“ศิริกัญญา” เปิด 5 ข้อสังเกตงบปี 68 ชี้ งบกลางพุ่ง 30% แต่ยังไม่มีเจ้าภาพรับทำเงินดิจิทัล
https://www.dailynews.co.th/news/3379516/
“ศิริกัญญา”เปิด 5 ข้อสังเกต งบปี 68 ชี้งบกลางเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ พบมีรายการใหม่ ชื่อค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ 152,700 ล้านบาท และยังไร้เจ้าภาพ รับเงินทำดิจิทัล
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่าน ผ่านแอปพลิเคชั่น x ถึงข้อสังเหตุเบื้องต้นในร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีเนื้อหาดังนี้
ข้อสังเกตเบื้องต้นจากรายละเอียดงบปี 68 ที่ผ่านครม.เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (แต่กำลังจะโดนรื้ออีกรอบ)
งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 3.752 ล้านล้านบาท เบ่งขึ้นกว่าปีที่แล้ว 9% เพื่อรองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่รายได้รัฐบาลเพิ่มแค่ 3.6% ส่งผลให้ต้องกู้เพื่อชดเชยขาดดุลเกือบชนเพดานที่ 865,700 ล้านบาท เหลือพื้นที่ให้กู้เพิ่มอีกแค่ 5,000 ล้านบาทหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
1. งบกลางเพิ่มขึ้น 30% พบว่ามีรายการใหม่ชื่อว่า “ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ 152,700 ลบ.” aka โครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั่นเอง น่าแปลกใจที่ทำไมไม่ตั้งไว้ในหน่วยรับงบที่เป็นคนทำโครงการ แสดงว่ายังไม่มีเจ้าภาพชัดเจน ที่น่าดีใจคือยอมตั้งงบบำนาญ และงบรักษาพยาบาลให้สะท้อนค่าใช้จ่ายที่เกิดจริงมากขึ้น
2. งบใช้หนี้เพิ่มขึ้น งบใช้คืนเงินต้น 150,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30,000 ล้านบาท งบชำระดอกเบี้ย 325,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 100,000 ล้านบาทจากปีที่แล้ว เฉพาะงบใช้หนี้สาธารณะก็คิดเป็น 16.5% ของรายได้รัฐบาลแล้ว
3. งบกระทรวงมหาดไทยลดลง 56,000 ล้าน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เพียงแค่เอางบเทศบาลตำบลย้ายจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นไปอยู่หมวดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งทำให้หมวดอปท.เพิ่มขึ้นแทน
4. งบท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเกือบ 10% เป็น 378,170 ล้านบาท แต่สัดส่วนรายได้ท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาล ยังคงอยู่ที่ 29% เหมือนเดิม
5. รายจ่ายลงทุนมีสัดส่วนสูงสุดในรอบหลายปี อยู่ที่ 24% ของงบ จากปกติจะอยู่ราว 20% เท่านั้น กฎหมายกำหนดไว้ว่ารายจ่ายลงทุนต้องไม่น้อยกว่ายอดการกู้เพื่อชดเชยขาดดุลซึ่งอยู่เท่ากับ 23% ปรากฏว่าจากการสอบถามสำนักงบพบว่า นับรวมงบดิจิทัลวอลเล็ตบางส่วนเป็นรายจ่ายลงทุนด้วย จึงทำให้สัดส่วนรายจ่ายลงทุนผ่านตาม
https://twitter.com/SirikanyaTansa1/status/1783485783195914283
“ก้าวไกล” จี้รบ.จะ 1 ปีแล้วค่าแรงยังไม่ปรับขึ้นถ้วนหน้า
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_709288
“ก้าวไกล” จี้รัฐบาลจะ1ปีแล้วค่าแรงยังไม่ปรับขึ้นถ้วนหน้า เป้าหมาย 600 บาท ในปี 2570 จะเป็นไปได้หรือไม่ พร้อมชวนประชาชนออกมารณรงค์ วันแรงงาน พบกัน 8 โมงเช้าหน้าเวทีราชดำเนิน ก่อนเคลื่อนขบวนไปลานคนเมือง
กิจกรรม Sol Bar Talk ครั้งที่ 34 ที่อาคารอนาคตใหม่ สส.พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นาย
เซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ, นาย
สุเทพ อู่อ้น สส.บัญชีรายชื่อ และ นางสาว
วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมพูดคุยเรื่องการขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตแรงงานก่อนถึงวันแรงงานแห่งชาติ 1 พ.ค. นี้
โดยช่วงหนึ่งมีการพูดถึงประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ นาย
เซีย กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเคยหาเสียงจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทต่อวันภายใน 100 วันแรกของการเป็นรัฐบาล ควบคู่ไปกับการปรับเพิ่มสวัสดิการของพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย เช่น เพิ่มเงินอุดหนุนเด็กเล็ก เพิ่มเงินผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของวัยแรงงานลง
อย่างไรก็ตาม ในรัฐบาลปัจจุบัน การปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำยังไม่มีความชัดเจน เมื่อต้นปีปรับขึ้น 2-16 บาท ต่อมาเดือน เม.ย. ปรับให้ใน 10 จังหวัด แต่พอไปดูรายละเอียด บางจังหวัดก็เพิ่มแค่ตำบลเดียว และกำหนดเงื่อนไขด้วยว่าจะเพิ่มให้เฉพาะกิจการโรงแรมที่มีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไปและต้องเป็นโรงแรม 4 ดาว ตนมองว่านี่คือการขึ้นค่าแรงแบบศรีธนญชัย ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ปัจจุบันค่าจ้างขั้นต่ำไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ในขณะที่รัฐบาลบอกว่าอยากกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าถ้าปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแบบถ้วนหน้า พี่น้องแรงงานจะมีเงินไปจับจ่ายใช้สอย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่
ส่วนที่นาย
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ระบุว่า ในวันแรงงาน กระทรวงแรงงานจะประกาศเจตนารมณ์ของนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวันทุกสาขาอาชีพภายในปี 2567 นั้น นาย
เซีย กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าจะเป็น ไปตามนี้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้รัฐมนตรีจะโยนบาปให้คณะกรรมการไตรภาคีอีกหรือไม่
ด้านนาย
สุเทพ กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามนโยบายก้าวไกล เราคิดอย่างเป็นระบบ มีการกำหนดค่าแรงที่คาดการณ์ได้ สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจหรือเงินเฟ้อ ผู้ประกอบการสามารถวางแผนได้ รวมถึงมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เช่น การลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคม
ขณะนางสาววรรณวิภา กล่าวว่า พรรคแกนนำรัฐบาลเคยหาเสียงว่าภายในปี 2570 จะขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทต่อวัน ตอนนี้จะครบหนึ่งปีของรัฐบาลแล้ว ถ้ายังไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ก็มองไม่เห็นทางว่าจะไปปรับตอนไหนให้ได้ 600 บาทตามเป้าหมาย จึงขอให้ประชาชนจับตาว่าวันแรงงานปีนี้ เรื่องค่าแรงจะไปในทิศทางไหน
จากนั้น นาย
เซีย ทิ้งท้ายว่า ในวันแรงงาน 1 พ.ค.นี้ พรรคก้าวไกลขอเชิญชวนประชาชนออกมาร่วมกิจกรรมเดินขบวนกับ สส. ของพรรค นำโดย นาย
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อรำลึกถึงคนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิแรงงานมายาวนาน และเพื่อแสดงเจตจำนงว่าเราจะผลักดันวาระที่ทำให้พี่น้องแรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายสิทธิลาคลอด 180 วัน ที่ขณะนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ และร่างกฎหมายสหภาพแรงงาน ส่งเสริมสิทธิของคนทำงานในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง
สำหรับกิจกรรมนี้จะเป็นพื้นที่รณรงค์ทางความคิด ว่าเราอยากเห็นอนาคตของคนทำงานในประเทศไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น ยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยมีผู้สูงอายุมากขึ้น เด็กเกิดใหม่น้อยลง วัยแรงงานจะขาดแคลน คนทำงานยิ่งควรมีกฎหมายและสิทธิสวัสดิการรองรับ ดังนั้น ขอเชิญชวนออกมาพบกันในวันที่ 1 พ.ค. เวลา 8.00 น. หน้าเวทีมวยราชดำเนิน ก่อนเคลื่อนขบวนไปที่ลานคนเมือง ระหว่างการทำกิจกรรมจะมีการรณรงค์แจกแผ่นพับใบปลิว และจะมีกิจกรรมช่วงเย็นของสหภาพคนทำงาน ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป
ออมสิน เตรียมยกเลิกให้บริการ อินเตอร์เน็ต แบงก์กิ้ง เปิด 3 ช่องทางให้บริการ
https://www.matichon.co.th/economy/news_4547440
ออมสิน เตรียมยกเลิกให้บริการ อินเตอร์เน็ต แบงก์กิ้ง เปิด 3 ช่องทางให้บริการ
เมื่อวันที่ 27 เมษายน ธนาคารออมสิน ได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ
GSB Society ยกเลิกการให้บริการอินเตอร์เน็ต แบงก์กิ้ง โดยระบุว่า ขอแจ้งยุติการให้บริการ GSB Internet Banking (สำหรับบุคคลธรรมดา) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567
ทั้งนี้ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางอื่นๆ ของธนาคารได้ตามปกติ
– MyMo
– ตู้ ADM / ATM
– สาขาธนาคารออมสินทั่วประเทศ
ธนาคารขออภัยในความไม่สะดวก และขอขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการของธนาคารด้วยดีเสมอมา
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือ GSB Contact Center 1115
ทั้งนี้ แอดมินของเพจ ได้ย้ำว่า ธนาคารยุติการให้บริการเฉพาะ Internet Banking สำหรับบุคคลธรรมดาที่บริการผ่านทางเว็บไซต์ ทั้งนี้ ช่องทางอื่นๆ เช่น MyMo ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
JJNY : “ศิริกัญญา”เปิด5ข้อสังเกต│“ก้าวไกล”จี้ค่าแรง│ออมสินเตรียมเลิกให้บริการอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง│แทนซาเนียเผชิญน้ำท่วม
https://www.dailynews.co.th/news/3379516/
“ศิริกัญญา”เปิด 5 ข้อสังเกต งบปี 68 ชี้งบกลางเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ พบมีรายการใหม่ ชื่อค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ 152,700 ล้านบาท และยังไร้เจ้าภาพ รับเงินทำดิจิทัล
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่าน ผ่านแอปพลิเคชั่น x ถึงข้อสังเหตุเบื้องต้นในร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีเนื้อหาดังนี้
ข้อสังเกตเบื้องต้นจากรายละเอียดงบปี 68 ที่ผ่านครม.เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (แต่กำลังจะโดนรื้ออีกรอบ)
งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 3.752 ล้านล้านบาท เบ่งขึ้นกว่าปีที่แล้ว 9% เพื่อรองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่รายได้รัฐบาลเพิ่มแค่ 3.6% ส่งผลให้ต้องกู้เพื่อชดเชยขาดดุลเกือบชนเพดานที่ 865,700 ล้านบาท เหลือพื้นที่ให้กู้เพิ่มอีกแค่ 5,000 ล้านบาทหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
1. งบกลางเพิ่มขึ้น 30% พบว่ามีรายการใหม่ชื่อว่า “ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ 152,700 ลบ.” aka โครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั่นเอง น่าแปลกใจที่ทำไมไม่ตั้งไว้ในหน่วยรับงบที่เป็นคนทำโครงการ แสดงว่ายังไม่มีเจ้าภาพชัดเจน ที่น่าดีใจคือยอมตั้งงบบำนาญ และงบรักษาพยาบาลให้สะท้อนค่าใช้จ่ายที่เกิดจริงมากขึ้น
2. งบใช้หนี้เพิ่มขึ้น งบใช้คืนเงินต้น 150,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30,000 ล้านบาท งบชำระดอกเบี้ย 325,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 100,000 ล้านบาทจากปีที่แล้ว เฉพาะงบใช้หนี้สาธารณะก็คิดเป็น 16.5% ของรายได้รัฐบาลแล้ว
3. งบกระทรวงมหาดไทยลดลง 56,000 ล้าน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เพียงแค่เอางบเทศบาลตำบลย้ายจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นไปอยู่หมวดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งทำให้หมวดอปท.เพิ่มขึ้นแทน
4. งบท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเกือบ 10% เป็น 378,170 ล้านบาท แต่สัดส่วนรายได้ท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาล ยังคงอยู่ที่ 29% เหมือนเดิม
5. รายจ่ายลงทุนมีสัดส่วนสูงสุดในรอบหลายปี อยู่ที่ 24% ของงบ จากปกติจะอยู่ราว 20% เท่านั้น กฎหมายกำหนดไว้ว่ารายจ่ายลงทุนต้องไม่น้อยกว่ายอดการกู้เพื่อชดเชยขาดดุลซึ่งอยู่เท่ากับ 23% ปรากฏว่าจากการสอบถามสำนักงบพบว่า นับรวมงบดิจิทัลวอลเล็ตบางส่วนเป็นรายจ่ายลงทุนด้วย จึงทำให้สัดส่วนรายจ่ายลงทุนผ่านตาม
https://twitter.com/SirikanyaTansa1/status/1783485783195914283
“ก้าวไกล” จี้รบ.จะ 1 ปีแล้วค่าแรงยังไม่ปรับขึ้นถ้วนหน้า
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_709288
“ก้าวไกล” จี้รัฐบาลจะ1ปีแล้วค่าแรงยังไม่ปรับขึ้นถ้วนหน้า เป้าหมาย 600 บาท ในปี 2570 จะเป็นไปได้หรือไม่ พร้อมชวนประชาชนออกมารณรงค์ วันแรงงาน พบกัน 8 โมงเช้าหน้าเวทีราชดำเนิน ก่อนเคลื่อนขบวนไปลานคนเมือง
กิจกรรม Sol Bar Talk ครั้งที่ 34 ที่อาคารอนาคตใหม่ สส.พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ, นายสุเทพ อู่อ้น สส.บัญชีรายชื่อ และ นางสาววรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมพูดคุยเรื่องการขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตแรงงานก่อนถึงวันแรงงานแห่งชาติ 1 พ.ค. นี้
โดยช่วงหนึ่งมีการพูดถึงประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ นายเซีย กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเคยหาเสียงจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทต่อวันภายใน 100 วันแรกของการเป็นรัฐบาล ควบคู่ไปกับการปรับเพิ่มสวัสดิการของพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย เช่น เพิ่มเงินอุดหนุนเด็กเล็ก เพิ่มเงินผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของวัยแรงงานลง
อย่างไรก็ตาม ในรัฐบาลปัจจุบัน การปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำยังไม่มีความชัดเจน เมื่อต้นปีปรับขึ้น 2-16 บาท ต่อมาเดือน เม.ย. ปรับให้ใน 10 จังหวัด แต่พอไปดูรายละเอียด บางจังหวัดก็เพิ่มแค่ตำบลเดียว และกำหนดเงื่อนไขด้วยว่าจะเพิ่มให้เฉพาะกิจการโรงแรมที่มีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไปและต้องเป็นโรงแรม 4 ดาว ตนมองว่านี่คือการขึ้นค่าแรงแบบศรีธนญชัย ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ปัจจุบันค่าจ้างขั้นต่ำไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ในขณะที่รัฐบาลบอกว่าอยากกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าถ้าปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแบบถ้วนหน้า พี่น้องแรงงานจะมีเงินไปจับจ่ายใช้สอย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่
ส่วนที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ระบุว่า ในวันแรงงาน กระทรวงแรงงานจะประกาศเจตนารมณ์ของนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวันทุกสาขาอาชีพภายในปี 2567 นั้น นายเซีย กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าจะเป็น ไปตามนี้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้รัฐมนตรีจะโยนบาปให้คณะกรรมการไตรภาคีอีกหรือไม่
ด้านนายสุเทพ กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามนโยบายก้าวไกล เราคิดอย่างเป็นระบบ มีการกำหนดค่าแรงที่คาดการณ์ได้ สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจหรือเงินเฟ้อ ผู้ประกอบการสามารถวางแผนได้ รวมถึงมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เช่น การลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคม
ขณะนางสาววรรณวิภา กล่าวว่า พรรคแกนนำรัฐบาลเคยหาเสียงว่าภายในปี 2570 จะขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทต่อวัน ตอนนี้จะครบหนึ่งปีของรัฐบาลแล้ว ถ้ายังไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ก็มองไม่เห็นทางว่าจะไปปรับตอนไหนให้ได้ 600 บาทตามเป้าหมาย จึงขอให้ประชาชนจับตาว่าวันแรงงานปีนี้ เรื่องค่าแรงจะไปในทิศทางไหน
จากนั้น นายเซีย ทิ้งท้ายว่า ในวันแรงงาน 1 พ.ค.นี้ พรรคก้าวไกลขอเชิญชวนประชาชนออกมาร่วมกิจกรรมเดินขบวนกับ สส. ของพรรค นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อรำลึกถึงคนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิแรงงานมายาวนาน และเพื่อแสดงเจตจำนงว่าเราจะผลักดันวาระที่ทำให้พี่น้องแรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายสิทธิลาคลอด 180 วัน ที่ขณะนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ และร่างกฎหมายสหภาพแรงงาน ส่งเสริมสิทธิของคนทำงานในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง
สำหรับกิจกรรมนี้จะเป็นพื้นที่รณรงค์ทางความคิด ว่าเราอยากเห็นอนาคตของคนทำงานในประเทศไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น ยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยมีผู้สูงอายุมากขึ้น เด็กเกิดใหม่น้อยลง วัยแรงงานจะขาดแคลน คนทำงานยิ่งควรมีกฎหมายและสิทธิสวัสดิการรองรับ ดังนั้น ขอเชิญชวนออกมาพบกันในวันที่ 1 พ.ค. เวลา 8.00 น. หน้าเวทีมวยราชดำเนิน ก่อนเคลื่อนขบวนไปที่ลานคนเมือง ระหว่างการทำกิจกรรมจะมีการรณรงค์แจกแผ่นพับใบปลิว และจะมีกิจกรรมช่วงเย็นของสหภาพคนทำงาน ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป
ออมสิน เตรียมยกเลิกให้บริการ อินเตอร์เน็ต แบงก์กิ้ง เปิด 3 ช่องทางให้บริการ
https://www.matichon.co.th/economy/news_4547440
ออมสิน เตรียมยกเลิกให้บริการ อินเตอร์เน็ต แบงก์กิ้ง เปิด 3 ช่องทางให้บริการ
เมื่อวันที่ 27 เมษายน ธนาคารออมสิน ได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ GSB Society ยกเลิกการให้บริการอินเตอร์เน็ต แบงก์กิ้ง โดยระบุว่า ขอแจ้งยุติการให้บริการ GSB Internet Banking (สำหรับบุคคลธรรมดา) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567
ทั้งนี้ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางอื่นๆ ของธนาคารได้ตามปกติ
– MyMo
– ตู้ ADM / ATM
– สาขาธนาคารออมสินทั่วประเทศ
ธนาคารขออภัยในความไม่สะดวก และขอขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการของธนาคารด้วยดีเสมอมา
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือ GSB Contact Center 1115
ทั้งนี้ แอดมินของเพจ ได้ย้ำว่า ธนาคารยุติการให้บริการเฉพาะ Internet Banking สำหรับบุคคลธรรมดาที่บริการผ่านทางเว็บไซต์ ทั้งนี้ ช่องทางอื่นๆ เช่น MyMo ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ