“ศิริกัญญา” มาแล้ว เย้ย “รัฐบาล”คงต้องเล่นท่ายาก หาเงินแบบไม่กู้มาแจก “ดิจิทัลวอลเล็ต”
https://ch3plus.com/news/political/morning/393485
“ศิริกัญญา” มาแล้ว เย้ย “รัฐบาล”คงต้องเล่นท่ายาก หาเงินแบบไม่กู้มาแจก “ดิจิทัลวอลเล็ต” ร้องเอ๊ะ มันพร้อมจริงหรือ จะเติมเงินภายในปีนี้ ชี้ คกก.เองยังกังวล ถึงใช้คำว่า “คาดว่า” มอง “ผู้ว่าแบงค์ชาติ” คงเลี่ยงไม่พูด เหตุมีความเห็นต่าง ฝากถึง “สรยุทธ-ผู้ชมทางบ้าน” ไม่ได้หายหน้านะคะ แค่ดูงานต่างประเทศ แต่ยังติดตามตลอด ขออย่าตำหนิไม่ทำหน้าที่ บอกรอดูเลยอภิปราย 152
29 มี.ค. 2567 นางสาว
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวการเมือง ช่อง 3 ถึงกรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ตนรู้สึกว่ารัฐบาลน่าจะมีแรงกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้กลับมาสนใจโครงการนี้อีกครั้ง เราเห็นความพยายามในการรายงานความคืบหน้าหลายครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ไม่แน่ใจว่าคืบหน้าจริงๆมากน้อยแค่ไหน แต่ยิ่งออกมาแถลงก็จะยิ่งเห็นความไม่พร้อม หลายเรื่องยังไม่ได้ข้อสรุป เช่น แหล่งที่มาของเงิน ระบบที่จะใช้ รวมถึงกลไกในการป้องกันต่างๆ คำตอบเรื่องคำแนะนำจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ยังไม่ชัดเจน
ตนก็ยังคิดว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นยังคงมีอยู่น้อย ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่ได้ออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้อีกต่อไปแล้ว แต่ความเป็นไปได้ที่จะหางบประมาณจากแหล่งอื่น โดยปราศจากความเสี่ยงก็คงมีน้อยมากเหลือเกิน ตนก็ได้แต่ติดตามว่า วันที่ 10 เม.ย.นี้ จะมีการประกาศว่าแหล่งที่มาของเงิน จะสร้างความประหลาดใจให้กับสาธารณชนได้มากแค่ไหน
“
ดิฉันคิดว่าคงต้องเล่นท่ายากมากค่ะ ถ้าจะสามารถหาเงินจำนวน 5 แสนล้านบาทมาเป็นแหล่งที่มาของเงินดิจิทัลได้ในคราวเดียว โดยที่ไม่ต้องใช้เงินกู้แล้วด้วยนะคะ เราก็คงต้องรอติดตามกันค่ะ” นางสาวศิริกัญญา กล่าว
ส่วนวันที่ 10 เม.ย. ที่รัฐบาลกำหนดชี้แจง คาดหวังอะไรบ้าง นางสาว
ศิริกัญญา กล่าวว่า คงคาดหวังความชัดเจน เพราะการแถลง 2 ครั้งที่ผ่านมา เราพยายามติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่กลับไม่ได้รับความชัดเจน และถูกย้ำว่าให้รอวันที่ 10 เม.ย. เราจึงขอฝากว่าวันนั้นคงจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนถึงวิธีการในการได้มาของแหล่งที่มาของเงิน รวมไปถึงคาดหวังระบบที่นำมาใช้จริง เพราะดูเหมือนจะไม่ได้ใช้แอพเป๋าตังอีกแล้ว เนื่องจากมีการมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศึกษาเรื่องความคุ้มค่าในการทำระบบขึ้นมา
นอกจากนี้ ความเห็นของหน่วยงานต่างๆที่อ้างว่ารวบรวมครบหมดแล้ว ก็ยังไม่เห็นความชัดเจน แสดงว่าอาจจะยังไม่ได้ส่งมาด้วยซ้ำไป
“
เราก็ว่าเอ๊ะ มันจะมีความพร้อมจริงๆเหรอที่จะทำได้ภายในปีนี้จริงๆ ทางคณะทำงานเองก็คงมีความกังวลเช่นเดียวกัน เพราะก็ยังใช้คำว่าคาดว่าจะเกิดขึ้น” นางสาว
ศิริกัญญา กล่าว
นางสาว
ศิริกัญญา ยังกล่าวถึงกรณีท่าทีของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยว่า ตนเข้าใจดีว่าถ้าไม่ได้เห็นด้วยกับโครงการรัฐบาล การตอบอะไรไปก็คงมีแต่คำตอบที่ผิด อาจจะต้องพูดโกหก หรืออาจมีปัญหาที่ต้องมาแสดงความเห็นรัฐบาลอีก ดังนั้น การไม่พูดน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นางสาว
ศิริกัญญา ย้ำว่า ตนมาดูงานต่างประเทศที่ออสเตรเลีย ไม่ใช่ว่ามาดูงานแล้วจะไม่มีท่าทีกับเรื่องนี้ แต่เท่าที่ดูยังไม่มีเนื้อหาอะไรให้รู้สึกมากพอให้ตอบโต้ มีแต่การสั่งงานไปข้างหน้า มีการคาดคะเน แต่ยังไม่มีความชัดเจน จึงรู้สึกว่าไม่ควรค่ากับการออกมาพูดอะไรตอนนี้
นางสาว
ศิริกัญญา ยังฝากถึงนาย
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่เอ่ยถึงในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ว่า “
ก็ฝากว่าไม่ได้หายนะคะ ก็ยังติดตามอยู่ค่ะ เพียงแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปถึงไหนค่ะ เลยไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นค่ะ ไม่ได้หายหน้าหายตา หรือไม่ได้ทำงานค่ะ อีกใจหนึ่งก็อยากรอให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่าเพิ่งตำหนิดิฉันว่าไม่ทำหน้าที่ ขอให้รอช่วงอภิปรายทั่วไปได้ค่ะ”
ก้าวไกล อัดขึ้นค่าแรงเหมือนศรีธนญชัย หวั่นเหลื่อมล้ำ-ทำแรงงานย้ายถิ่น จี้รบ.ทบทวนใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4499004
ก้าวไกล งง ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท 10 จังหวัดท่องเที่ยว ใช้สูตรไหนคํานวณ ชี้ เหมือนศรีธนญชัย แนะ เพิ่มค่าแรง 450 บาททั่วประเทศแทน ด้าน ‘สหัสวัต’ ถาม ขึ้นค่าแรง อํานาจใครกันแน่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มีนาคม ที่รัฐสภา นาย
เซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำ ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงคัดค้านการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 10 จังหวัด ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ สงขลา พังงา ประจวบคีรีขันธ์ และระยอง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.67
นาย
เซียกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน เฉพาะกิจการโรงแรมบางพื้นที่ ซึ่งเป็นการปรับค่าจ้างแบบศรีธนญชัย ขอยืนยันว่าเห็นด้วยกับการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างให้เท่ากันในทุกอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ตนทำงานกับแรงงานมาหลาย 10 ปีเข้าใจหัวอกแรงงาน การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะแค่อาหารหนึ่งมื้อก็ใช้เงินมากกว่า 85 บาท กินครบ 3 มื้อก็มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ ยังไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ภาษีสังคมที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต
การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทแค่บางพื้นที่ เป็นการเพิ่มที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริง โดยอ้างว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมและ 10 พื้นที่เป็นพื้นที่ที่มีรายได้สูง จึงเป็นพื้นที่นำร่อง แล้วกิจการประเภทอื่นไม่สำคัญหรือ ดังนั้นการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ไม่เท่าเทียมกันในแต่ละพื้นที่อาจจะก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นในอนาคต มีส่วนทำให้แรงงานเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ที่มีค่าตอบแทนสูง เป็นผลให้มีแรงงานกระจุกตัวในพื้นที่ไม่กี่แห่ง ไม่มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง
นาย
เซียยังฝากข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล และกระทรวงแรงงาน ให้พิจารณาทบทวนการปรับค่าจ้างใหม่ ดังนี้
1. ปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นธรรมตามหลักสากล โดยให้ครอบคลุมแรงงานทุกภาคส่วน โดยปรับจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไปสู่การปรับเป็นอัตราค่าจ้างเพื่อชีวิต เพื่อให้แรงงานสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
2. ด้วยเป้าหมายค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาททั่วประเทศ ตามที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเคยให้คำมั่นในประกาศหาเสียงเลือกตั้งไว้ ขอเสนอให้คณะกรรมการค่าจ้างฯ ปรับเปลี่ยนสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ เพราะเมื่อนำข้อมูลมาคำนวณตามสูตรที่ใช้กันอยู่ รัฐบาลนี้หากอยู่ครบ 4 ปี อัตราค่าจ้างขั้นต่ำก็ไม่ถึง 600 บาท ในปี 2570 แน่นอน
นาย
เซียกล่าวว่า ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลคือ ค่าจ้างขั้นต่ำ 450 บาท ควบคู่กับการเพิ่มสวัสดิการให้กับประชาชนทุกช่วงวัย ส่วนการปรับค่าจ้างต้องปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มทุกปีในอัตราไม่น้อยกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ประกาศโดยสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรืออัตราเงินเฟ้อตามประกาศของ กระทรวงพาณิชย์ และสุดท้ายเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างเท่าเทียมเป็นธรรมทั่วประเทศ ขอให้พวกท่านพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ให้เป็นธรรมเท่ากันทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานระบุว่า ไม่สามารถขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศได้ เพราะคำนวณจากอัตราการเติบโตรายได้ และ GDP แต่ละจังหวัด นาย
เซีย กล่าวว่ากระทรวงแรงงานมี 100 เหตุผลที่จะให้ข้อมูล แต่อยากให้มองถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงาน ทั้งนี้ สูตรคำนวนค่าแรงของพรรคก้าวไกล ดูจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ เมื่อโตขึ้น แต่อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ก็จะทำให้แรงงานมีปัญหาในการใช้ชีวิต มีหนี้สินเพิ่มทุกปี ส่งผลกระทบโดยรวมต่อประเทศ
นาย
เซียกล่าวว่า พี่น้องแรงงาน ไม่ว่าจะอยู่สัดส่วนใด ทุกคนต้องกินต้องใช้ เรากินข้าววันละ 3 มื้อ จำเป็นต้องซื้อเครื่องนุ่งห่ม จ่ายค่าที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ซึ่งตั้งแต่ตนอยู่ในกระบวนการแรงงานมา ยังไม่เคยเห็นการขึ้นค่าแรง ที่แปลกประหลาดแบบนี้ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า กระทรวงแรงงานทำงานแบบไหน ทำงานแบบศรีธนญชัยหรือไม่
ด้านนาย
สหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำว่าในปัจจุบันว่า เป็นวิธีคิดที่ผิดหลักเศรษฐศาสตร์อย่างรุนแรง ทำให้การคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำมีปัญหา และน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยที่ที่ผ่านมา สำนักงานค่าจ้าง กระทรวงแรงงาน ได้ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาการคำนวณสูตรค่าแรงแบบใหม่ แต่ผลที่ออกมากลับไม่ต่างจากเดิม
“
ขอตั้งคําถามว่า การขึ้นค่าจ้าง 10 จังหวัดที่ผ่านมา ใช้สูตรคำนวณแบบใด เพราะสูตรที่กระทรวงแรงงานใช้อยู่ ไม่สามารถขึ้นได้ถึง 400 บาท ต้องเอาให้ชัดว่า การกำหนดค่าจ้าง อยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หรือคณะกรรมการไตรภาคี” นาย
สหัสวัตกล่าว
เมื่อถามถึงนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570 อาจต้องทำเป็นขั้นบันไดหรือไม่ นาย
เซีย กล่าวว่า ต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าต้องปรับอย่างไร เป็นขั้นบันได แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลจะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน ก่อน รวมถึงปรับเพิ่มสวัสดิการของแรงงานทุกช่วงวัย ซึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเคยถามพรรคเพื่อไทยไปหลายครั้งแล้วว่าขั้นตอนการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน จะมีแนวทางอย่างไร
นาย
เซียกล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการไตรภาคีของกระทรวงแรงงาน ถูกตั้งคำถามว่ามีการเมืองแทรกแซง จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง แรงงานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้รัฐบาลกำลังเล่นละครตบตาผู้ใช้แรงงานหรือไม่ จากการประกาศว่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในช่วงต้นปีที่ผ่านมา 2-16 บาทต่อวัน แต่นายกรัฐมนตรีระบุ 2 บาทซื้อไข่ยังไม่ได้ และขอให้มีการทบทวนค่าแรงขั้นต่ำอีกครั้ง และนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยผลักดันให้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน และไม่เคยพูดถึงอีกเลย ตนเองคิดว่านี่คือแนวนโยบายของรัฐบาลที่เคยสัญญากับผู้ใช้แรงงานไว้ว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น การมีส่วนร่วมของคณะกรรมการไตรภาคี ก็เป็นส่วนสำคัญ แต่หากกระทรวงแรงงานไม่สนองนโยบายของรัฐบาลก็ไม่สามารถผลักดัน และบริหารประเทศให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้
ก้าวไกล โหวตงดออกเสียง ญัตติส่งศาลบรรจุร่างแก้รธน. ชี้ สภาตีความอำนาจตัวเองได้ ไม่ต้องขอใคร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4500066
“ก้าวไกล” งดออกเสียงให้ญัตติส่งศาลวินิจฉัยอำนาจรัฐสภา “ชัยธวัช” ชี้เรามีอำนาจเองไม่จำเป็นต้องถามใคร ซัดศาลรธน.ผูกขาดตีความเพียงผู้เดียว กลายเป็นประเทศปกครองด้วยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่องของเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 31 ให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของ นาย
ชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะเป็นผู้เสนอ
JJNY : 5in1 “ศิริกัญญา”เย้ย“รบ.”│ก้าวไกลอัดขึ้นค่าแรง│ก้าวไกลโหวตงดออกเสียง│แบงก์ชาติ เผยศก.โตต่ำ│รัสเซียวีโต้ต่ออายุ
https://ch3plus.com/news/political/morning/393485
“ศิริกัญญา” มาแล้ว เย้ย “รัฐบาล”คงต้องเล่นท่ายาก หาเงินแบบไม่กู้มาแจก “ดิจิทัลวอลเล็ต” ร้องเอ๊ะ มันพร้อมจริงหรือ จะเติมเงินภายในปีนี้ ชี้ คกก.เองยังกังวล ถึงใช้คำว่า “คาดว่า” มอง “ผู้ว่าแบงค์ชาติ” คงเลี่ยงไม่พูด เหตุมีความเห็นต่าง ฝากถึง “สรยุทธ-ผู้ชมทางบ้าน” ไม่ได้หายหน้านะคะ แค่ดูงานต่างประเทศ แต่ยังติดตามตลอด ขออย่าตำหนิไม่ทำหน้าที่ บอกรอดูเลยอภิปราย 152
29 มี.ค. 2567 นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวการเมือง ช่อง 3 ถึงกรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ตนรู้สึกว่ารัฐบาลน่าจะมีแรงกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้กลับมาสนใจโครงการนี้อีกครั้ง เราเห็นความพยายามในการรายงานความคืบหน้าหลายครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ไม่แน่ใจว่าคืบหน้าจริงๆมากน้อยแค่ไหน แต่ยิ่งออกมาแถลงก็จะยิ่งเห็นความไม่พร้อม หลายเรื่องยังไม่ได้ข้อสรุป เช่น แหล่งที่มาของเงิน ระบบที่จะใช้ รวมถึงกลไกในการป้องกันต่างๆ คำตอบเรื่องคำแนะนำจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ยังไม่ชัดเจน
ตนก็ยังคิดว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นยังคงมีอยู่น้อย ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่ได้ออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้อีกต่อไปแล้ว แต่ความเป็นไปได้ที่จะหางบประมาณจากแหล่งอื่น โดยปราศจากความเสี่ยงก็คงมีน้อยมากเหลือเกิน ตนก็ได้แต่ติดตามว่า วันที่ 10 เม.ย.นี้ จะมีการประกาศว่าแหล่งที่มาของเงิน จะสร้างความประหลาดใจให้กับสาธารณชนได้มากแค่ไหน
“ดิฉันคิดว่าคงต้องเล่นท่ายากมากค่ะ ถ้าจะสามารถหาเงินจำนวน 5 แสนล้านบาทมาเป็นแหล่งที่มาของเงินดิจิทัลได้ในคราวเดียว โดยที่ไม่ต้องใช้เงินกู้แล้วด้วยนะคะ เราก็คงต้องรอติดตามกันค่ะ” นางสาวศิริกัญญา กล่าว
ส่วนวันที่ 10 เม.ย. ที่รัฐบาลกำหนดชี้แจง คาดหวังอะไรบ้าง นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า คงคาดหวังความชัดเจน เพราะการแถลง 2 ครั้งที่ผ่านมา เราพยายามติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่กลับไม่ได้รับความชัดเจน และถูกย้ำว่าให้รอวันที่ 10 เม.ย. เราจึงขอฝากว่าวันนั้นคงจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนถึงวิธีการในการได้มาของแหล่งที่มาของเงิน รวมไปถึงคาดหวังระบบที่นำมาใช้จริง เพราะดูเหมือนจะไม่ได้ใช้แอพเป๋าตังอีกแล้ว เนื่องจากมีการมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศึกษาเรื่องความคุ้มค่าในการทำระบบขึ้นมา
นอกจากนี้ ความเห็นของหน่วยงานต่างๆที่อ้างว่ารวบรวมครบหมดแล้ว ก็ยังไม่เห็นความชัดเจน แสดงว่าอาจจะยังไม่ได้ส่งมาด้วยซ้ำไป
“เราก็ว่าเอ๊ะ มันจะมีความพร้อมจริงๆเหรอที่จะทำได้ภายในปีนี้จริงๆ ทางคณะทำงานเองก็คงมีความกังวลเช่นเดียวกัน เพราะก็ยังใช้คำว่าคาดว่าจะเกิดขึ้น” นางสาวศิริกัญญา กล่าว
นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวถึงกรณีท่าทีของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยว่า ตนเข้าใจดีว่าถ้าไม่ได้เห็นด้วยกับโครงการรัฐบาล การตอบอะไรไปก็คงมีแต่คำตอบที่ผิด อาจจะต้องพูดโกหก หรืออาจมีปัญหาที่ต้องมาแสดงความเห็นรัฐบาลอีก ดังนั้น การไม่พูดน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นางสาวศิริกัญญา ย้ำว่า ตนมาดูงานต่างประเทศที่ออสเตรเลีย ไม่ใช่ว่ามาดูงานแล้วจะไม่มีท่าทีกับเรื่องนี้ แต่เท่าที่ดูยังไม่มีเนื้อหาอะไรให้รู้สึกมากพอให้ตอบโต้ มีแต่การสั่งงานไปข้างหน้า มีการคาดคะเน แต่ยังไม่มีความชัดเจน จึงรู้สึกว่าไม่ควรค่ากับการออกมาพูดอะไรตอนนี้
นางสาวศิริกัญญา ยังฝากถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่เอ่ยถึงในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ว่า “ก็ฝากว่าไม่ได้หายนะคะ ก็ยังติดตามอยู่ค่ะ เพียงแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปถึงไหนค่ะ เลยไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นค่ะ ไม่ได้หายหน้าหายตา หรือไม่ได้ทำงานค่ะ อีกใจหนึ่งก็อยากรอให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่าเพิ่งตำหนิดิฉันว่าไม่ทำหน้าที่ ขอให้รอช่วงอภิปรายทั่วไปได้ค่ะ”
ก้าวไกล อัดขึ้นค่าแรงเหมือนศรีธนญชัย หวั่นเหลื่อมล้ำ-ทำแรงงานย้ายถิ่น จี้รบ.ทบทวนใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4499004
ก้าวไกล งง ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท 10 จังหวัดท่องเที่ยว ใช้สูตรไหนคํานวณ ชี้ เหมือนศรีธนญชัย แนะ เพิ่มค่าแรง 450 บาททั่วประเทศแทน ด้าน ‘สหัสวัต’ ถาม ขึ้นค่าแรง อํานาจใครกันแน่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มีนาคม ที่รัฐสภา นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำ ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงคัดค้านการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 10 จังหวัด ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ สงขลา พังงา ประจวบคีรีขันธ์ และระยอง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.67
นายเซียกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน เฉพาะกิจการโรงแรมบางพื้นที่ ซึ่งเป็นการปรับค่าจ้างแบบศรีธนญชัย ขอยืนยันว่าเห็นด้วยกับการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างให้เท่ากันในทุกอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ตนทำงานกับแรงงานมาหลาย 10 ปีเข้าใจหัวอกแรงงาน การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะแค่อาหารหนึ่งมื้อก็ใช้เงินมากกว่า 85 บาท กินครบ 3 มื้อก็มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ ยังไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ภาษีสังคมที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต
การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทแค่บางพื้นที่ เป็นการเพิ่มที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริง โดยอ้างว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมและ 10 พื้นที่เป็นพื้นที่ที่มีรายได้สูง จึงเป็นพื้นที่นำร่อง แล้วกิจการประเภทอื่นไม่สำคัญหรือ ดังนั้นการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ไม่เท่าเทียมกันในแต่ละพื้นที่อาจจะก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นในอนาคต มีส่วนทำให้แรงงานเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ที่มีค่าตอบแทนสูง เป็นผลให้มีแรงงานกระจุกตัวในพื้นที่ไม่กี่แห่ง ไม่มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง
นายเซียยังฝากข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล และกระทรวงแรงงาน ให้พิจารณาทบทวนการปรับค่าจ้างใหม่ ดังนี้
1. ปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นธรรมตามหลักสากล โดยให้ครอบคลุมแรงงานทุกภาคส่วน โดยปรับจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไปสู่การปรับเป็นอัตราค่าจ้างเพื่อชีวิต เพื่อให้แรงงานสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
2. ด้วยเป้าหมายค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาททั่วประเทศ ตามที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเคยให้คำมั่นในประกาศหาเสียงเลือกตั้งไว้ ขอเสนอให้คณะกรรมการค่าจ้างฯ ปรับเปลี่ยนสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ เพราะเมื่อนำข้อมูลมาคำนวณตามสูตรที่ใช้กันอยู่ รัฐบาลนี้หากอยู่ครบ 4 ปี อัตราค่าจ้างขั้นต่ำก็ไม่ถึง 600 บาท ในปี 2570 แน่นอน
นายเซียกล่าวว่า ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลคือ ค่าจ้างขั้นต่ำ 450 บาท ควบคู่กับการเพิ่มสวัสดิการให้กับประชาชนทุกช่วงวัย ส่วนการปรับค่าจ้างต้องปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มทุกปีในอัตราไม่น้อยกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ประกาศโดยสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรืออัตราเงินเฟ้อตามประกาศของ กระทรวงพาณิชย์ และสุดท้ายเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างเท่าเทียมเป็นธรรมทั่วประเทศ ขอให้พวกท่านพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ให้เป็นธรรมเท่ากันทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานระบุว่า ไม่สามารถขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศได้ เพราะคำนวณจากอัตราการเติบโตรายได้ และ GDP แต่ละจังหวัด นายเซีย กล่าวว่ากระทรวงแรงงานมี 100 เหตุผลที่จะให้ข้อมูล แต่อยากให้มองถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงาน ทั้งนี้ สูตรคำนวนค่าแรงของพรรคก้าวไกล ดูจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ เมื่อโตขึ้น แต่อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ก็จะทำให้แรงงานมีปัญหาในการใช้ชีวิต มีหนี้สินเพิ่มทุกปี ส่งผลกระทบโดยรวมต่อประเทศ
นายเซียกล่าวว่า พี่น้องแรงงาน ไม่ว่าจะอยู่สัดส่วนใด ทุกคนต้องกินต้องใช้ เรากินข้าววันละ 3 มื้อ จำเป็นต้องซื้อเครื่องนุ่งห่ม จ่ายค่าที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ซึ่งตั้งแต่ตนอยู่ในกระบวนการแรงงานมา ยังไม่เคยเห็นการขึ้นค่าแรง ที่แปลกประหลาดแบบนี้ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า กระทรวงแรงงานทำงานแบบไหน ทำงานแบบศรีธนญชัยหรือไม่
ด้านนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำว่าในปัจจุบันว่า เป็นวิธีคิดที่ผิดหลักเศรษฐศาสตร์อย่างรุนแรง ทำให้การคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำมีปัญหา และน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยที่ที่ผ่านมา สำนักงานค่าจ้าง กระทรวงแรงงาน ได้ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาการคำนวณสูตรค่าแรงแบบใหม่ แต่ผลที่ออกมากลับไม่ต่างจากเดิม
“ขอตั้งคําถามว่า การขึ้นค่าจ้าง 10 จังหวัดที่ผ่านมา ใช้สูตรคำนวณแบบใด เพราะสูตรที่กระทรวงแรงงานใช้อยู่ ไม่สามารถขึ้นได้ถึง 400 บาท ต้องเอาให้ชัดว่า การกำหนดค่าจ้าง อยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หรือคณะกรรมการไตรภาคี” นายสหัสวัตกล่าว
เมื่อถามถึงนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570 อาจต้องทำเป็นขั้นบันไดหรือไม่ นายเซีย กล่าวว่า ต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าต้องปรับอย่างไร เป็นขั้นบันได แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลจะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน ก่อน รวมถึงปรับเพิ่มสวัสดิการของแรงงานทุกช่วงวัย ซึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเคยถามพรรคเพื่อไทยไปหลายครั้งแล้วว่าขั้นตอนการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน จะมีแนวทางอย่างไร
นายเซียกล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการไตรภาคีของกระทรวงแรงงาน ถูกตั้งคำถามว่ามีการเมืองแทรกแซง จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง แรงงานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้รัฐบาลกำลังเล่นละครตบตาผู้ใช้แรงงานหรือไม่ จากการประกาศว่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในช่วงต้นปีที่ผ่านมา 2-16 บาทต่อวัน แต่นายกรัฐมนตรีระบุ 2 บาทซื้อไข่ยังไม่ได้ และขอให้มีการทบทวนค่าแรงขั้นต่ำอีกครั้ง และนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยผลักดันให้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน และไม่เคยพูดถึงอีกเลย ตนเองคิดว่านี่คือแนวนโยบายของรัฐบาลที่เคยสัญญากับผู้ใช้แรงงานไว้ว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น การมีส่วนร่วมของคณะกรรมการไตรภาคี ก็เป็นส่วนสำคัญ แต่หากกระทรวงแรงงานไม่สนองนโยบายของรัฐบาลก็ไม่สามารถผลักดัน และบริหารประเทศให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้
ก้าวไกล โหวตงดออกเสียง ญัตติส่งศาลบรรจุร่างแก้รธน. ชี้ สภาตีความอำนาจตัวเองได้ ไม่ต้องขอใคร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4500066
“ก้าวไกล” งดออกเสียงให้ญัตติส่งศาลวินิจฉัยอำนาจรัฐสภา “ชัยธวัช” ชี้เรามีอำนาจเองไม่จำเป็นต้องถามใคร ซัดศาลรธน.ผูกขาดตีความเพียงผู้เดียว กลายเป็นประเทศปกครองด้วยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่องของเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 31 ให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะเป็นผู้เสนอ