สภาวะรู้แจ้ง(จิตหรือวิญญาณขันธ์) กับสภาวะปัญญารู้แจ้งในมรรคญาณ(ไม่ใช่จิต แจ้งชัดแบบวิสังขาร) ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน
ดังนันผู้บรรลุมรรคญาณแล้ว ย่อมไม่มีทิฏฐิติดอยู่(วิ่งไปสู่)กับอัตตาหรือจิตเที่ยงเป็นตนใดๆ แม้จะยังรู้สึกว่าเป็นตนอยู่ตามสามัญทั่วไปภายหลัง แต่ก็เห็นเป็นอนัตตา ตั้งแต่โสดาบันติมรรคแล้ว อย่างไม่คลาดเคลื่อนไปอีกเลย
สภาวะรู้แจ้ง(จิตหรือวิญญาณขันธ์) กับสภาวะปัญญารู้แจ้งในมรรคญาณ(ไม่ใช่จิต แจ้งชัดแบบวิสังขาร) ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน
ดังนันผู้บรรลุมรรคญาณแล้ว ย่อมไม่มีทิฏฐิติดอยู่(วิ่งไปสู่)กับอัตตาหรือจิตเที่ยงเป็นตนใดๆ แม้จะยังรู้สึกว่าเป็นตนอยู่ตามสามัญทั่วไปภายหลัง แต่ก็เห็นเป็นอนัตตา ตั้งแต่โสดาบันติมรรคแล้ว อย่างไม่คลาดเคลื่อนไปอีกเลย