คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 รับผิดชอบจัดทำ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540
กระดุมเม็ดที่ 1 คิดกระบวนทัศน์ใหม่ ในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 จัดทำโดยคน ให้คน เพื่อคน แผนพัฒนาฯ 8 มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020 และมีเศรษฐกิจใหญ่ เป็นอันดับ 8 ของโลก โดยระดมทรัพยากรทั้งประเทศ เพื่อให้การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 สำเร็จเป็นรูปธรรม
กระดุมเม็ดที่ 2 ความสำเร็จของการอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 อย่างเป็นรูปธรรม จัดบริการการศึกษาให้คนไทยอายุ 3 -17 ปี ทุกคนทั่วถึง พร้อมอาหาร มีสารอาหารครบหมู่ อุปกรณ์การเรียนการสอนครบครัน ในสถานศึกษาที่เป็นปัจจุบัน ทั่วประเทศไทย
ความสำเร็จของการจัดทำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 เพราะ บุคลากรทางการศึกษา พ่อค้า ประชาชน และนักการเมือง ได้ช่วยกัน จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 มีการแปลงแผนอย่างเป็นรูปธรรม ปฏิรูปการทำงาน โดยเอาผลงานเป็นตัวตั้ง และ จัดงบประมาณตามงาน ไม่ใช่ตามหน่วยราชการ ตามเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ดังนี้
เป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่8 ตามวิสัยทัศน์ของคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลนายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา เนื่องจากมีปัญหาในระดับปฏิบัติการในท้องถิ่น การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 จึงไม่สามารถสำเร็จเป็นรูปธรรม ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7
หลังจากการเลือกตั้งปี 2539 คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพิ่มอีกตำแหน่งหนึ่ง เมื่อรวมกับขอบเขตอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาแล้ว จึงสามารถทำให้ สัมฤทธิ์ผล ทั้งการอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540
ประเทศไทยจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี2020 หรือ 25 ปีจากปี 1995 (2538-2563=25 ปี)
1)เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกทั้งในแง่บวกและลบ การพัฒนาประเทศในยุคโลกาภิวัฒน์
จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการเตรียมการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจและสังคมไทยใหม่ให้เข้มแข็งพร้อมรับสถานการณ์ในอนาคต
จึงจะสามารถช่วงชิงโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงในประชาคมโลกมาใช้เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาประเทศไทยให้สอดคล้องกับพื้นฐานของวัฒนธรรมไทยและตรงกับความต้องการของคนไทย
2)ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่ความเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2020 (พ.ศ. 2563) โดยเศรษฐกิจไทยจะมีขนาดเป็นลำดับ 8 ของโลก
คนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวไม่ต่ำกว่า 300,000 บาทต่อปี หรือ ประมาณ 12,000เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งวัด ณ ระดับราคาปี 2536
สัดส่วนคนยากจนจะลดลงต่ำกว่าร้อยละ 5 ควบคู่กันไปกับการมีคุณภาพชีวิตดีของประชาชนส่วนใหญ่ ดังรายละเอียดซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันกำหนดขึ้นเป็นวิสัยทัศน์สังคมไทยพึงประสงค์ในอีก 25 ปีข้างหน้า ดังนี้
1)ในปี2020 สังคมไทยจะเป็นสังคมซึ่งมีความเป็นปึกแผ่น มีความภูมิใจในความเป็นไทยและดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ มีความมั่นคง สงบสุข สันติกับนานาชาติ
2)ประเทศไทยได้รับการยกย่องเป็นประเทศระดับแนวหน้าในประชาคมโลก เป็นสังคมที่คนมีความสุข อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง
สังคมมีสมรรถภาพ มีเสถียรภาพ มีความเสมอภาค มีความยุติธรรม มีระเบียบวินัย มีความเมตตากรุณา เคารพในสิทธิมนุษยชน มีหลักธรรมของศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการดำรงชีวิตของคนไทย
3)ประชาชนทุกคนมีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตนเองมากขึ้น ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และมีส่วนร่วมอย่างเต็มภาคภูมิในกระบวนการพัฒนาประเทศ
4)เด็กไทยทุกคนจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้านสุขภาพตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ได้รับสารอาหารครบถ้วนตั้งแต่ปฐมวัย รวมทั้งได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 12 ปี และทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการพื้นฐานทางสังคมที่มีคุณภาพ
5)คนไทยมีขีดความสามารถพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับที่สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้
6)คนไทยวัยหนุ่มสาวได้รับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของคนในกลุ่มอายุ 18 - 24 ปี
7)กลุ่มคนผู้ขาดโอกาสในสังคมได้รับบริการทางการศึกษาและการมีงานทำอย่างทั่วถึงถ้วนหน้า
8)คนไทยจะมีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ รู้จักตัวเอง รู้เท่าทันโลก และมีศักยภาพที่จะปรับตัวเองอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่าตลอดทุกช่วงวัยของชีวิต
9)เศรษฐกิจตั้งอยู่บนรากฐานของความสร้างสรรค์ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญในภูมิภาค ทั้งในด้านการผลิต การคมนาคม การเงิน การท่องเที่ยว และบริการ มีระบบการค้าขายแบบเสรีที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
10)ทันโลกทางด้านเทคโนโลยี และนำโลกในมิติที่ประเทศไทยมีความเป็นเลิศ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยมีความสมดุลกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นฐานการจ้างงานและสร้างโอกาสในการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรมทั่วหน้าทุกกลุ่มประชาชนทุกพื้นที่
11) ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาคและชนบทไม่แตกต่างจากคนในเมืองหลวง คือได้รับบริการโครงสร้างพื้นฐานและบริการพื้นฐานทางสังคมซึ่งจำเป็นอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง มีหลักประกันด้านสุขภาพอนามัย สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกด้วยเครือข่ายระบบโทรคมนาคมและขนส่งซึ่งครอบคลุมทุกพื้นที่ อย่างเท่าเทียมทั่วถึง ทั่วประเทศไทย
12)มีโอกาสและทางเลือกในการประกอบอาชีพได้อย่างเสรี และใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
13)ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับการดูแลรักษา บริหารจัดการอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพของคนในปี2538 เพื่อเป็นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่คนรุ่นหลัง(2563/2020)
14)คนไทยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีเมืองและชุมชนน่าอยู่อาศัย มีความปลอดภัย และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ
15)มีระบบการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ โดยมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
16)มีภาคราชการที่มีประสิทธิภาพ มีนักการเมืองและข้าราชการที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรู้ความสามารถสูง ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เป็นหลัก เป็นที่พึ่ง และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ทั้งหมดนี้คือ ความปรารถนา ของคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล สำหรับประเทศไทย และได้ให้บันทึกไว้ในหน้าขอไข่ ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 คือจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพลังทางสังคมให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างใหญ่ และนำไปสู่การสร้างแนวคิดพื้นฐานในการจัดทำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 ระหว่าง26 ธันวาคม2539 - 11 ตุลาคม2540
ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 ถึงปี 2567 เกือบ 100 ปี
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรก และฉบับเดียว ซึ่งจัดทำร่วมกันทั้ง บุคลากรทางการศึกษา พ่อค้า ประชาชน และ นักการเมืองทุกประเภท ทั่วประเทศไทย
ภายใต้การนำของคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยสันติวิธี
คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล
กระดุมเม็ดที่ 1 คิดกระบวนทัศน์ใหม่ ในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 จัดทำโดยคน ให้คน เพื่อคน แผนพัฒนาฯ 8 มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020 และมีเศรษฐกิจใหญ่ เป็นอันดับ 8 ของโลก โดยระดมทรัพยากรทั้งประเทศ เพื่อให้การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 สำเร็จเป็นรูปธรรม
กระดุมเม็ดที่ 2 ความสำเร็จของการอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 อย่างเป็นรูปธรรม จัดบริการการศึกษาให้คนไทยอายุ 3 -17 ปี ทุกคนทั่วถึง พร้อมอาหาร มีสารอาหารครบหมู่ อุปกรณ์การเรียนการสอนครบครัน ในสถานศึกษาที่เป็นปัจจุบัน ทั่วประเทศไทย
ความสำเร็จของการจัดทำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 เพราะ บุคลากรทางการศึกษา พ่อค้า ประชาชน และนักการเมือง ได้ช่วยกัน จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 มีการแปลงแผนอย่างเป็นรูปธรรม ปฏิรูปการทำงาน โดยเอาผลงานเป็นตัวตั้ง และ จัดงบประมาณตามงาน ไม่ใช่ตามหน่วยราชการ ตามเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ดังนี้
เป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่8 ตามวิสัยทัศน์ของคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลนายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา เนื่องจากมีปัญหาในระดับปฏิบัติการในท้องถิ่น การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 จึงไม่สามารถสำเร็จเป็นรูปธรรม ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7
หลังจากการเลือกตั้งปี 2539 คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพิ่มอีกตำแหน่งหนึ่ง เมื่อรวมกับขอบเขตอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาแล้ว จึงสามารถทำให้ สัมฤทธิ์ผล ทั้งการอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540
ประเทศไทยจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี2020 หรือ 25 ปีจากปี 1995 (2538-2563=25 ปี)
1)เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกทั้งในแง่บวกและลบ การพัฒนาประเทศในยุคโลกาภิวัฒน์
จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการเตรียมการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจและสังคมไทยใหม่ให้เข้มแข็งพร้อมรับสถานการณ์ในอนาคต
จึงจะสามารถช่วงชิงโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงในประชาคมโลกมาใช้เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาประเทศไทยให้สอดคล้องกับพื้นฐานของวัฒนธรรมไทยและตรงกับความต้องการของคนไทย
2)ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่ความเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2020 (พ.ศ. 2563) โดยเศรษฐกิจไทยจะมีขนาดเป็นลำดับ 8 ของโลก
คนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวไม่ต่ำกว่า 300,000 บาทต่อปี หรือ ประมาณ 12,000เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งวัด ณ ระดับราคาปี 2536
สัดส่วนคนยากจนจะลดลงต่ำกว่าร้อยละ 5 ควบคู่กันไปกับการมีคุณภาพชีวิตดีของประชาชนส่วนใหญ่ ดังรายละเอียดซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันกำหนดขึ้นเป็นวิสัยทัศน์สังคมไทยพึงประสงค์ในอีก 25 ปีข้างหน้า ดังนี้
1)ในปี2020 สังคมไทยจะเป็นสังคมซึ่งมีความเป็นปึกแผ่น มีความภูมิใจในความเป็นไทยและดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ มีความมั่นคง สงบสุข สันติกับนานาชาติ
2)ประเทศไทยได้รับการยกย่องเป็นประเทศระดับแนวหน้าในประชาคมโลก เป็นสังคมที่คนมีความสุข อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง
สังคมมีสมรรถภาพ มีเสถียรภาพ มีความเสมอภาค มีความยุติธรรม มีระเบียบวินัย มีความเมตตากรุณา เคารพในสิทธิมนุษยชน มีหลักธรรมของศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการดำรงชีวิตของคนไทย
3)ประชาชนทุกคนมีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตนเองมากขึ้น ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และมีส่วนร่วมอย่างเต็มภาคภูมิในกระบวนการพัฒนาประเทศ
4)เด็กไทยทุกคนจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้านสุขภาพตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ได้รับสารอาหารครบถ้วนตั้งแต่ปฐมวัย รวมทั้งได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 12 ปี และทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการพื้นฐานทางสังคมที่มีคุณภาพ
5)คนไทยมีขีดความสามารถพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับที่สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้
6)คนไทยวัยหนุ่มสาวได้รับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของคนในกลุ่มอายุ 18 - 24 ปี
7)กลุ่มคนผู้ขาดโอกาสในสังคมได้รับบริการทางการศึกษาและการมีงานทำอย่างทั่วถึงถ้วนหน้า
8)คนไทยจะมีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ รู้จักตัวเอง รู้เท่าทันโลก และมีศักยภาพที่จะปรับตัวเองอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่าตลอดทุกช่วงวัยของชีวิต
9)เศรษฐกิจตั้งอยู่บนรากฐานของความสร้างสรรค์ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญในภูมิภาค ทั้งในด้านการผลิต การคมนาคม การเงิน การท่องเที่ยว และบริการ มีระบบการค้าขายแบบเสรีที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
10)ทันโลกทางด้านเทคโนโลยี และนำโลกในมิติที่ประเทศไทยมีความเป็นเลิศ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยมีความสมดุลกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นฐานการจ้างงานและสร้างโอกาสในการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรมทั่วหน้าทุกกลุ่มประชาชนทุกพื้นที่
11) ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาคและชนบทไม่แตกต่างจากคนในเมืองหลวง คือได้รับบริการโครงสร้างพื้นฐานและบริการพื้นฐานทางสังคมซึ่งจำเป็นอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง มีหลักประกันด้านสุขภาพอนามัย สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกด้วยเครือข่ายระบบโทรคมนาคมและขนส่งซึ่งครอบคลุมทุกพื้นที่ อย่างเท่าเทียมทั่วถึง ทั่วประเทศไทย
12)มีโอกาสและทางเลือกในการประกอบอาชีพได้อย่างเสรี และใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
13)ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับการดูแลรักษา บริหารจัดการอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพของคนในปี2538 เพื่อเป็นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่คนรุ่นหลัง(2563/2020)
14)คนไทยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีเมืองและชุมชนน่าอยู่อาศัย มีความปลอดภัย และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ
15)มีระบบการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ โดยมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
16)มีภาคราชการที่มีประสิทธิภาพ มีนักการเมืองและข้าราชการที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรู้ความสามารถสูง ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เป็นหลัก เป็นที่พึ่ง และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ทั้งหมดนี้คือ ความปรารถนา ของคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล สำหรับประเทศไทย และได้ให้บันทึกไว้ในหน้าขอไข่ ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 คือจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพลังทางสังคมให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างใหญ่ และนำไปสู่การสร้างแนวคิดพื้นฐานในการจัดทำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 ระหว่าง26 ธันวาคม2539 - 11 ตุลาคม2540
ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 ถึงปี 2567 เกือบ 100 ปี
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรก และฉบับเดียว ซึ่งจัดทำร่วมกันทั้ง บุคลากรทางการศึกษา พ่อค้า ประชาชน และ นักการเมืองทุกประเภท ทั่วประเทศไทย
ภายใต้การนำของคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยสันติวิธี