‘ไอลอว์’เผยยอดผู้ประสงค์แสดงตัวสมัคร สว. 67 เกิน 1,000 แล้ว
https://www.dailynews.co.th/news/3362547/
คนดังแห่ร่วมเพียบ ‘หมอแล็บแพนด้า-นารากร ติยายน”ลงชิงด้วย ช่วงอายุ 40-49 อาชีพลูกจ้างฯ-คนกทม.แห่ร่วมมากสุด รีบเลยตรัง-นครพนม-ระนองคนสมัครน้อย ส่วนบึงกาฬยังไม่มีใครมาสมัคร
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เพจเฟซบุ๊กโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ilaw) โพสต์ข้อความระบุว่า เปิดตัวเว็บ
senate67.com ผู้ประสงค์แสดงตัวสมัคร สว. เกิน 1,000 คน มีคนดังร่วมแสดงตัว หลังจากเปิดตัว
www. senate67.com เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2567 เพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้ที่ประสงค์จะลงสมัคร สว. มีช่องทางในการแนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ต่อผู้สมัครคนอื่นๆ รวมทั้งประชาชนที่สนใจ โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2567 มีผู้กรอกข้อมูลในเว็บไซต์เพื่อประกาศตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร สว.แล้วถึง 1,006 คน
สำหรับการเลือก สว. ปี 2567 กฎหมายกำหนดให้มีสิทธิลงสมัครต้องมีอายุ 40 ปีขึ้นไป ข้อมูลจากผู้แสดงตนเป็นว่าที่ผู้สมัคร สว.ใน
senate67.com
จำนวน 1,006 คน พบว่า สัดส่วนช่วงอายุของผู้แสดงตัวประสงค์ลงสมัคร สว. คือ อายุ 40–49 ปีขึ้นไป 422 คน (42%) อายุ 50–59 ปีขึ้นไป 269 คน
(27%) อายุ 60–69 ปีขึ้นไป 266 คน (26%) อายุ 70–79 ปีขึ้นไป 44 คน (4%) อายุ 80 ปีขึ้นไป 5 คน (1%)
ในขณะที่กลุ่มอาชีพยอดนิยมของ 5 อันดับแรก ที่ผู้แสดงตัวสมัคร สว. 1,006 คน สนใจลงสมัครมากที่สุด คืออันดับที่ 1 กลุ่มลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน 115 คน (11.43%) อันดับที่ 2 กลุ่มอาชีพอิสระ 106 คน (10.54%) อันดับที่ 3 กลุ่มผู้ประกอบกิจการ SMEs 81 คน (8.05%) อันดับที่ 4 กลุ่มวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี 78 คน (7.75%) อันดับที่ 5 กลุ่มการศึกษา 70 คน (6.96%)
ขณะที่กลุ่มอาชีพที่มีผู้แสดงตัวสมัคร สว.สนใจลงสมัคร สว.น้อยที่สุด 5 อันดับ คือ อันดับที่ 1 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม 13 คน (1.29%) อันดับที่ 2 กลุ่มสื่อสารมวลชน นักเขียน 16 คน (1.59%) อันดับที่ 3 กลุ่มทำไร ทำนา 17 คน (1.69%) อันดับที่ 4 กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่น 23 คน (2.29%) อันดับที่ 5 กลุ่มศิลปะ ดนตรี บันเทิง กีฬา กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และกลุ่มทำสวน ป่าไม้ ประมง เลี้ยงสัตว์ กลุ่มละ 29 คน (2.88%) สำหรับจังหวัดยอดนิยมที่ผู้แสดงตัวสมัคร สว. จำนวน 1,006 คน เลือกที่จะลงมากที่ 5 อันดับแรก คือ senate67.com อันดับที่ 1 กรุงเทพฯ 257 คน อันดับที่ 2 นนทบุรี 84 คน อันดับที่ 3 เชียงใหม่ 54 คน อันดับที่ 4 ปทุมธานี 39 คน อันดับที่ 5 ชลบุรี 34 คน
ขณะเดียวกันยังมีอีก 29 จังหวัด ที่ยังมีผู้แสดงตนประสงค์ลงสมัคร สว. ในเว็บ
senate67.com ไม่ถึง 5 คน เช่น จังหวัดตรัง นครพนม และ ระนอง จังหวัดละ 1 คน จ.บึงกาฬที่ยังไม่มีผู้แสดงตัวเลย
สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ได้เข้ามาแนะนำตัวใน
www.senate67.com เช่น
นารากร ติยายน ผู้ประกาศข่าว นาย
ภาคภูมิ เดชหัสดิน (หมอแล็บแพนด้า) น.ส.
จีรนุช เปรมชัยพร อดีต ผอ.สำนักข่าวประชาไท นาย
ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนาย
ประภาส ปิ่นตบแต่ง อดีตอาจารย์และผอ.สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการจะสมัคร สว. และต้องการพื้นที่ในการแนะนำตัวเองและรู้จักผู้สมัครคนอื่นๆ ในพื้นที่ที่ตัวเองลงสมัคร สามารถกรอกข้อมูลแนะนำตัวเองได้ที่
www.senate67.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของคณะก้าวหน้าในเวลา 13.00 น. วันที่ 22 เม.ย.นี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จะแถลงเปิดตัวแคมเปญ สว.ประชาชนของคณะก้าวหน้า ที่ชั้น 7 อาคารอนาคตใหม่ โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะก้าวหน้าเดินสายรณรงค์ สว.ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ และมีกำหนดการเดินสายในพื้นที่ภาคอื่นๆ ต่อไปในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้
โรม ชี้ทำประชามติแก้รธน. 2 ครั้งพอแล้ว มากกว่านี้เปลืองงบ-เสียเวลา จี้สภาบรรจุวาระพิจารณา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4536030
‘รังสิมันต์’ มอง ทำประชามติ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เหตุทำ 3 ครั้งเปลืองงบ-เสียเวลา ระบุ หากทุกฝ่ายกลัวที่จะตีความกม. คนที่ต้องแบกรับความสูญเสียคือปชช. พร้อมเรียกร้อง ‘วันนอร์’ บรรจุวาระแก้รธน.เข้าสภาฯ ชี้ รบ.ควรจริงจังอย่างที่เคยสัญญาไว้ได้แล้ว
เมื่อวันที่ 21 เมษายน นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เตรียมเสนอเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเบื้องต้น เสนอทำประชามติ 3 ครั้ง มองอย่างไรบ้าง ว่า ตนคิดว่าหากจะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายที่กำหนด การทำประชามติ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว กฎหมายได้กำหนดขั้นตอนชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องทำประชามติในครั้งไหนบ้าง โดยกลไกพอจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้เกิดการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยทั่วไปการทำประชามติ 2 ครั้ง ก็เป็นกลไกที่ครบถ้วนและรอบคอบอยู่แล้ว ที่ประชาชนสามารถตัดสินว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับกระบวนการที่เกิดขึ้น การทำประชามติ 3 ครั้ง มันซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็น ความซ้ำซ้อนแบบนี้จะนำไปสู่การสูญเสียงบประมาณและสูญเสียเวลา
นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า เมื่อทุกฝ่ายกลัวที่จะต้องตีความกันหมด ทำให้สุดท้ายคนที่จะต้องแบกรับความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณหรือเวลาก็คือประชาชนทั้งประเทศ ตนยังมองว่าอยากให้ทุกฝ่ายกล้าหาญในการตีความ ซึ่งตนคิดว่าการตีความทางกฎหมาย ไม่ได้เป็นการตีความที่เกินเลยอะไร หากเราอ่านคำวินิจฉัยต่างๆ ก็ไม่ได้ชัดเจนถึงขั้นว่าจะต้องทำประชามติถึง 3 ครั้ง ตนยังคงยืนยันว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำประชามติ 3 ครั้ง
นาย
รังสิมันต์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เราก็พยายามยืนยัน ว่าการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านกลไกรัฐสภา นาย
วันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ควรจะบรรจุเรื่องนี้เพื่อให้กลไกต่างๆ สามารถเดินหน้าต่อได้ ซึ่งเราไม่เห็นด้วยในการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความ สุดท้ายผลที่ออกมาศาลรัฐธรรมนูญก็ตีความในลักษณะว่ายังไม่เป็นปัญหา เมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าเสียดาย หากรัฐบาลจะเดินหน้าทำประชามติ 3 ครั้ง ที่จะทำให้สูญเสียงบประมาณเพิ่ม ตนขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องไปยังนายวันมูหะมัดนอร์ ว่าควรจะบรรจุเรื่องนี้เข้าที่ประชุมและควรมีท่าทีที่ชัดเจนในเรื่องนี้
ส่วนข้อเสนอเพิ่มเติมไปยังรัฐบาลในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่าส่วนที่สำคัญ คือหากทุกฝ่ายเอาจริงเอาจัง ก็จะสามารถแก้ไขและนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ตนอยากจะให้รัฐบาลเอาจริงเหมือนกับที่สัญญาไว้กับประชาชน แต่ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการศึกษาเรื่องนี้ ก็ทำให้ส่งผลกระทบไปถึงความเชื่อมั่นของประชาชน ที่มองไปยังรัฐบาลและตั้งคำถามว่า จะเอาจริงเอาจังในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากแค่ไหน หากรัฐบาลรู้สึกว่าควรจะจริงจังได้แล้ว เราต้องช่วยกันทำให้การแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนหน้าตารัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่ ก็ให้เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จะต้องไปว่ากันอีกที
ท้องถิ่นก้าวหน้า โคราชก้าวไกล ติวเข้มผู้สนใจการเมืองท้องถิ่น คนดังตบเท้าร่วมคึกคัก
https://www.matichon.co.th/region/news_4535982
ท้องถิ่นก้าวหน้า โคราชก้าวไกล ติวเข้มผู้สนใจการเมืองท้องถิ่น คนดังตบเท้าร่วมคึกคัก จ่อเปิดสรรหาสนาม อบจ.เร็วๆนี้
เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ โรงแรมดิอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางภัทรกาญจน์ ทองแดง พร้อมคณะทำงานพรรคก้าวไกล (กก.) โคราช จัดการประชุมสมาชิกสัมพันธ์และผู้สนับสนุนในพื้นที่ กิจกรรม “
ท้องถิ่นก้าวหน้า นครราชสีมาก้าวไกล” โดยมีนาย
ศรายุทธ ใจหลัก ผู้อำนวยการพรรคก้าวไกล ชี้แจงสร้างการรับรู้ทำความเข้าใจ คุณสมบัติเบื้องต้นของนักการเมืองและแนวทางการทำงานในแบบก้าวไกล กระบวนการสรรหาและพิจารณาผู้สมัครองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นายยุทธนา สุนสำโรง ผู้ประสานงานพรรคก้าวไกลอีสานใต้ บรรยายเรื่องการมีส่วนร่วมของผู้สมัครท้องถิ่น
ต่อการสร้างพรรคก้าวไกล พบอดีตผู้สมัครและผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งใน อปท. รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวน 130 คน ร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก ซึ่งมีผู้สนใจสมัครสมาชิกกว่า 50 คน และต่ออายุจำนวนมากรวมทั้งขอเป็นอาสาสมัครเครือข่ายที่ดิน แรงงาน เพื่อศึกษาเรียนรู้และร่วมงานกับเครือข่ายก้าวไกล
นาย
ศรายุทธ ผอ.พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า กิจกรรมเป็นการชี้แจงกระบวนการขั้นตอนต่างๆการสมัครนายกและสมาชิก อปท. 334 แห่ง ในนามพรรคก้าวไกล ต้องมีอุดมการณ์ตรงกันควบคู่กับวิสัยทัศน์การพัฒนาท้องถิ่น ที่สำคัญโปรไฟล์ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา เคยทุจริต เป็นผู้มีอิทธิพล ฯ ซึ่งสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งช่วงสิ้นปีนี้ ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ หากได้บุคคลที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไข คาดภายในสัปดาห์หน้าอาจจะเปิดรับสมัคร
สำหรับกระแสความเคลื่อนไหวบ้านใหญ่ เป็นเพียงข่าวลือ พรรคก้าวไกลไม่ได้ปิดกั้น แต่หลักเกณฑ์การพิจารณายึดแนวทางของพรรคเป็นหลัก บุคคลที่เคยลงสมัครในนามขั้วตรงข้าม หากต้องการมีส่วนร่วมกับเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทิศทางที่ดีขึ้น เล็งเห็นผลประโยชน์และอำนาจประชาชนเป็นหลัก เราก็ยินดีเปิดรับมาทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ผู้ที่ลงสมัครให้ทบทวนตนเองก่อน มีความเข้าใจในทิศทางอุดมการณ์ของพรรคจริงหรือไม่ มิใช่ต้องการสมัครเพราะกระแสความนิยมเท่านั้น ผอ.ก้าวไกล กล่าว
พาเหรดขึ้นราคา! ส.ผู้เลี้ยงเป็ด แจ้งปรับราคาขายไข่หน้าฟาร์มอีก 20 สต. มีผล 22 เม.ย.
https://www.matichon.co.th/economy/news_4536236
มาตามคิว! ส.ผู้เลี้ยงเป็ดไข่ แจ้งขึ้นราคาหน้าฟาร์มขึ้นอีก 20 สต. มีผล 22 เม.ย.
เมื่อวันที่ 21 เมษายน สมาคมผู้เลี้ยงเป็ดไข่ ทำหนังสือแจ้งสมาชิกเพื่อปรับขึ้นราคาไข่เป็ดหน้าฟาร์ม ความว่า ในวันที่ 22 เม.ย.นี้จะปรับขึ้นราคาไข่เป็ดหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์ต่อฟอง ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 4.60 บาทต่อฟอง ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงราคาสมาคมจะแจ้งให้ทราบต่อไป
JJNY : 5in1 ‘ไอลอว์’เผยยอด│โรมจี้สภาบรรจุวาระ│ท้องถิ่นก้าวหน้า โคราชก้าวไกล│ส.ผู้เลี้ยงเป็ดแจ้งปรับราคา│อิสราเอลโกรธจัด
https://www.dailynews.co.th/news/3362547/
คนดังแห่ร่วมเพียบ ‘หมอแล็บแพนด้า-นารากร ติยายน”ลงชิงด้วย ช่วงอายุ 40-49 อาชีพลูกจ้างฯ-คนกทม.แห่ร่วมมากสุด รีบเลยตรัง-นครพนม-ระนองคนสมัครน้อย ส่วนบึงกาฬยังไม่มีใครมาสมัคร
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เพจเฟซบุ๊กโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ilaw) โพสต์ข้อความระบุว่า เปิดตัวเว็บ senate67.com ผู้ประสงค์แสดงตัวสมัคร สว. เกิน 1,000 คน มีคนดังร่วมแสดงตัว หลังจากเปิดตัว www. senate67.com เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2567 เพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้ที่ประสงค์จะลงสมัคร สว. มีช่องทางในการแนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ต่อผู้สมัครคนอื่นๆ รวมทั้งประชาชนที่สนใจ โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2567 มีผู้กรอกข้อมูลในเว็บไซต์เพื่อประกาศตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร สว.แล้วถึง 1,006 คน
สำหรับการเลือก สว. ปี 2567 กฎหมายกำหนดให้มีสิทธิลงสมัครต้องมีอายุ 40 ปีขึ้นไป ข้อมูลจากผู้แสดงตนเป็นว่าที่ผู้สมัคร สว.ใน senate67.com
จำนวน 1,006 คน พบว่า สัดส่วนช่วงอายุของผู้แสดงตัวประสงค์ลงสมัคร สว. คือ อายุ 40–49 ปีขึ้นไป 422 คน (42%) อายุ 50–59 ปีขึ้นไป 269 คน
(27%) อายุ 60–69 ปีขึ้นไป 266 คน (26%) อายุ 70–79 ปีขึ้นไป 44 คน (4%) อายุ 80 ปีขึ้นไป 5 คน (1%)
ในขณะที่กลุ่มอาชีพยอดนิยมของ 5 อันดับแรก ที่ผู้แสดงตัวสมัคร สว. 1,006 คน สนใจลงสมัครมากที่สุด คืออันดับที่ 1 กลุ่มลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน 115 คน (11.43%) อันดับที่ 2 กลุ่มอาชีพอิสระ 106 คน (10.54%) อันดับที่ 3 กลุ่มผู้ประกอบกิจการ SMEs 81 คน (8.05%) อันดับที่ 4 กลุ่มวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี 78 คน (7.75%) อันดับที่ 5 กลุ่มการศึกษา 70 คน (6.96%)
ขณะที่กลุ่มอาชีพที่มีผู้แสดงตัวสมัคร สว.สนใจลงสมัคร สว.น้อยที่สุด 5 อันดับ คือ อันดับที่ 1 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม 13 คน (1.29%) อันดับที่ 2 กลุ่มสื่อสารมวลชน นักเขียน 16 คน (1.59%) อันดับที่ 3 กลุ่มทำไร ทำนา 17 คน (1.69%) อันดับที่ 4 กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่น 23 คน (2.29%) อันดับที่ 5 กลุ่มศิลปะ ดนตรี บันเทิง กีฬา กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และกลุ่มทำสวน ป่าไม้ ประมง เลี้ยงสัตว์ กลุ่มละ 29 คน (2.88%) สำหรับจังหวัดยอดนิยมที่ผู้แสดงตัวสมัคร สว. จำนวน 1,006 คน เลือกที่จะลงมากที่ 5 อันดับแรก คือ senate67.com อันดับที่ 1 กรุงเทพฯ 257 คน อันดับที่ 2 นนทบุรี 84 คน อันดับที่ 3 เชียงใหม่ 54 คน อันดับที่ 4 ปทุมธานี 39 คน อันดับที่ 5 ชลบุรี 34 คน
ขณะเดียวกันยังมีอีก 29 จังหวัด ที่ยังมีผู้แสดงตนประสงค์ลงสมัคร สว. ในเว็บ senate67.com ไม่ถึง 5 คน เช่น จังหวัดตรัง นครพนม และ ระนอง จังหวัดละ 1 คน จ.บึงกาฬที่ยังไม่มีผู้แสดงตัวเลย
สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ได้เข้ามาแนะนำตัวใน www.senate67.com เช่น นารากร ติยายน ผู้ประกาศข่าว นายภาคภูมิ เดชหัสดิน (หมอแล็บแพนด้า) น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร อดีต ผอ.สำนักข่าวประชาไท นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายประภาส ปิ่นตบแต่ง อดีตอาจารย์และผอ.สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการจะสมัคร สว. และต้องการพื้นที่ในการแนะนำตัวเองและรู้จักผู้สมัครคนอื่นๆ ในพื้นที่ที่ตัวเองลงสมัคร สามารถกรอกข้อมูลแนะนำตัวเองได้ที่ www.senate67.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของคณะก้าวหน้าในเวลา 13.00 น. วันที่ 22 เม.ย.นี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จะแถลงเปิดตัวแคมเปญ สว.ประชาชนของคณะก้าวหน้า ที่ชั้น 7 อาคารอนาคตใหม่ โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะก้าวหน้าเดินสายรณรงค์ สว.ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ และมีกำหนดการเดินสายในพื้นที่ภาคอื่นๆ ต่อไปในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้
โรม ชี้ทำประชามติแก้รธน. 2 ครั้งพอแล้ว มากกว่านี้เปลืองงบ-เสียเวลา จี้สภาบรรจุวาระพิจารณา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4536030
‘รังสิมันต์’ มอง ทำประชามติ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เหตุทำ 3 ครั้งเปลืองงบ-เสียเวลา ระบุ หากทุกฝ่ายกลัวที่จะตีความกม. คนที่ต้องแบกรับความสูญเสียคือปชช. พร้อมเรียกร้อง ‘วันนอร์’ บรรจุวาระแก้รธน.เข้าสภาฯ ชี้ รบ.ควรจริงจังอย่างที่เคยสัญญาไว้ได้แล้ว
เมื่อวันที่ 21 เมษายน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เตรียมเสนอเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเบื้องต้น เสนอทำประชามติ 3 ครั้ง มองอย่างไรบ้าง ว่า ตนคิดว่าหากจะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายที่กำหนด การทำประชามติ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว กฎหมายได้กำหนดขั้นตอนชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องทำประชามติในครั้งไหนบ้าง โดยกลไกพอจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้เกิดการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยทั่วไปการทำประชามติ 2 ครั้ง ก็เป็นกลไกที่ครบถ้วนและรอบคอบอยู่แล้ว ที่ประชาชนสามารถตัดสินว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับกระบวนการที่เกิดขึ้น การทำประชามติ 3 ครั้ง มันซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็น ความซ้ำซ้อนแบบนี้จะนำไปสู่การสูญเสียงบประมาณและสูญเสียเวลา
นายรังสิมันต์กล่าวว่า เมื่อทุกฝ่ายกลัวที่จะต้องตีความกันหมด ทำให้สุดท้ายคนที่จะต้องแบกรับความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณหรือเวลาก็คือประชาชนทั้งประเทศ ตนยังมองว่าอยากให้ทุกฝ่ายกล้าหาญในการตีความ ซึ่งตนคิดว่าการตีความทางกฎหมาย ไม่ได้เป็นการตีความที่เกินเลยอะไร หากเราอ่านคำวินิจฉัยต่างๆ ก็ไม่ได้ชัดเจนถึงขั้นว่าจะต้องทำประชามติถึง 3 ครั้ง ตนยังคงยืนยันว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำประชามติ 3 ครั้ง
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เราก็พยายามยืนยัน ว่าการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านกลไกรัฐสภา นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ควรจะบรรจุเรื่องนี้เพื่อให้กลไกต่างๆ สามารถเดินหน้าต่อได้ ซึ่งเราไม่เห็นด้วยในการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความ สุดท้ายผลที่ออกมาศาลรัฐธรรมนูญก็ตีความในลักษณะว่ายังไม่เป็นปัญหา เมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าเสียดาย หากรัฐบาลจะเดินหน้าทำประชามติ 3 ครั้ง ที่จะทำให้สูญเสียงบประมาณเพิ่ม ตนขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องไปยังนายวันมูหะมัดนอร์ ว่าควรจะบรรจุเรื่องนี้เข้าที่ประชุมและควรมีท่าทีที่ชัดเจนในเรื่องนี้
ส่วนข้อเสนอเพิ่มเติมไปยังรัฐบาลในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่าส่วนที่สำคัญ คือหากทุกฝ่ายเอาจริงเอาจัง ก็จะสามารถแก้ไขและนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ตนอยากจะให้รัฐบาลเอาจริงเหมือนกับที่สัญญาไว้กับประชาชน แต่ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการศึกษาเรื่องนี้ ก็ทำให้ส่งผลกระทบไปถึงความเชื่อมั่นของประชาชน ที่มองไปยังรัฐบาลและตั้งคำถามว่า จะเอาจริงเอาจังในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากแค่ไหน หากรัฐบาลรู้สึกว่าควรจะจริงจังได้แล้ว เราต้องช่วยกันทำให้การแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนหน้าตารัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่ ก็ให้เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จะต้องไปว่ากันอีกที
ท้องถิ่นก้าวหน้า โคราชก้าวไกล ติวเข้มผู้สนใจการเมืองท้องถิ่น คนดังตบเท้าร่วมคึกคัก
https://www.matichon.co.th/region/news_4535982
ท้องถิ่นก้าวหน้า โคราชก้าวไกล ติวเข้มผู้สนใจการเมืองท้องถิ่น คนดังตบเท้าร่วมคึกคัก จ่อเปิดสรรหาสนาม อบจ.เร็วๆนี้
เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ โรงแรมดิอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางภัทรกาญจน์ ทองแดง พร้อมคณะทำงานพรรคก้าวไกล (กก.) โคราช จัดการประชุมสมาชิกสัมพันธ์และผู้สนับสนุนในพื้นที่ กิจกรรม “ท้องถิ่นก้าวหน้า นครราชสีมาก้าวไกล” โดยมีนายศรายุทธ ใจหลัก ผู้อำนวยการพรรคก้าวไกล ชี้แจงสร้างการรับรู้ทำความเข้าใจ คุณสมบัติเบื้องต้นของนักการเมืองและแนวทางการทำงานในแบบก้าวไกล กระบวนการสรรหาและพิจารณาผู้สมัครองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นายยุทธนา สุนสำโรง ผู้ประสานงานพรรคก้าวไกลอีสานใต้ บรรยายเรื่องการมีส่วนร่วมของผู้สมัครท้องถิ่น
ต่อการสร้างพรรคก้าวไกล พบอดีตผู้สมัครและผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งใน อปท. รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวน 130 คน ร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก ซึ่งมีผู้สนใจสมัครสมาชิกกว่า 50 คน และต่ออายุจำนวนมากรวมทั้งขอเป็นอาสาสมัครเครือข่ายที่ดิน แรงงาน เพื่อศึกษาเรียนรู้และร่วมงานกับเครือข่ายก้าวไกล
นายศรายุทธ ผอ.พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า กิจกรรมเป็นการชี้แจงกระบวนการขั้นตอนต่างๆการสมัครนายกและสมาชิก อปท. 334 แห่ง ในนามพรรคก้าวไกล ต้องมีอุดมการณ์ตรงกันควบคู่กับวิสัยทัศน์การพัฒนาท้องถิ่น ที่สำคัญโปรไฟล์ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา เคยทุจริต เป็นผู้มีอิทธิพล ฯ ซึ่งสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งช่วงสิ้นปีนี้ ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ หากได้บุคคลที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไข คาดภายในสัปดาห์หน้าอาจจะเปิดรับสมัคร
สำหรับกระแสความเคลื่อนไหวบ้านใหญ่ เป็นเพียงข่าวลือ พรรคก้าวไกลไม่ได้ปิดกั้น แต่หลักเกณฑ์การพิจารณายึดแนวทางของพรรคเป็นหลัก บุคคลที่เคยลงสมัครในนามขั้วตรงข้าม หากต้องการมีส่วนร่วมกับเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทิศทางที่ดีขึ้น เล็งเห็นผลประโยชน์และอำนาจประชาชนเป็นหลัก เราก็ยินดีเปิดรับมาทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ผู้ที่ลงสมัครให้ทบทวนตนเองก่อน มีความเข้าใจในทิศทางอุดมการณ์ของพรรคจริงหรือไม่ มิใช่ต้องการสมัครเพราะกระแสความนิยมเท่านั้น ผอ.ก้าวไกล กล่าว
พาเหรดขึ้นราคา! ส.ผู้เลี้ยงเป็ด แจ้งปรับราคาขายไข่หน้าฟาร์มอีก 20 สต. มีผล 22 เม.ย.
https://www.matichon.co.th/economy/news_4536236
มาตามคิว! ส.ผู้เลี้ยงเป็ดไข่ แจ้งขึ้นราคาหน้าฟาร์มขึ้นอีก 20 สต. มีผล 22 เม.ย.
เมื่อวันที่ 21 เมษายน สมาคมผู้เลี้ยงเป็ดไข่ ทำหนังสือแจ้งสมาชิกเพื่อปรับขึ้นราคาไข่เป็ดหน้าฟาร์ม ความว่า ในวันที่ 22 เม.ย.นี้จะปรับขึ้นราคาไข่เป็ดหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์ต่อฟอง ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 4.60 บาทต่อฟอง ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงราคาสมาคมจะแจ้งให้ทราบต่อไป