พระอรหันต์นั่นท่านรู้อารมณ์แรกที่เกิดในความรู้สึกอยู่เสมอ อารมณ์นี้เรียกอารมณ์ปรมัตถ์ เป็นรูปปปรม้ตถ์และนามปรมัตถ์(จิต) ตัวที่รู้เรียกจิตปรมัตถ์ รู้ขึ้นมาแล้วดับหายไปอย่างรวดเร็ว รูปทั้งรูปจากหัวถึงฝ่าเท้าไม่หายไป ปรากฏในความรู้สึกเสมอ จึงไม่มีความรู้สึกที่เป็นตัวตนในอารมณ์นั้น เรียกการรู้อย่างนี้ว่า ธรรมในธรรม
อารมณ์ทางกาย เวทนา จิตปรมัตถ์ สลับเวียนเข้ามาในความรู้สึกก็รู้ แต่ไม่มีอุปทานในการรู้ อารมณ์จึงเลื่อนไหล เรียกแล่นไปในอารมณ์นิพพาน รู้แล้วผ่านไปๆ รู้อยู่บนพื้นจิตที่ตั้งมั่นสว่างกว้าง อารมณ์จะแล่นไปเร็วแค่ไหน จิตสามารถจับทันและบอกได้ว่าเป็นอารมณ์อะไรที่ผ่านไป รู้อยู่บนพื้นจิตที่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ สมาธินี้เรียก สุญญตสมาธิ หรืออนิมิตสมาธิ อัปปณิหิตสมาธิก็เกิดในกระบวนการรู้นี้ไปพร้อมๆกัน
พระอรหันต์และวิถีจิต
อารมณ์ทางกาย เวทนา จิตปรมัตถ์ สลับเวียนเข้ามาในความรู้สึกก็รู้ แต่ไม่มีอุปทานในการรู้ อารมณ์จึงเลื่อนไหล เรียกแล่นไปในอารมณ์นิพพาน รู้แล้วผ่านไปๆ รู้อยู่บนพื้นจิตที่ตั้งมั่นสว่างกว้าง อารมณ์จะแล่นไปเร็วแค่ไหน จิตสามารถจับทันและบอกได้ว่าเป็นอารมณ์อะไรที่ผ่านไป รู้อยู่บนพื้นจิตที่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ สมาธินี้เรียก สุญญตสมาธิ หรืออนิมิตสมาธิ อัปปณิหิตสมาธิก็เกิดในกระบวนการรู้นี้ไปพร้อมๆกัน