== April Come She Will (2024) เมษายน.. แล้วใครบางคนก็จากไป... ==



ฟูจิชิโร่ จิตแพทย์หนุ่มที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาวยาโยอิ สัตว์แพทย์ประจำสวนสัตว์ประจำเมือง
ชีวิตรักของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร.. กระทั่งใกล้วันแต่งงาน ปรากฏว่ายาโยอิ กลับหายตัวไป
ท่ามกลางความสับสนและไม่เข้าใจของชายหนุ่มว่ามันเกิดอะไรขึ้น.. และในห้วงเวลาเดียวกันนั้น 
อดีตรักที่ผ่านพ้นไปของฟูจิชิโร่ในหวนเข้ามาสู่ห้วงคำนึงของชายหนุ่มอีกครั้ง...



ว่าจะไม่เขียนถึงเรื่องนี้ล่ะ แต่เห็นว่าปิดท้ายเมษายนทั้งที ก็ให้เป็นเรื่องความรักทั้งเดือนเลยล่ะกัน
กับภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า April, Come She Will หรือในชื่อภาษาไทยว่า เมษายน พาใครบางคนกลับมา 
ซึ่งสร้างจากหนังสือในชื่อเดียวกันผลงานของคาวามูระ เก็งกิ เจ้าของเดียวกับ ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว 
และในบทบาทผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันระดับปรากฏการณ์อย่าง Your Name



เป็นหนังกระแสดีที่ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีโรงฉายในบ้านเรามากนัก แต่ผลตอบรับดีมีโรงฉายมากขึ้น 
น่าจะถูกใจคอหนังรักญี่ปุ่นที่ต้องการชมงานภาพสวยๆ เพลงเพราะๆ ซึ่งก็เพราะจริงๆน่ะครับ 
เพลงจบอย่าง Michi Teyu Ku ของฟูจิอิ คาเซะ ดีงามยิ่งนัก ทุกคนในโรงนั่งฟังไม่มีใครลุกไปไหน 
เจ้าตัวเคยจัดคอนฯในบ้านเราเมื่อกลางปีที่แล้ว และจากผลตอบรับที่ดีอย่างยิ่ง ผมเชื่อว่าเจ้าตัวจะกลับมาไทยอีกแน่นอน



งานภาพสวยอย่างยิ่ง แสงฟุ้งๆอบอุ่นสไตล์หนังรักญี่ปุ่นที่พาใจเราล่องลอยเคลิ้มไปกับหนังได้ไม่ยาก 
มิหนำซ้ำยังไม่พอ ในเรื่องยังหาโลเคชั่นที่ทำให้ต้องมาหารายละเอียดใน google ต่อ
กับ  Salar de Uyuni บ่อเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลกทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโบลิเวีย 
และอีกที่ก็คือ Reynisfjara Black Sand Beach หรือ หาดทรายดำแห่งไอซ์แลนด์ 
ที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นหาดทรายสีดำที่สวยที่สุดในโลก อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ทางใต้ของไอซ์แลนด์ 
ผมเชื่อว่าต้องมีหลายท่านอยากไปชมของจริงอย่างแน่นอนภายหลังได้ชมหนังเรื่องนี้ ผมเองก็อยากไปแต่เงินในกระเป๋านี่สิ 55



ว่าเรื่องอื่นซะยาว มาถึงจุดสำคัญที่ต้องพูดถึงกันล่ะครับนั่นก็คือประเด็นของหนัง ที่ผมอยากวิพากษ์...
ผมขอแยกความสัมพันธ์แบ่งเป็น 3 คนชัดเจน ในภาพยนตร์ก็แบ่งพาร์ทตามนี้เช่นกัน 
เรื่องราวเริ่มต้นในวัยสมัยเรียนมัธยมปลายของฟูจิชิโร่ ที่พบกับฮารุ สาวน้อยน่ารักในงานของโรงเรียน 
ทั้ง 2 มีจุดร่วมที่เหมือนกัน ความชอบนั้นคือการถ่ายรูป ด้วยความใกล้ชิด ความผูกพัน ความรักจึงเกิดขึ้นไม่ยาก..
แต่ด้วยอุปสรรคบางอย่างทำให้รักนั้นไปต่อไม่ได้...



วันเวลาผ่านไป ทั้งหมดเติบโตขึ้น ฟูจิชิโร่ ไม่ได้คบหาใครอีกเป็นเวลาหลายปี 
ระหว่างนั้นฮารุยังส่งจดหมายมาหาชายหนุ่มเป็นครั้งคราวเวลาที่ตัวเองเดินทางไปที่ไหนก็จะถ่ายรูปมาฝาก..
จนกระทั่งฟูจิชิโร่ เจอกับยาโยอิ สัตว์แพทย์สาวที่โรงพยาบาล
บางสิ่งในที่ขาดหายไปของชายหนุ่มเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อเขาพบกับหญิงสาวคนนี้...



April, Come She Will เป็น 1 ในหนังที่ทุกคนคาดการณ์ไว้แล้วว่านี่คือหนังเรียกน้ำตา ..ตับพัง กันแน่นอน 
และมันก็เป็นเช่นนั้นสำหรับหลายๆท่าน แต่กับตัวผมแล้ว.. ผมไม่รู้สึกเช่นนั้นเพราะผมยังไม่เข้าใจกับความคิด
ที่ส่งผลไปถึงการกระทำของตัวละครแต่ละตัวได้มากพอ.. ว่าง่ายๆ ผมไม่อิน ขอแยกวิเคราะห์ 3 ตัวละครเอกทีละคนเลยนะครับ



ฮารุ รับบทโดย นานะ โมริ สาวน้อยน่ารักดังทั้งจากหนังและซีรี่ย์ ผลงานเด่นสุดในช่วงหลังก็จากซีรี่ย์ The Makanai: Cooking for the Maiko House แฟนเก่าของพระเอก ซึ่งต้องเสียความรักไปด้วยความเยาว์วัยในตอนนั้น (ม.ปลาย)
ทำให้ความกล้าที่จะฟันฝ่าเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการจึงยังมีไม่มากพอ และด้วยความรู้สึกผิด จมกับความรู้สึกดังกล่าว
แม้เวลาผ่านไปแค่ไหน เธอก็ยังลืมไม่ได้ .. เลยทำทุกอย่างที่เคยสัญญากันไว้กับอดีตคนรัก แม้ว่าจะเหลือแต่ตัวคนเดียวแล้วก็ตาม...



ยาโยอิ (รับบทโดย มาซามิ นากาซาวะ ซุเปอร์สตาร์ฝ่ายหญิงของญี่ปุ่นโดยแท้ คนบ้าอะไรยิ้มทีโลกสว่างกระจ่างไป 3 พิภพ) 
คนรักใหม่ของฟูจิชิโร่ สัมผัสได้เลยว่าเธอคนนี้มีปมในชีวิตน่าจะเยอะ คือผมไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนนะ
เลยไม่รู้ว่ามีปูพื้นชีวิตในอดีตของยาโยอิมากน้อยแค่ไหน แต่เหมือนกับว่าเธอโตมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับความรักมากพอ..
ดังนั้นพอมีความสุขใดเข้ามา เธอเลยกลัวว่าสิ่งนั้นจะผ่านไป ...
(ยกตัวอย่างเหมือนคนรักแมว อยากเลี้ยงแมว แต่กลัวแมวตาย เลยไม่เลี้ยงดีกว่า)
ซี่งมันก็จริง แต่แค่การยอมรับกับความสุขนั้นไว้ เหมือนเธอยังรับมือกับการรักษาซึ่งความสุขนั้นไม่เป็น



และตัวละครที่เป็นศูนย์กลางทั้งหมด ฟูจิชิโร่
นำแสดงโดยทาเครุ ซาโตะ เป็นที่รู้จักจากการนำแสดงบท โนงามิ เรียวทาโร่ ใน มาสค์ไรเดอร์เดนโอ
และบท ฮิมุระ เคนชิน ในภาพยนตร์ฉบับคนแสดง เคนชิน ซามูไร พันธ์เอ็กซ์ เอ๊ย!!
ฟูจิชิโร่นี่ล่ะที่ผมดูแล้วรู้สึกขัดใจอย่างมาก ดูในแบบผู้ชายมองผู้ชายด้วยกันเองแล้วแบบ
เห้ย.. ไอ้หมอนี่มันเหมือนรักแต่ตัวเอง แน่นอนว่าเปิดใจให้ใครสักคนเข้ามาในชีวิตแล้ว แต่พออีกฝ่ายเลือกที่จะเฟดจากตัวคุณออกไป…
ปรากฏว่าปฏิกิริยาของคุณดูเฉยชามาก ไม่ใช่ว่าต้องเอาเป็นเอาตายอะไร มีงานการทำต้องรับผิดชอบก็เข้าใจ
แต่จากพฤติกรรมต่างๆมันเหมือนกับจะบอกเป็นนัยๆว่า .. โอเค แล้วแต่คุณนะ คุณเลือกของคุณ ผมยอมรับได้...
สำหรับคนที่รักกันถึงขั้นจะใช้ชีวิตที่เหลือนับจากนี้ แต่เลือกที่จะ.. แค่นี้เองเหรอเนี่ย ว่าง่ายๆ ลักษณะแบบนี่มันรักตัวเองมากกว่า…



ไคลแมกซ์ของเรื่อง การตัดสินใจของยาโยอิ ผมว่ายังไม่สมเหตุสมผลมากพอ...
จุดพีคที่เกิดขึ้น ผมยังรู้สึกว่าเพราะตัวเองยังไม่อิน เลยเฉยๆ เพราะผมยังรู้สึกไม่เชื่อในสิ่งที่หนังนำเสนอมากกว่า...
สุดท้ายพระเอกก็เหมือนแค่คนเหงาคนนึงที่ถูกกระตุ้นในตอนท้ายให้ขวนขวายมากกว่านี้ 
คนใหม่แค่เป็นจิ๊กซอว์ที่มาเติมเต็มความเหงานั้น  ลึกๆในใจผมเลยรู้สึกว่าฟูจิชิโร่รักยาโยอิไม่มากพอ.... (พระเอกแค่เหงา)
ขณะที่ยาโยอิเองก็อ่อนแอต่อความรักและความสุขมากจนเกินไป จนเรียกว่าบอบบางมากก็ว่าได้



มีแค่ ฮารุ คนรักเก่าของพระเอกเท่านั้นที่ทำให้ผมเชื่อในสิ่งที่เธอเป็นและทำ นั่นคือ ทั้งชีวิตของเธอ เธอไม่เคยลืม… 
สิ่งที่ทำเธอมาตลอดหลังจากนั้นมันคือการไถ่โทษให้กับตัวเองจากความไม่กล้า 
ที่ทำให้ชีวิตของเธอไม่เป็นอย่างที่ใจหวังไว้...ก่อนนำไปสู่บทสรุปในท้ายเรื่อง



ด้วยเหตุและผลต่างๆที่ว่ามา (ความรู้สึกส่วนตัวของผมล้วนๆ) มันเลยทำให้ดูเหมือนกับว่าบทภาพยนตร์ได้ยังไม่ละเอียดมากพอ 
ผมไม่รู้สึกถึงความรักที่ตัวละครมีให้กันได้ในคู่ของฟูจิชิโร่กับยาโยอิ.. ในเมื่อผมไม่รู้สึก มันก็เลยไม่เชื่อในสิ่งที่หนังนำเสนอ... 
สุดท้ายมันก็กลายเป็นหนังรักที่พยายามให้เป็นสูตรสำเร็จความเศร้า ที่ผ่านมาและก็ผ่านไป.. ไม่มีอะไรให้จดจำ...

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร 
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่