไหมแต่เท่าที่ถามไกด์ก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่เป็นมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งเค้าก็ไม่ได้มาทำให้เราอึดอัดอะไร คอยนำคอยดูแลห่างๆ ดูเฟรนลี่ดีด้วย นอกจากนั้น อย่างใน Chilas เค้าก็จะมีห้ามเราเดินเตร็ดเตร่นอกโรงแรม เป็นต้น
การเดินทาง
เดินทางเยอะและยาวนาน ข้อควรต้องรู้ก่อนเดินทางคือแต่ละสถานที่ห่างกันมาก ถนนหลายช่วงแย่มาก การนั่งรถนานๆบนทางโหดๆแบบนั้นใช้ความอดทนมากค่ะ ยิ่งถ้าเจอฝนตกจะทำให้ใช้เวลานานกว่าเดิมไปอีก เพราะงั้นหากใครคิดว่าไม่สะดวก ก็นั่งเครื่องจาก Islamabad มาลง Gilgit ได้ ประหยัดเวลาและพลังงานได้หน่อย แต่ก็ยังต้องนั่งรถต่ออยู่ดีนะ และก็ราคาต่างกับเดินทางโดยรถเยอะและมีโอกาส cancel ไฟล์ทเพราะสภาพอากาศเหมือนกัน
สถานที่ท่องเที่ยว
สวยงามน่าประทับใจทั้งหมด ชอบ Hopper Valley, Hopper Glacier, Passu และ Husseini Bridge เป็นพิเศษ และไม่ใช่แค่ที่เที่ยวธรรมชาติเท่านั้น พวกสถานที่ประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น ป้อม มัสยิด เส้นทางสายไหม ฯลฯ ก็สวยงามและมีเรื่องราวน่าสนใจมากๆ ตรง Hunza ที่เราไปจะเป็นเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ซึ่งเป็นทางหลวงที่ทอดยาวไปบนเทือกเขาคาราโครัมเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศคือจีนกับปากีสถาน เพราะงั้นประวัติศาสตร์ของ Hunza จะใกล้ชิดจีนอยู่มากตั้งแต่อดีตมาก่อนจะมาเป็นส่วนหนึ่งของปากีสถานอย่างในปัจจุบัน เคยไปคาราโครัมทั้ง 2 ฝั่ง คือซินเจียงฝั่งจีนและก็ฝั่งปากีสถานคราวนี้ คิดว่าวิวฝั่งปากีสวยกว่าแต่การเดินทางถนนหนทางฝั่งจีนคือดีและสะดวกกว่ามาก ส่วนถ้าเทียบปากีกับเลห์ลาดักห์ ซึ่งจริงๆ Skurdu อาจจะคล้ายเลห์มากกว่า Hunza เพราะอันนั้นอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัยเหมือนกัน แต่ถ้าเอาเท่าที่เห็นแถบ Hunza ก็มองว่าสวยและยิ่งใหญ่กินกันไม่ลง แต่เลห์ลาดักห์จะสวยจัดจ้านกว่าและก็มีความ Tibet แต่ Hunza จะยังดูสดใหม่และมีความน่า explore อันนี้แล้วแต่ว่าชอบแบบไหน
ผู้คน
คนปากีน่ารัก friendly คนขายของก็ไม่ hard sale พนักงานให้บริการก็เว้นระยะห่าง local guide เราก็ดีมากๆ สุภาพและก็ nice มาก คิดว่าคนไทยไปเยอะ ไกด์ปากีก็จะชินกับชาวไทยประมาณหนึ่ง เด็กๆที่มาด้อมๆมองๆเค้าก็จะไม่มาขอแบบขอให้เห็นนะ ยืนมองยิ้มๆ เราให้ขนมไปนิดๆหน่อยๆก็จะดีใจมาก
ทัวร์ท้องถิ่น
ถ้าอยากประหยัดหน่อยก็ใช้บริการ local tour ได้ค่ะ search หาได้ทั่วไป มีค่อนข้างเยอะและส่วนใหญ่คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างดี นี่ใช้บริการทัวร์นี้ www.pakistantourntravel.com ก็โอเคเลยนะ
สรุป
ข้อดี: ปากีสถานไม่อันตราย คนน่ารัก ค่าตั๋วเครื่องบินค่าทัวร์ท้องถิ่น affordable บินไม่ไกล ค่าครองชีพไม่แพง อาหารค่อนข้างถูกปากคนไทย ห้องน้ำรับได้ ไม่สกปรก ที่สำคัญวิวสวยมากๆ สงบและอากาศดี
ข้อควรระวัง: การเดินทางลำบาก นั่งรถนานและทางโหด ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการปวดหลัง สูงอายุ หรือมีโรคอะไรที่อาจต้องการหมอด่วนเพราะแต่ละที่ไกลกันมาก รพ.หายาก (ถ้าบินไปก็จะสบายขึ้นหน่อย) ต้องระวังท้องเสีย ผักผลไม้สดต้องระวังเป็นพิเศษเพราะไม่ได้ปรุงสุก ผู้หญิงระมัดระวังการแต่งตัว เตรียมแบตสำรองมาให้พร้อมเพราะไฟฟ้าไม่พอ จะมีช่วงเวลาดับไฟ ช่วงไหนชาร์ตได้ให้รีบชาร์ต เคลียร์งานให้เรียบร้อยเพราะอาจทำทางไกลไม่ได้ wifi ไม่ดี
สรุปว่าถ้าใครชอบแนวนี้ก็น่ามาซักครั้งค่ะ คุ้ม