PAKISTAN พอเอยชื่อนี้และชวนเพื่อนไปเที่ยวไม่ค่อยมีเพือนคนไหนสนใจไปเลยเมือ 4 ปีที่แล้ว จริงๆพีเจเคยเดินทางไปเที่ยวปากีมาแล้วครั้งหนึ่งเมือ 4 ปีที่แล้ว (ปี ค.ศ.2019) ช่วงเดือน สิงค์หาคม และรู้สึกประทับใจกับธรรมชาติของประเทศปากีสถาน และมีความตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาอีกครั้ง และพอหลังโควิดในเดือน ตุลาคม 2022 พีเจก็ไม่รีรอที่จะรีบจองตั๋วเครืองบิน แต่ราคาตั๋วช่วงหลังโควิดค่อนค้างจะแรงเอาการจากที่เมือก่อนราคาแค่ 15000บาท แต่มาปีนี้ ปาเข้าไป 24XXXบาท สำหรับตั๋วไปกลับ กรุงเทพ อิสลามาบัด เป้าหมายของพีเจในการเดินทางครั้งนี้คือจะพยายามที่จะเก็บสถาที่เที่ยวที่ยังไม่ได้ไปเมือ4ปีที่แล้ว
และครั้งนี้ พีเจ ก็ได้เลือกใช้ local travelling agency เจ้าเดิมที่พีเจเคยใช้เมือ 4 ปีที่แล้ว เพราะบริษัทนี้ก่อตั้งมานานและเป็นทัวร์ที่น่าเชื่อถือได้และเป็นทัวร์ที่ติดอันดับต้นๆของปากี และที่สำคัญลูกค้าส่วนใหญ่เขาเป็นชาวยุโรปสะ99%ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ค่อยมีลูกค้าคนไทย พีเจถือเป็นลูกค้าคนไทยเพียงไม่กีคนเท่านั้น เอาละว่าแล้วก่อนเดินทาง pj ก็ได้มีคุยกับคุณสมบัติว่าขอดูสีเหลืองที่สวยที่สุดของปากีและคุยกันถึงสถานที่ที่เราจะเดินทางในครั้งนี้ กว่าที่จะสรุปว่าจะไปที่ไหนบ้างเราแก้ไขplanกันหลายครั้งมาก จนมาลงตั้วที่ต้องบิน1ขาที่ skardu และเที่ยวลงเลื่อยๆที่ Gilgit and Hunza และเดินทางกลับมา Islamabad โดยเส้น Besham จริงๆแล้วเขาชื่อ Ghulam Abbas แต่ชื่อเขาเรียกยากพีเจและเพื่อนๆเลยเรียกเขาว่าคุณสมบัติแทน. ในการเดินทางครั้งนี้คุณสมบัติได้จองตั่ว local flight จาก Islamabad ไปลง Skardu ให้พีเจและเพื่อนๆทีเดินทางไปด้วยกัน 6 ชีวิต. แค่วันแรกที่เริมเดินทางโดยนั่งlocal flight มาที่ Skardu นี้ก็เล่นเอาพวกเราตื่นตาตื่นในมากกับวิวนอกหน้าต่างของเครื่องบินเพราะ captain เล่นบินโฉบเฉี่ยวไปกับภูเขา Nanga Parbat และเห็นแนวภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพนสะสวยงามมากก ตอลด1ชม พวกเราไม่ได้หลับตาเลย เพราะตื้นเต้นกับวิวนอกหน้าต่างกัน
หลังจากลงจากเครื่องเราก็มุ่งหน้าสู้ Khaplu valley ซึ่งตลอดทางที่พวกเรานั่งรถไม่มีใครนั่งหลับกันเลย แวะถ่ายรูปข้างทางตลอด แม้แต่วิวกลางถนนที่ริมข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้เรียงกันเป็นแถวแต่ใบแทบจะทุกใบเป็นสีเหลืองสวยงามมาก
ตลอดการนั้งรถพวกเราจะเจอกับวิวสีเหลืองแบบหลับตาไม่ลง ได้แต่รอง wow.กันตลอดการเดินทาง ในรูปนี้คือรูปวิวที่พวกเรากำลังจะเดินทางเข้าไปที่ Khaplu valley
อดใจกันไม่ไหวต้องบอกให้ สมบัติ (Abbas) จอดรถเพื่อลงถ่ายรูปตลอดเลยทำให้พวกเราถึงที่พักบ่ายแก่ๆและได้ทานข้าวเที่ยงตอนบ่าย 2 โมง แต่ตลอดการเดินทางไม่รู้สึกหิวเลยเพราะอิ่มกับวิวสองขางทาง แต่พอถึงร้านอาหารที่ Khaplu Fort Serena แค่นั้นแหละ ท้องร้องจอกๆๆกันขึ้นมาทีเดียวเชียว แต่ก่อนหน้านั้นอิ่มทิพย์หรืออิ่มจากการที่ได้วิ่งวุ่นวายถ่ายรูปกันก็ไม่รู้นะคะ แต่ที่แน่ๆอาหารที่นี้อร่อยมากกก
และนี้คือที่ Serena Khaplu fort วิวที่นี้ช่วงสีเหลืองสวยงามมากกกกกก ก.ไก่ล้านตัวคะ พีเจมาช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ช่วงนั้นใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองกันหมดแล้ว เลยทำให้วิวดูประทับใจพวกเรามาก.พีเจรู้สึกว่าอาหารเมือนี้อร่อยไปหมดเพราะได้นั่งทานข้าวไปและได้ดูวิวสวยๆไปด้วยและที่สำคัญได้ถ่ายรูปไปด้วย มันทำให้ช่วงพักร้อนของพีเจทริปนี้ดูลงตัวและมีความสุขไปหมดเลย
ระหว่างทางเดินเข้ามาที่ Khaplu Fort จะมีเก้าอี้ให้นั้งจิบชา กาแฟหรือพักผ่อนแต่มหาราณีพีเจก็ขอแชะรูปสักนิด เพื่อเก็บไว้เป็นที่ละลึกเพราะไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาศได้เดินทางมาที่นี้อีกหรือเปล่า บางครั้งการถ่ายรูปก็ทำให้เราเก็บความทรงจำดีๆและยิบกลับมาดูและอมยิ้มอย่างมีความสุขได้เวลาที่เราเหนื่อยจากการทำงานหนัก
ตรงนี้คือระเบียงร้านอาหาร Serena restuarant ที่พวกเราเข้าไปทานอาหาร วิวสะขนาดนี้จะไม่ทำให้อาหารอร่อยได้ไงคะ ทริปนี้แค่ได้เก็บรูปสวยๆพวกเราก็มีความสุขกันแล้ว
สถานที่อีกแห่งที่ห้ามพลาดเลยคือที่ Khaphocho แต่กว่าจะมาถึงที่นี้ได้เล่นเอาเดินขึ้นมาสะเหนือยเลย ทางขึ้นค่อนข้างชันถึงชันมาก แต่ใช้เวลาเดินแค่ 20-30นาที แนะนำเลยคะว่าห้ามพลาดเพราะคุณจะได้เห็นวิวทั้งเมืองของ Skradu แบบ 360องค์สาเลย วันนี้มัวแต่แวะถ่ายรูประหว่างทางเยอะไปหน่อยเลยทำให้ถึงที่ Kharphocho เย็นแล้วและพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว จริงๆถ้ามาถึงเร็วหน่อยวิวจะสวยและสว่างกว่านี้
แต่วิวข้างทางที่พวกเราขับรถผ่านและรีบวิ่งลงมาเก็บรูปภาพตรงสะพานระหว่างกลับออกจาก Khaplu Valley นี้ก็ทำให้พวกเราเสียเวลาไปเป็นชั่วโมงเลย แนะนำถ้ามากันหลายคนให้จับคู่กันและหามุมใครมุมมันช่วยกันถ่ายรูปไม่งั้นทำเวลาไม่ได้แน่นอน
Sriga valley ก็เป็นอีกหนึ่ง Highlight ที่ห้ามพลาดนะคะ จริงแล้วใน plan พีเจมีแวะที่ทะเลทราย Cold Desert ด้วยนะคะ แต่พอแวะแล้วมันไม่ค่อยมีอะไร และแดดแรงมากก มีกิจกรรมคือขี่ม้าหรือว่าจะนั่งรถ AV วิ่งตามสันทะเลทราย แต่พีเจและเพือนๆคุยกันแล้วว่าสำหรับพวกเราคิดว่ามันไม่สวยและไม่ควรเสียเวลาเลยแวะแค่แป๊บเดียวและนั่งรถเข้า Sriga valley
อีกสถานที่หนึ่งที่ห้ามพลาดถ้าได้มาที่ Skardu คือที่ lower kachura lake แต่อย่างที่บอกว่าที่นี้คือที่ส่วนบุคคล ดังนั้นถ้าจะเข้ามาถ่ายรูปข้างในต้องเสียค่าบัตรเข้าข้างใน แต่เท่าไหร่นั้นพีเจไม่ได้ถามคุณAbbas เพราะราคา Package price ที่พีเจจ่ายนั้นร่วมทุกอย่างแล้วทั้งตั๋วบินภายในประเทศ1ขา ค่าที่พัก อาหาร และรวมค่าบัตรเข้าชมทุกสถานที่แล้ว จริงๆก่อนเดินทางควรตกลงและคุยกันกับทาง local travelling agency ให้ละเอียดว่ารวมค่าอะไรบ้าง เพราะที่นี้เขามีหลายราคา ถ้าเลือกพัก รร 5ดาวก็จะแพงมาก แต่สำหรับพีเจแล้วเลือกที่พักดีหน่อย และราคารับได้ แต่มีอย่างหนึ่งที่เพื่อนๆต้องทำใจในการมาเที่ยวปากีสถานคือที่นี้ไม่ได้มีปั้มน้ำมันตลอดเส้นทางนะคะ ปั้มน้ำมันมีแค่ไม่กี่แห่งในเมือง ดังนั้นแนะนำถ้าใครปวดฉีบ่อยให้รีบเข้าห้องน้ำต้งแต่ในเมือง หรือไม่ถ้าปวดก็ต้องรีบแจ้งคุณไกดิ์ให้แวะจอดข้างทาง ซึ่งคุณต้องเตรียมผ้าพกไปคุ้มตามโขดหินด้วย หรือไม่ก็พกถุงฉีแบบฉุกเฉินไป ไม่แนะนำให้กลั้นฉีเพราะเพื่อนที่ไปด้วยกันกลับมาป่วยเป็นปัสสาวะอักเสบ และมีอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำใจคือที่ปากีสถานถนนหนทางเขายังไม่เจริญเหมือนประเทศไทย ดังนั้นถ้าเจอฟนตกหรือดินสะไลเข้าไปเราไม่สามารถกำหนดการเดินทางได้เลยว่าจะถึงที่หมายกีโมงและได้ทานข้าวกีโมง แนะนำให้เพือนๆเตรียมขหนมพกติดกระเป๋าไปด้วย แต่ถ้าไปช่วงเดือนตุลาคมไม่เจอฟน ปัญหาที่จะเจอกับ landslide นั้นน้อยมาก แต่ถ้าไปหน้าอื่นอาจจะเจอlandslideและต้องทำใจในการท่องเที่ยวประเทศนี้และต้องเจอกับปัญหารถติกแง๊กบนถนนที่ยาวเยียดก็ได้. แต่พีเจและเพื่อนๆทั้ง6คนพวกเราคือนักเดินทางเลยไม่ค่อยมีปัญหากับการเจอสถานการณ์เหล่านี้เท่าไหร่ พวกเราทำใจได้และกลัวการไม่ได้เที่ยวสะมากกว่า
Chundhal Valley วิวก็สวยอลังการล้านแปดไม่น้อยหน้าเลย แต่ในครั้งนี้คุณสมบัติใช้รถ 4X4 สองคัน เพราะพวกเรามี6คน ตลอดทางที่วิ่งลัดเลาะไปตามไหล่เขานั้นบอกตรงๆว่าพวกเราก็จอดตลอดทางเพื่อไปถ่ายรูป ถ้าใครที่แนว offoroad แนะนำมาประเทศนี้เลยรับรองสนุกมาก
ตลอดทางต้นไม้สีเหลืองสวยมากแนะนำสักครั้งในชีวิตควรมาสัมพัสใบไม้เปลี่ยนสีที่ปากีสถานสักครั้งในชีวิต จะทำให้คุณหลงรักเขาขึ้นเป็นกอง และลืมเขาไม่ลงเลยละ
อยากแนะนำอีกที่ของจุดชมวิวคือที่ Allti fort แล้วคุณจะได้เห็นวิวแม่น้ำ Gilit ตัดกับท้องฟ้าและเห็นถนน Korakoram highway ขนาดกัน สถาทที่จริงสวยงามาก ที่นี้เล่นเอาพวกเราเสียเวลาวิ่งถ่ายรูปกันอยู่หลายชัjวโมง ในสมัยก่อนคือคุกเก่าที่เอาไวจองจำนักโทษ แต่ตอนนี้แค่คุกนี้ก็เล่นเอาพวกเราติดกับดักถ่ายรูปกันเป็นชั่วโมงไม่ยอมออกไปไหนแล้วละ
ข้างล้างคือรูปวิวรอบๆ Allti fort สถานที่จริงสวยงามมากแต่พีเจไม่สามารถเอามาแชร์ได้หมด เดียวลงแต่รูปเพือนๆจะเบือกัน แต่ประเทศนี้ผู้คนน่ารักมาก เป็นมิตรและเป็นกันเองยิ้มแย้มแจ้มใส พอบอกว่ามาจากประเทศไทยแค่นั้นแหละชาวปากีก็ยิ้มทักทายและเป็นมิตรกับพวกเราเลย PJอยากจะให้เพือนๆมองประเทศนี้สะไหม่อย่างเป็นมิตรและเป็นประเทศที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยคะ
Passu ก็เป็นหนึ่งใน highight ที่ทุกคนควรไปสัมพัส ยิ่งเป็น passu cone แล้วละก็สวยงามมากในรูปนี้พีเจถึงที่ passu view point เย็นแล้วรูปเลยจะออกมามึดหน่อยหน้าดำเลย พวกเราถ่ายรูปกันเก่งเลยกีนเวลาในการเดินทางเยอะหน่อยถึงที่พักกันมึดแถบจะทุกวันเลย
ข้างล้างคือรูประหว่างทางกลับมาอิสลามาบัดซึ่งพวกเราใช้ถนนเส้น Besham และเจอกับปัญหารถติดเพราะเจ้าหน้าที่ทำการระเบิดภูเขาทำถนน เล่นเอาพวกเราต้องจอดรอกันตั้งเกือบ 2 ชั่วโมงกันเลยและวันนี้เลยทำให้พวกเราถึงที่พักที่ รร Hilton กันสะสามทุม เล่นเอาเหนื่อยและก็ไม่มีใครทานอาหารเย็นกันเพราะดึกแล้ว
ความเป็นมิตรของตำรวจท่องเที่ยวชาวปากีสถานถึงหน้าจะโหดแต่อยู่ในโมดใจดี
จริงๆอยากจะเขียนเยอะกว่านี้แต่ต้องขอตัวไปทำงานก่อน จริงๆทริปดูสีเหลืองใบไม้เปลี่ยนสีที่ปากี พีเจไปหลายที่มากและอยากจะเอาสถานที่ต่างๆมาแชร์ให้เพือนได้เห็นทุกที เดียวมีเวลาพีเจจะค่อยๆมาทยอยลงรูปให้เพื่อนๆได้ดู และถ้าใครสนใจจะตามลอยพีเจก็ติดต่อ ให้พีเจจัดทริปปากีสถานในโปรแกรมที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนสามารถร่วมเดินทางไปกับพีเจได้ที่ FB:
https://www.facebook.com/profile.php?id=61559407647864 (Dream Destination Tour and Travel ทัวร์ปากี) หรือสามารถเข้าไปเลือกดูโปรแกรมต่างๆได้ที่
https://dreamdestinationtourandtravel.co.th , Line ID : destinationtour , Tel 0898072382
[CR] เที่ยวปากีสถาน
และครั้งนี้ พีเจ ก็ได้เลือกใช้ local travelling agency เจ้าเดิมที่พีเจเคยใช้เมือ 4 ปีที่แล้ว เพราะบริษัทนี้ก่อตั้งมานานและเป็นทัวร์ที่น่าเชื่อถือได้และเป็นทัวร์ที่ติดอันดับต้นๆของปากี และที่สำคัญลูกค้าส่วนใหญ่เขาเป็นชาวยุโรปสะ99%ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ค่อยมีลูกค้าคนไทย พีเจถือเป็นลูกค้าคนไทยเพียงไม่กีคนเท่านั้น เอาละว่าแล้วก่อนเดินทาง pj ก็ได้มีคุยกับคุณสมบัติว่าขอดูสีเหลืองที่สวยที่สุดของปากีและคุยกันถึงสถานที่ที่เราจะเดินทางในครั้งนี้ กว่าที่จะสรุปว่าจะไปที่ไหนบ้างเราแก้ไขplanกันหลายครั้งมาก จนมาลงตั้วที่ต้องบิน1ขาที่ skardu และเที่ยวลงเลื่อยๆที่ Gilgit and Hunza และเดินทางกลับมา Islamabad โดยเส้น Besham จริงๆแล้วเขาชื่อ Ghulam Abbas แต่ชื่อเขาเรียกยากพีเจและเพื่อนๆเลยเรียกเขาว่าคุณสมบัติแทน. ในการเดินทางครั้งนี้คุณสมบัติได้จองตั่ว local flight จาก Islamabad ไปลง Skardu ให้พีเจและเพื่อนๆทีเดินทางไปด้วยกัน 6 ชีวิต. แค่วันแรกที่เริมเดินทางโดยนั่งlocal flight มาที่ Skardu นี้ก็เล่นเอาพวกเราตื่นตาตื่นในมากกับวิวนอกหน้าต่างของเครื่องบินเพราะ captain เล่นบินโฉบเฉี่ยวไปกับภูเขา Nanga Parbat และเห็นแนวภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพนสะสวยงามมากก ตอลด1ชม พวกเราไม่ได้หลับตาเลย เพราะตื้นเต้นกับวิวนอกหน้าต่างกัน
หลังจากลงจากเครื่องเราก็มุ่งหน้าสู้ Khaplu valley ซึ่งตลอดทางที่พวกเรานั่งรถไม่มีใครนั่งหลับกันเลย แวะถ่ายรูปข้างทางตลอด แม้แต่วิวกลางถนนที่ริมข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้เรียงกันเป็นแถวแต่ใบแทบจะทุกใบเป็นสีเหลืองสวยงามมาก
ตลอดการนั้งรถพวกเราจะเจอกับวิวสีเหลืองแบบหลับตาไม่ลง ได้แต่รอง wow.กันตลอดการเดินทาง ในรูปนี้คือรูปวิวที่พวกเรากำลังจะเดินทางเข้าไปที่ Khaplu valley
อดใจกันไม่ไหวต้องบอกให้ สมบัติ (Abbas) จอดรถเพื่อลงถ่ายรูปตลอดเลยทำให้พวกเราถึงที่พักบ่ายแก่ๆและได้ทานข้าวเที่ยงตอนบ่าย 2 โมง แต่ตลอดการเดินทางไม่รู้สึกหิวเลยเพราะอิ่มกับวิวสองขางทาง แต่พอถึงร้านอาหารที่ Khaplu Fort Serena แค่นั้นแหละ ท้องร้องจอกๆๆกันขึ้นมาทีเดียวเชียว แต่ก่อนหน้านั้นอิ่มทิพย์หรืออิ่มจากการที่ได้วิ่งวุ่นวายถ่ายรูปกันก็ไม่รู้นะคะ แต่ที่แน่ๆอาหารที่นี้อร่อยมากกก
และนี้คือที่ Serena Khaplu fort วิวที่นี้ช่วงสีเหลืองสวยงามมากกกกกก ก.ไก่ล้านตัวคะ พีเจมาช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ช่วงนั้นใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองกันหมดแล้ว เลยทำให้วิวดูประทับใจพวกเรามาก.พีเจรู้สึกว่าอาหารเมือนี้อร่อยไปหมดเพราะได้นั่งทานข้าวไปและได้ดูวิวสวยๆไปด้วยและที่สำคัญได้ถ่ายรูปไปด้วย มันทำให้ช่วงพักร้อนของพีเจทริปนี้ดูลงตัวและมีความสุขไปหมดเลย
ระหว่างทางเดินเข้ามาที่ Khaplu Fort จะมีเก้าอี้ให้นั้งจิบชา กาแฟหรือพักผ่อนแต่มหาราณีพีเจก็ขอแชะรูปสักนิด เพื่อเก็บไว้เป็นที่ละลึกเพราะไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาศได้เดินทางมาที่นี้อีกหรือเปล่า บางครั้งการถ่ายรูปก็ทำให้เราเก็บความทรงจำดีๆและยิบกลับมาดูและอมยิ้มอย่างมีความสุขได้เวลาที่เราเหนื่อยจากการทำงานหนัก
ตรงนี้คือระเบียงร้านอาหาร Serena restuarant ที่พวกเราเข้าไปทานอาหาร วิวสะขนาดนี้จะไม่ทำให้อาหารอร่อยได้ไงคะ ทริปนี้แค่ได้เก็บรูปสวยๆพวกเราก็มีความสุขกันแล้ว
สถานที่อีกแห่งที่ห้ามพลาดเลยคือที่ Khaphocho แต่กว่าจะมาถึงที่นี้ได้เล่นเอาเดินขึ้นมาสะเหนือยเลย ทางขึ้นค่อนข้างชันถึงชันมาก แต่ใช้เวลาเดินแค่ 20-30นาที แนะนำเลยคะว่าห้ามพลาดเพราะคุณจะได้เห็นวิวทั้งเมืองของ Skradu แบบ 360องค์สาเลย วันนี้มัวแต่แวะถ่ายรูประหว่างทางเยอะไปหน่อยเลยทำให้ถึงที่ Kharphocho เย็นแล้วและพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว จริงๆถ้ามาถึงเร็วหน่อยวิวจะสวยและสว่างกว่านี้
แต่วิวข้างทางที่พวกเราขับรถผ่านและรีบวิ่งลงมาเก็บรูปภาพตรงสะพานระหว่างกลับออกจาก Khaplu Valley นี้ก็ทำให้พวกเราเสียเวลาไปเป็นชั่วโมงเลย แนะนำถ้ามากันหลายคนให้จับคู่กันและหามุมใครมุมมันช่วยกันถ่ายรูปไม่งั้นทำเวลาไม่ได้แน่นอน
Sriga valley ก็เป็นอีกหนึ่ง Highlight ที่ห้ามพลาดนะคะ จริงแล้วใน plan พีเจมีแวะที่ทะเลทราย Cold Desert ด้วยนะคะ แต่พอแวะแล้วมันไม่ค่อยมีอะไร และแดดแรงมากก มีกิจกรรมคือขี่ม้าหรือว่าจะนั่งรถ AV วิ่งตามสันทะเลทราย แต่พีเจและเพือนๆคุยกันแล้วว่าสำหรับพวกเราคิดว่ามันไม่สวยและไม่ควรเสียเวลาเลยแวะแค่แป๊บเดียวและนั่งรถเข้า Sriga valley
อีกสถานที่หนึ่งที่ห้ามพลาดถ้าได้มาที่ Skardu คือที่ lower kachura lake แต่อย่างที่บอกว่าที่นี้คือที่ส่วนบุคคล ดังนั้นถ้าจะเข้ามาถ่ายรูปข้างในต้องเสียค่าบัตรเข้าข้างใน แต่เท่าไหร่นั้นพีเจไม่ได้ถามคุณAbbas เพราะราคา Package price ที่พีเจจ่ายนั้นร่วมทุกอย่างแล้วทั้งตั๋วบินภายในประเทศ1ขา ค่าที่พัก อาหาร และรวมค่าบัตรเข้าชมทุกสถานที่แล้ว จริงๆก่อนเดินทางควรตกลงและคุยกันกับทาง local travelling agency ให้ละเอียดว่ารวมค่าอะไรบ้าง เพราะที่นี้เขามีหลายราคา ถ้าเลือกพัก รร 5ดาวก็จะแพงมาก แต่สำหรับพีเจแล้วเลือกที่พักดีหน่อย และราคารับได้ แต่มีอย่างหนึ่งที่เพื่อนๆต้องทำใจในการมาเที่ยวปากีสถานคือที่นี้ไม่ได้มีปั้มน้ำมันตลอดเส้นทางนะคะ ปั้มน้ำมันมีแค่ไม่กี่แห่งในเมือง ดังนั้นแนะนำถ้าใครปวดฉีบ่อยให้รีบเข้าห้องน้ำต้งแต่ในเมือง หรือไม่ถ้าปวดก็ต้องรีบแจ้งคุณไกดิ์ให้แวะจอดข้างทาง ซึ่งคุณต้องเตรียมผ้าพกไปคุ้มตามโขดหินด้วย หรือไม่ก็พกถุงฉีแบบฉุกเฉินไป ไม่แนะนำให้กลั้นฉีเพราะเพื่อนที่ไปด้วยกันกลับมาป่วยเป็นปัสสาวะอักเสบ และมีอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำใจคือที่ปากีสถานถนนหนทางเขายังไม่เจริญเหมือนประเทศไทย ดังนั้นถ้าเจอฟนตกหรือดินสะไลเข้าไปเราไม่สามารถกำหนดการเดินทางได้เลยว่าจะถึงที่หมายกีโมงและได้ทานข้าวกีโมง แนะนำให้เพือนๆเตรียมขหนมพกติดกระเป๋าไปด้วย แต่ถ้าไปช่วงเดือนตุลาคมไม่เจอฟน ปัญหาที่จะเจอกับ landslide นั้นน้อยมาก แต่ถ้าไปหน้าอื่นอาจจะเจอlandslideและต้องทำใจในการท่องเที่ยวประเทศนี้และต้องเจอกับปัญหารถติกแง๊กบนถนนที่ยาวเยียดก็ได้. แต่พีเจและเพื่อนๆทั้ง6คนพวกเราคือนักเดินทางเลยไม่ค่อยมีปัญหากับการเจอสถานการณ์เหล่านี้เท่าไหร่ พวกเราทำใจได้และกลัวการไม่ได้เที่ยวสะมากกว่า
Chundhal Valley วิวก็สวยอลังการล้านแปดไม่น้อยหน้าเลย แต่ในครั้งนี้คุณสมบัติใช้รถ 4X4 สองคัน เพราะพวกเรามี6คน ตลอดทางที่วิ่งลัดเลาะไปตามไหล่เขานั้นบอกตรงๆว่าพวกเราก็จอดตลอดทางเพื่อไปถ่ายรูป ถ้าใครที่แนว offoroad แนะนำมาประเทศนี้เลยรับรองสนุกมาก
ตลอดทางต้นไม้สีเหลืองสวยมากแนะนำสักครั้งในชีวิตควรมาสัมพัสใบไม้เปลี่ยนสีที่ปากีสถานสักครั้งในชีวิต จะทำให้คุณหลงรักเขาขึ้นเป็นกอง และลืมเขาไม่ลงเลยละ
อยากแนะนำอีกที่ของจุดชมวิวคือที่ Allti fort แล้วคุณจะได้เห็นวิวแม่น้ำ Gilit ตัดกับท้องฟ้าและเห็นถนน Korakoram highway ขนาดกัน สถาทที่จริงสวยงามาก ที่นี้เล่นเอาพวกเราเสียเวลาวิ่งถ่ายรูปกันอยู่หลายชัjวโมง ในสมัยก่อนคือคุกเก่าที่เอาไวจองจำนักโทษ แต่ตอนนี้แค่คุกนี้ก็เล่นเอาพวกเราติดกับดักถ่ายรูปกันเป็นชั่วโมงไม่ยอมออกไปไหนแล้วละ
ข้างล้างคือรูปวิวรอบๆ Allti fort สถานที่จริงสวยงามมากแต่พีเจไม่สามารถเอามาแชร์ได้หมด เดียวลงแต่รูปเพือนๆจะเบือกัน แต่ประเทศนี้ผู้คนน่ารักมาก เป็นมิตรและเป็นกันเองยิ้มแย้มแจ้มใส พอบอกว่ามาจากประเทศไทยแค่นั้นแหละชาวปากีก็ยิ้มทักทายและเป็นมิตรกับพวกเราเลย PJอยากจะให้เพือนๆมองประเทศนี้สะไหม่อย่างเป็นมิตรและเป็นประเทศที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยคะ
Passu ก็เป็นหนึ่งใน highight ที่ทุกคนควรไปสัมพัส ยิ่งเป็น passu cone แล้วละก็สวยงามมากในรูปนี้พีเจถึงที่ passu view point เย็นแล้วรูปเลยจะออกมามึดหน่อยหน้าดำเลย พวกเราถ่ายรูปกันเก่งเลยกีนเวลาในการเดินทางเยอะหน่อยถึงที่พักกันมึดแถบจะทุกวันเลย
ข้างล้างคือรูประหว่างทางกลับมาอิสลามาบัดซึ่งพวกเราใช้ถนนเส้น Besham และเจอกับปัญหารถติดเพราะเจ้าหน้าที่ทำการระเบิดภูเขาทำถนน เล่นเอาพวกเราต้องจอดรอกันตั้งเกือบ 2 ชั่วโมงกันเลยและวันนี้เลยทำให้พวกเราถึงที่พักที่ รร Hilton กันสะสามทุม เล่นเอาเหนื่อยและก็ไม่มีใครทานอาหารเย็นกันเพราะดึกแล้ว
ความเป็นมิตรของตำรวจท่องเที่ยวชาวปากีสถานถึงหน้าจะโหดแต่อยู่ในโมดใจดี
จริงๆอยากจะเขียนเยอะกว่านี้แต่ต้องขอตัวไปทำงานก่อน จริงๆทริปดูสีเหลืองใบไม้เปลี่ยนสีที่ปากี พีเจไปหลายที่มากและอยากจะเอาสถานที่ต่างๆมาแชร์ให้เพือนได้เห็นทุกที เดียวมีเวลาพีเจจะค่อยๆมาทยอยลงรูปให้เพื่อนๆได้ดู และถ้าใครสนใจจะตามลอยพีเจก็ติดต่อ ให้พีเจจัดทริปปากีสถานในโปรแกรมที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนสามารถร่วมเดินทางไปกับพีเจได้ที่ FB: https://www.facebook.com/profile.php?id=61559407647864 (Dream Destination Tour and Travel ทัวร์ปากี) หรือสามารถเข้าไปเลือกดูโปรแกรมต่างๆได้ที่ https://dreamdestinationtourandtravel.co.th , Line ID : destinationtour , Tel 0898072382
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้