JJNY : พ่อค้าขายข้าวแกงโคราชโอด│‘หมอธีระ’ ชี้ป่วย ‘โควิด’ พุ่ง│กมธ.ทหารจ่อเชิญแจง สู้รบเมียนมา│ชูร่างกม.จัดระเบียบกลาโหม

พิษผักแพง พ่อค้าขายข้าวแกงโคราชโอด ผักราคาพุ่งหลายเท่า หวั่นลูกค้าหนี ยอมขายเท่าเดิม ยอดกำไรหด.
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8196338
 
 
นครราชสีมา พ่อค้าร้านขายข้าวแกงโอด ผักวัตถุดิบหลักราคาพุ่งหลายเท่า หวั่นลูกค้าหนี ยอมขายเท่าเดิม ยอดกำไรหด ย้ำน้ำมันขึ้นอีก เศรษฐกิจพังยับแน่
 
22 เม.ย. 67 – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านขายอาหารต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา พบว่าทุกร้านยังคงขายในราคาเดิม ไม่ได้มีการปรับราคาตามวัตถุดิบแต่อย่างใด แม้ว่าช่วงนี้ราคาวัตถุดิบจะพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง
 
โดยเฉพาะราคาไข่ไก่ และผักหลายชนิด ซึ่งได้รับผลกระทบจากอากาศที่ร้อน ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ราคาพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว โดยผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามนายสำรวย แซ่หั่น เจ้าของร้านข้าวแกงครัวนกน้อย ถนนบัวรอง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับการเปิดเผยว่า ช่วงนี้ราคาผักหลายชนิดมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว
 
อาทิ ผักชี จากกิโลกรัมละ 70 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท, ถั่วฝักยาว จากกิโลกรัมละ 35 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท และแตงกวา จากกิโลกรัมละ 20 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 40 บาท เป็นต้น
 
ซึ่งผักเหล่านี้ถือว่าเป็นวัตถุดิบหลักของทางร้าน ที่จะนำมาทำเมนูอาหารให้กับลูกค้า โดยแต่ละวันทางร้านจะทำอาหารไม่ต่ำกว่า 40 เมนู แต่ข้าวราดแกงยังคงขายในราคาเดิม คือ 35-40 บาท ไม่กล้าที่จะขึ้นราคา เพราะกลัวลูกค้าจะหายหมด ขนาดไม่ขึ้นราคาลูกค้าก็ยังลดลงต่อเนื่อง เพราะหลายคนเขาก็เดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้องรัดเข็มขัดกันทั่วหน้า
 
ส่วนลูกค้าที่เคยมาซื้อทีละหลายถุง ก็ลดปริมาณการซื้อลงครึ่งหนึ่ง จากเคยซื้อครั้งละ 6-7 ถุง ก็เหลือครั้งละ 3-4 ถุงเท่านั้น ตอนนี้ต้องแบกรับภาระไปก่อน เพราะรัฐบาลก็ช่วยอะไรไม่ได้ ขออย่างเดียวอย่ารีบขึ้นราคาน้ำมัน เพราะถ้าน้ำมันปรับขึ้นราคาอีก เศรษฐกิจจะแย่ไปกันใหญ่



‘หมอธีระ’ ชี้ป่วย ‘โควิด’ พุ่ง นอน รพ. นับพัน ตาย 3 คาดติดเชื้อใหม่แตะหมื่นต่อวัน.
https://www.dailynews.co.th/news/3364248/

"หมอธีระ" เผยตัวเลขผู้ป่วย "โควิด" พุ่งแรง สัปดาห์ล่าสุด นอนโรงพยาบาล 1,004 ราย เสียชีวิต 3 ราย ปอดอักเสบ 292 ราย คาดติดเชื้อใหม่ต่อวันหลักหมื่น

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thira Woratanarat ระบุว่า 

วิเคราะห์การระบาดของไทย…

สัปดาห์ล่าสุด 14-20 เมษายน 2024
 
จำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,004 ราย เสียชีวิต 3 ราย ปอดอักเสบ 292 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 101 ราย
พบว่าผู้ป่วยต้องนอนรักษาตัวใน รพ. พุ่งขึ้น 18.26% ขึ้นต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน
จำนวนปอดอักเสบ เพิ่มขึ้น 20.66% และใส่ท่อช่วยหายใจก็เพิ่มขึ้น 17.44%

….คาดประมาณจำนวนคนติดเชื้อใหม่ต่อวันอย่างน้อย 7,172-9,961 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนติดเชื้อจริงน่าจะมากกว่านี้
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปีนี้ และปีก่อน จะพบว่าการติดเชื้อ การป่วย ป่วยรุนแรง เพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกัน แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ baseline ตั้งต้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีแตกต่างกัน โดยจำนวนผู้ป่วยช่วงก่อนสงกรานต์ของปีนี้สูงกว่าปีก่อนหลายเท่า

ทั้งนี้ การระบาดปีก่อนส่งผลให้ติด ป่วย ตายมากขึ้น ต่อเนื่องไปถึงต้นมิถุนายน

ในปีนี้ จึงน่าเป็นห่วงมาก การป้องกันตัวระหว่างใช้ชีวิตประจำวันมีความสำคัญ
 
ยืนยันว่า ด้วยความรู้ทางการแพทย์ โควิด-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา ติดแต่ละครั้ง นอกจากเสี่ยงป่วย ป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิตแล้ว ยังเสี่ยงต่อ Long COVID ที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตระยะยาวอีกด้วย
 
ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าตามแก้ไขครับ

https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02isXAdNPyQGwwZNJTKm3tCoCXvSmBFp6V1YukAHjgMvUBqgYpzRoCizdS1tto5roTl
 


กมธ.ทหาร จ่อเชิญหน่วยงาน แจงสถานการณ์สู้รบเมียนมา ประเมินจุดแตกหัก ป้องผลกระทบปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4536764
 
กมธ.ทหาร จ่อเชิญหน่วยงาน แจงสถานการณ์สู้รบเมียนมา ประเมินจุดแตกหัก ป้องผลกระทบปชช.
 
เมื่อเวลา 09.50 น.วันที่ 22 เมษายน ที่รัฐสภา นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้านกะเหรี่ยงเคเอ็นยู และกองกำลังปกป้องประชาชน ว่า ส่วนตัวเชื่อว้าสถานการณ์สู้รบจะรุนแรงมากขึ้น เพราะรายละเอียดนั้นเป็นจุดแตกหัก แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่กมธ.ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าว และเตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเข้ามาชี้แจงสถานการณ์ขั้นตอนการปฎิบัติงาน รวมถึงการช่วยเหลือคนไทยที่พักอาศัยใกล้กับพื้นที่สู้รบในที่ประชุม กมธ.ฯ เป็นระยะ
 
กมธ.การทหารให้ความสำคัญในเรื่องการช่วยเหลือ ปกป้องคนไทยที่อาศัยในพื้นที่ที่มีการสู้รบ และที่พักอาศัยบริเวณชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเศษชิ้นส่วนอาวุธ กระสุน และสะเก็ดระเบิดลูกหลง ที่กองทัพจะต้องมีความพร้อมเฝ้าระวังรับมือ และประกาศเตือนเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ และบ้านเรือน ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว” นายชยพล กล่าว
 
นายชยพล กล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมบริเวณชายแดน ตนมองว่าต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลาเพื่อไม่ให้คนไทยในฝั่งไทยได้รับความเสียหายใดๆ ทั้งนี้เคยมีกรณีที่เครื่องบินพร้อมรบของเมียนมาบินล้ำน่านฟ้าในฝั่งไทย ทางกองทัพต้องเตรียมพร้อมไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่