ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เราทำงานบริษัทเดียวกับเพื่อน เราคบกันมา 2-3 ปี ถือว่าสนิทกันอยู่ค่ะ ซึ่งเรารู้สึกว่า เพื่อนเราคนนี้แทบไม่เข้าใจอะไรในตัวเราเลย พวกเราทะเลาะกันบ่อยมาก เขาชอบงอล น้อยใจ วันไหนเราไม่ว่าง หรือไม่ได้ใส่ใจ เขาก็มักจะชวนทะเลาะว่าเราไม่สนใจเขา ไม่เป็นห่วงเขา แล้วหาเรื่องทะเลาะจนกลายเป็นเรื่องใหญ่มาก ทักมาด่าเรา บอกว่าเราเปลี่ยนไป อย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ยอมตลอด ขอโทษเพื่อน
เรื่องที่ทำให้ทะเลาะกันหนัก เริ่มต้นมาจากการที่ HR เรียกเราเข้าไปถามว่า "ทำไมตอนเที่ยงถึงกลับมาบริษัทสาย"
และเราบอกความจริงไปค่ะ
ความจริงคือ บางวันเพื่อนเราคนนี้ ก่อนวันเกิดเรื่อง เขาทักมา ขอให้วันพรุ่งนี้เที่ยงไปรับไปส่งที่ห้าง เพราะหนุ่มของเขานัดกินข้าวที่นั้น เราก็ตอบตกลง เพราะอยากช่วยเพื่อน อีกอย่างมันก็ไม่ไกล พอเที่ยงวันนั้นมาถึง เราไปส่งเขา รถติดนิดหน่อย แต่มันใกล้ห้างเลยไม่มีอะไร หลังจากนั้นเรากลับมาหาอะไรกิน ทำให้เรามีเวลากินข้าวน้อย ซึ่งเรารับได้ เราบอกให้เพื่อนกินข้าวกับผู้ชายให้เสร็จก่อนเวลา 12.40 น. เพราะเราออกก่อนเวลานั้น และถึงตอน 12.40 น. พอดี พอถึงเวลา ขึ้นมาที่รถ จากนั้นต้องกลับมาที่บริษัททันที เพราะเรากะเวลาเอาไว้แล้ว แต่พอ 12.30 น. เราออกไปรับเพื่อนตามที่ตกลงค่ะ ถึงตอน 12.40 เราจอดรอมันหน้าห้าง เพราะนัดกันไว้ตรงนี้ มันทักมาหาตอน 12.45 ว่า
"โทษที แปปนะ กูขอเวลาหน่อย" เราก็นั่งในรถ ดูไรเรื่อยๆเปื่อยๆ เผลอแปปเดียว
12.50 แล้ว เราเริ่มใจไม่ดีแหละ เราเลยโทรหาเพื่อน
มันรับสาย และบอกว่า "แปปนะยังไม่เสร็จ" เราเลย โอเค โทรไปหา HR และบอกว่า จะเข้าไปช้าหน่อย HR Ok รับรู้ เพราะปกติพนักงานที่นี้ก็ทำแบบนี้กันอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ มันเรทเราจนเกือบ
13.40 น. ค่ะ ตอนแรกเราจะออกก่อนแล้วให้มันนั่งวินเข้ามาเอง แต่เราก็เป็นห่วงเพื่อน เพราะมันบอกให้รอก่อน
พอกลับไปถึงที่ทำงาน
HR เรียกคุยว่าทั้งเรา ทั้งเพื่อน ถามว่าไปไหน เรทมาเกือบ 40 นาที ด้วยความที่ว่า เรารีบมาก เลยไม่ได้คุยหรือเตี้ยมก่อนมาถึง
เราบอก HR ไปตามจริงค่ะ ซึ่งบอกไม่หมด เราบอกว่าไปส่งเพื่อนไปธุระ ไม่ได้บอกว่าเพราะเพื่อนไปกินข้าวกับผู้ชาย
แต่เพื่อนเราเขาโกหก เขาบอกว่า ท้องเสีย เลยเข้าห้องน้ำนาน ซึ่ง HR ไม่น่าจะเชื่ออยู่แล้ว
หลังจากวันนั้น HR เอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อน ว่าเราบอก HR อีกแบบ เพื่อนเราโกรธมาก ด่าเราว่าเราเอามันไปอ้าง เราบอกว่า
"มันก็เป็นความจริงรึเปล่า อีกอย่างมันก็ไม่มีปัญหาอะไร HR แค่เตือนเฉยๆ ถ้าไม่โอเค กูขอโทษ"
มันก็ไม่ฟัง เถียงๆ ด่าๆ ด่าเราแรงมาก บอกว่าเราแย่ เพื่อนไม่ดี นิสัยแย่ ทำไมต้องอ้างว่ากูทำให้สาย กูไม่น่าเป็นเพื่อนเลย กูช่วยเหลือตลอด ตอบแทนกูแบบนี้เหรอ กูหาหอพักให้ ดูสิ่งที่ทำซิ เราหักกัน
แทงข้างหลัง
เราขอบอกก่อนว่า ไอ้หนี้บุญคุณทุกอย่างที่มันพูด มันแค่เข้าไปคุยให้ค่ะ ทั้งเงินวางมัดจำ เราก็จ่ายเอง
หรือวันสัมภาษณ์งาน เราก็เตรียมตัวไปสัมภาษณ์อย่างดีด้วยตัวเอง
มันเหมือนเป็นแค่นกที่เอาข่าวมาบอกแค่นั้น ไม่ได้ช่วยไรเราเลย วันที่เราย้ายมาอยู่ใหม่ ก็ไม่เคยมาช่วยยกของ ย้ายของขึ้นห้องใหม่เลย
มีแต่แฟนเราที่มาช่วย
ทั้งที่เราคิดในใจว่า เรื่องมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยนะ เพราะ HR ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาแค่ถาม มันมาโป๊ะก็ตรงที่เพื่อนเราโกหกนี้แหละ
นั้นแหละค่ะ
ช่วงแรกๆหลังจากที่เราทะเลาะกัน เราทรมานใจมาก
เราเลยไปดู YouTube ให้ตัวเองมีกำลังใจขึ้น เนื้อหาแบบ ตลกๆ หรือไม่ก็ เรื่องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
จน YouTube มัน recommended ช่องพี่ยิปโซพี่ยิปซี เขาพูดเกี่ยวกับ จับสัญญาณความ + คน Toxic
เรากดเข้าไปดู ทุก list ที่ว่าคน Toxic จะเป็นคนยังไง ทั้งหมดที่พวกพี่ยิปพูด มันเหมือนเพื่อนเราคนนี้เลยค่ะ ทั้งการกระทำ คำพูด
ตอนนั่งฟัง เหมือนเรามีเสียงดังในหูลอยมาว่า "เราอยู่กับเพื่อน Toxic มาตลอด 3 ปีเลยนิหว่า"
แถมบางอย่างที่มันพูด ก็พูดจริง 80% ใส่ไฟอีก 10% โกหกอีก 10% เราเคยจับได้ว่าเขาขี้โกหกมาหลายครั้ง
แต่เราไม่พูดอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เรายอมรับในตัวมันได้ เพราะเราเป็นเพื่อนกัน แต่หาเรื่องทะเลาะ และคำพูดของเขามันเจ็บเกินทนค่ะ
ตอนนี้เราตัดสินใจห่างๆ ไม่คุยกัน ไม่ติดต่อ ทักยังไม่ทักเลยค่ะ
เขาเป็นคนที่คุยกับคนอื่นเก่ง เข้าสังคมเก่ง ผิดกับเรา เราไม่ค่อยคุย ไม่ค่อยสนใจใคร
แต่เขามักจะชอบเม้ามอย คุยกับคนในบริษัท นินทา ซึ่งเราไม่ค่อยชอบ เลยไม่เข้าไปคุยกับกลุ่มนั้นอยู่แล้ว
คนที่ไม่สนิทกับเขา มักจะมองว่าเขาดี friendly กลายเป็นว่าในบริษัทเขาดูเป็นคนถูก และเราเป็นคนโกหกเฉยเลยค่ะ
เรื่องสังคมในบริษัทไม่ค่อยมีอะไร บางคนยังทำตัวปกติกับเราเหมือนเดิม แต่ก็มีบางคน fade เราออกค่ะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วแต่เขาคิด
เราแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ
แต่เรื่องที่ทำให้เรายังอึดอัดใจ และคิดไม่ตก คือเรื่องของเพื่อนมากกว่า ใจเราอยากจะเฉยๆ ไม่ยุ่งกับเขา เพราะเราแอบเจ็บที่มันด่าเราว่า เป็นคนไม่ได้เรื่อง ไม่รู้จักโต มาทำงานยังไม่ทันผ่านโปรก็สาย ลาป่วยก็บ่อย ซึ่งเราลาป่วยไปแค่ 3 วันค่ะ นอกจากนี้ยังบอกว่า เรารับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้ จบด้วยคำพูดสุดท้ายว่า "
ที่กูพูดเพราะเป็นห่วงนะ"
คำพูดทั้งหมดทำเรากดดันมาก เราเสียใจ และรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆ แม้ว่าตอนนี้เราจะเฉยๆแล้วเวลาเห็นหน้ามัน
แต่ก็ยังไม่คุยกัน หรือขอโทษกัน เรามองมันเป็นอากาศเลยค่ะ ไม่ทัก ไม่สนใจ มันเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน
เราทำแบบนี้ก็จริง แต่บางครั้งก็มานั่งคิดว่า สิ่งที่เราทำมันถูกต้องจริงเหรอ หรือเราเป็นฝ่ายผิดจริงๆ เราควรจะไปขอโทษ
หรือจะช่าง
และถือว่าการได้เสียเพื่อนคนนี้ไปถือว่าส่งผลดี เพราะตัวเขาเองก็ Toxic ถือซะว่าเสียเพื่อน Toxic ไป 1 คน
ยังไงดีค่ะ มันอาจจะยาวหน่อย แต่มันทำเราตัดสินใจยาก
โดน HR ถามว่า ทำไมกลับมาสาย, เราเลือกที่จะไม่พูดโกหก, สุดท้ายโดนเพื่อนเลิกคบ เราผิดเหรอคะ
เรื่องที่ทำให้ทะเลาะกันหนัก เริ่มต้นมาจากการที่ HR เรียกเราเข้าไปถามว่า "ทำไมตอนเที่ยงถึงกลับมาบริษัทสาย"
และเราบอกความจริงไปค่ะ
ความจริงคือ บางวันเพื่อนเราคนนี้ ก่อนวันเกิดเรื่อง เขาทักมา ขอให้วันพรุ่งนี้เที่ยงไปรับไปส่งที่ห้าง เพราะหนุ่มของเขานัดกินข้าวที่นั้น เราก็ตอบตกลง เพราะอยากช่วยเพื่อน อีกอย่างมันก็ไม่ไกล พอเที่ยงวันนั้นมาถึง เราไปส่งเขา รถติดนิดหน่อย แต่มันใกล้ห้างเลยไม่มีอะไร หลังจากนั้นเรากลับมาหาอะไรกิน ทำให้เรามีเวลากินข้าวน้อย ซึ่งเรารับได้ เราบอกให้เพื่อนกินข้าวกับผู้ชายให้เสร็จก่อนเวลา 12.40 น. เพราะเราออกก่อนเวลานั้น และถึงตอน 12.40 น. พอดี พอถึงเวลา ขึ้นมาที่รถ จากนั้นต้องกลับมาที่บริษัททันที เพราะเรากะเวลาเอาไว้แล้ว แต่พอ 12.30 น. เราออกไปรับเพื่อนตามที่ตกลงค่ะ ถึงตอน 12.40 เราจอดรอมันหน้าห้าง เพราะนัดกันไว้ตรงนี้ มันทักมาหาตอน 12.45 ว่า
"โทษที แปปนะ กูขอเวลาหน่อย" เราก็นั่งในรถ ดูไรเรื่อยๆเปื่อยๆ เผลอแปปเดียว 12.50 แล้ว เราเริ่มใจไม่ดีแหละ เราเลยโทรหาเพื่อน
มันรับสาย และบอกว่า "แปปนะยังไม่เสร็จ" เราเลย โอเค โทรไปหา HR และบอกว่า จะเข้าไปช้าหน่อย HR Ok รับรู้ เพราะปกติพนักงานที่นี้ก็ทำแบบนี้กันอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ มันเรทเราจนเกือบ 13.40 น. ค่ะ ตอนแรกเราจะออกก่อนแล้วให้มันนั่งวินเข้ามาเอง แต่เราก็เป็นห่วงเพื่อน เพราะมันบอกให้รอก่อน
พอกลับไปถึงที่ทำงาน
HR เรียกคุยว่าทั้งเรา ทั้งเพื่อน ถามว่าไปไหน เรทมาเกือบ 40 นาที ด้วยความที่ว่า เรารีบมาก เลยไม่ได้คุยหรือเตี้ยมก่อนมาถึง
เราบอก HR ไปตามจริงค่ะ ซึ่งบอกไม่หมด เราบอกว่าไปส่งเพื่อนไปธุระ ไม่ได้บอกว่าเพราะเพื่อนไปกินข้าวกับผู้ชาย
แต่เพื่อนเราเขาโกหก เขาบอกว่า ท้องเสีย เลยเข้าห้องน้ำนาน ซึ่ง HR ไม่น่าจะเชื่ออยู่แล้ว
หลังจากวันนั้น HR เอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อน ว่าเราบอก HR อีกแบบ เพื่อนเราโกรธมาก ด่าเราว่าเราเอามันไปอ้าง เราบอกว่า
"มันก็เป็นความจริงรึเปล่า อีกอย่างมันก็ไม่มีปัญหาอะไร HR แค่เตือนเฉยๆ ถ้าไม่โอเค กูขอโทษ"
มันก็ไม่ฟัง เถียงๆ ด่าๆ ด่าเราแรงมาก บอกว่าเราแย่ เพื่อนไม่ดี นิสัยแย่ ทำไมต้องอ้างว่ากูทำให้สาย กูไม่น่าเป็นเพื่อนเลย กูช่วยเหลือตลอด ตอบแทนกูแบบนี้เหรอ กูหาหอพักให้ ดูสิ่งที่ทำซิ เราหักกัน แทงข้างหลัง
เราขอบอกก่อนว่า ไอ้หนี้บุญคุณทุกอย่างที่มันพูด มันแค่เข้าไปคุยให้ค่ะ ทั้งเงินวางมัดจำ เราก็จ่ายเอง
หรือวันสัมภาษณ์งาน เราก็เตรียมตัวไปสัมภาษณ์อย่างดีด้วยตัวเอง
มันเหมือนเป็นแค่นกที่เอาข่าวมาบอกแค่นั้น ไม่ได้ช่วยไรเราเลย วันที่เราย้ายมาอยู่ใหม่ ก็ไม่เคยมาช่วยยกของ ย้ายของขึ้นห้องใหม่เลย
มีแต่แฟนเราที่มาช่วย
ทั้งที่เราคิดในใจว่า เรื่องมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยนะ เพราะ HR ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาแค่ถาม มันมาโป๊ะก็ตรงที่เพื่อนเราโกหกนี้แหละ
นั้นแหละค่ะ
ช่วงแรกๆหลังจากที่เราทะเลาะกัน เราทรมานใจมาก
เราเลยไปดู YouTube ให้ตัวเองมีกำลังใจขึ้น เนื้อหาแบบ ตลกๆ หรือไม่ก็ เรื่องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
จน YouTube มัน recommended ช่องพี่ยิปโซพี่ยิปซี เขาพูดเกี่ยวกับ จับสัญญาณความ + คน Toxic
เรากดเข้าไปดู ทุก list ที่ว่าคน Toxic จะเป็นคนยังไง ทั้งหมดที่พวกพี่ยิปพูด มันเหมือนเพื่อนเราคนนี้เลยค่ะ ทั้งการกระทำ คำพูด
ตอนนั่งฟัง เหมือนเรามีเสียงดังในหูลอยมาว่า "เราอยู่กับเพื่อน Toxic มาตลอด 3 ปีเลยนิหว่า"
แถมบางอย่างที่มันพูด ก็พูดจริง 80% ใส่ไฟอีก 10% โกหกอีก 10% เราเคยจับได้ว่าเขาขี้โกหกมาหลายครั้ง
แต่เราไม่พูดอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เรายอมรับในตัวมันได้ เพราะเราเป็นเพื่อนกัน แต่หาเรื่องทะเลาะ และคำพูดของเขามันเจ็บเกินทนค่ะ
ตอนนี้เราตัดสินใจห่างๆ ไม่คุยกัน ไม่ติดต่อ ทักยังไม่ทักเลยค่ะ
เขาเป็นคนที่คุยกับคนอื่นเก่ง เข้าสังคมเก่ง ผิดกับเรา เราไม่ค่อยคุย ไม่ค่อยสนใจใคร
แต่เขามักจะชอบเม้ามอย คุยกับคนในบริษัท นินทา ซึ่งเราไม่ค่อยชอบ เลยไม่เข้าไปคุยกับกลุ่มนั้นอยู่แล้ว
คนที่ไม่สนิทกับเขา มักจะมองว่าเขาดี friendly กลายเป็นว่าในบริษัทเขาดูเป็นคนถูก และเราเป็นคนโกหกเฉยเลยค่ะ
เรื่องสังคมในบริษัทไม่ค่อยมีอะไร บางคนยังทำตัวปกติกับเราเหมือนเดิม แต่ก็มีบางคน fade เราออกค่ะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วแต่เขาคิด
เราแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ
แต่เรื่องที่ทำให้เรายังอึดอัดใจ และคิดไม่ตก คือเรื่องของเพื่อนมากกว่า ใจเราอยากจะเฉยๆ ไม่ยุ่งกับเขา เพราะเราแอบเจ็บที่มันด่าเราว่า เป็นคนไม่ได้เรื่อง ไม่รู้จักโต มาทำงานยังไม่ทันผ่านโปรก็สาย ลาป่วยก็บ่อย ซึ่งเราลาป่วยไปแค่ 3 วันค่ะ นอกจากนี้ยังบอกว่า เรารับผิดชอบชีวิตตัวเองไม่ได้ จบด้วยคำพูดสุดท้ายว่า "ที่กูพูดเพราะเป็นห่วงนะ"
คำพูดทั้งหมดทำเรากดดันมาก เราเสียใจ และรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆ แม้ว่าตอนนี้เราจะเฉยๆแล้วเวลาเห็นหน้ามัน
แต่ก็ยังไม่คุยกัน หรือขอโทษกัน เรามองมันเป็นอากาศเลยค่ะ ไม่ทัก ไม่สนใจ มันเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน
เราทำแบบนี้ก็จริง แต่บางครั้งก็มานั่งคิดว่า สิ่งที่เราทำมันถูกต้องจริงเหรอ หรือเราเป็นฝ่ายผิดจริงๆ เราควรจะไปขอโทษ
หรือจะช่าง และถือว่าการได้เสียเพื่อนคนนี้ไปถือว่าส่งผลดี เพราะตัวเขาเองก็ Toxic ถือซะว่าเสียเพื่อน Toxic ไป 1 คน
ยังไงดีค่ะ มันอาจจะยาวหน่อย แต่มันทำเราตัดสินใจยาก