เราไปเปลี่ยนชื่อที่เขตแถวสุขาภิบาล5 ก็กดคิวไปเจอจนท ก็ยื่นใบเปลี่ยนชื่อมา จะเปลี่ยนเป็นอะไร คำอ่านแบบไหน เราก็ส่งให้จนทไป คือเหมือนว่าจนทเขตนี้ทำแผนกนี้ 2 คน จนทโต๊ะข้างๆ (อายุเยอะกว่า) ก็เดินมาดูแล้วถามความหมายเรา เราก็ตอบไป และก็บอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ ให้โทรถามราชบัณฑิตยสถาน แล้วเปิดสมุดพจนานุกรมที่อัปเดทเมื่อราวๆ 10ปีที่แล้วไปด้วย
เราก็คุยกับราชบัณฑิตยสถาน ทางนั้นบอกว่าชื่อเรามันไม่มีความหมายในพจนานุกรมไทย ด้วยความที่เราอยากได้ชื่อนี้มาก ก็ตอบไปว่าชื่อเราเกิดจากการเอาคำมารวมกัน แยกกันก็มีความหมาย รวมกันก็มีความหมายในแบบของเรา (เป็นคำไทยๆนะคะ ไม่ฟ้าวไม่เฟี้ยวอะไร) ทางราชบัณฑิตยสถานก็บอกว่าจะเอามารวมเองไม่ได้ มันต้องมีหลักการ บางคำเป็นคำไทยแต่เปลี่ยนตัวการัน หรือ ตัดออก ก็ไม่ได้นะ ซึ่งเราจำดีเทลไม่ได้แล้วเยอะมาก
ก็เลยช่วยกันคิดว่าจะเอายังไงเพราะเราก็อยากได้ชื่อนี้ เราถามกับราชบัณฑิตยสถานว่า เราอ่านเกณฑ์การเปลี่ยนชื่อก็ไม่มีข้อไหนติดขัด ทำไมคนไทยต้องใช้ชื่อบาลีสันสกฤตอย่างเดียวเลยหรอ คำตอบที่ได้คือก็ไม่จำเป็น
กลับบอกว่าทางราชบัณฑิตยสถานไม่มีส่วนในการอนุมัติชื่อเราอยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่เขต ทางเค้าแค่หาความหมายเฉยๆ อ่าวแล้วคุยกันทำไมตั้งนาน (มองที่จนทเขต) เราก็วางสาย บอกจนทพี่ๆ มันอยู่ที่พี่ละว่าจะเอายังไง จนทก็ทำหน้างงกับตัวเองเหมือนกัน **คนไทยอิสลามเปลี่ยนชื่ออิสลามได้ แต่เราไม่มีศาสนา หรือคนพุทธ จะเปลี่ยนเป็นแบบอิสลามไม่ได้ งงป่ะ 55555
สรุป
เราเปลี่ยนได้นะ เพราะตีมึนไปเลยไม่ยอม นั่งไปเรื่อยๆ ยืนยันว่าจะชื่อนี้ แต่ก็ใช้เวลานานมาก
สิ่งที่อยากถามคือ
1.ไม่เข้าข่ายความผิดของกฎเกณฑ์แล้วทำไมถึงทำไม่ได้ ไปออกกฎมาให้ชัดเจาะจงกว่านี้ดีมั้ย
2.บรรทัดฐานของเจ้าหน้าที่แต่ละเขตใช้อะไรเป็นตัววัด ดาราบุคคลบางคนชื่อพิลึกกึกกือทำไมเปลี่ยนได้
3.เมื่อไหร่ความล้าหลังพวกนี้จะหมดไป คนไทยจะอยู่แต่บาลีสันสกฤตอย่างเดียวรึไง ทั้งที่ภาษาพวกนี้ก็ไม่ใช่ภาษาไทย ทำไมถึงให้ privilege ภาษาเหล่านี้อย่างเดียว คือ มันคงไม่มีใครตั้งชื่อ โครเมียมเฮกซะวาเลนซ์ แคลเซียมคาร์บอเนต หรอก ถ้ามีกรณีนี้ก็ใช้ดุลพินิจสิ ว่าชื่อมันยากไปมั้ย-ออกกฎให้ชัดเจนห้ามใช้ชื่อวิทย์ แล้วทุกคนเกิดมามีสิทธิจะใช้ชื่ออะไรก็ได้รึป่าว?
ส่งท้าย
อยากบอกคนที่กำลังจะเปลี่ยนชื่อถ้าจิตไม่แข็ง บ้าไม่พอ ให้โทรไปถามราชบัณฑิตยสถานก่อนเลยว่าชื่อที่จะเปลี่ยนมีความหมายมั้ย ถ้ามีคุณเปลี่ยนแบบสวยๆเลย ถ้าไม่คุณก็ไปแกล้งบ้าที่เขตเอา
Review เปลี่ยนชื่อในปี 2024 เขตไม่ให้ ตีมึน กฎล้าหลัง
เราก็คุยกับราชบัณฑิตยสถาน ทางนั้นบอกว่าชื่อเรามันไม่มีความหมายในพจนานุกรมไทย ด้วยความที่เราอยากได้ชื่อนี้มาก ก็ตอบไปว่าชื่อเราเกิดจากการเอาคำมารวมกัน แยกกันก็มีความหมาย รวมกันก็มีความหมายในแบบของเรา (เป็นคำไทยๆนะคะ ไม่ฟ้าวไม่เฟี้ยวอะไร) ทางราชบัณฑิตยสถานก็บอกว่าจะเอามารวมเองไม่ได้ มันต้องมีหลักการ บางคำเป็นคำไทยแต่เปลี่ยนตัวการัน หรือ ตัดออก ก็ไม่ได้นะ ซึ่งเราจำดีเทลไม่ได้แล้วเยอะมาก
ก็เลยช่วยกันคิดว่าจะเอายังไงเพราะเราก็อยากได้ชื่อนี้ เราถามกับราชบัณฑิตยสถานว่า เราอ่านเกณฑ์การเปลี่ยนชื่อก็ไม่มีข้อไหนติดขัด ทำไมคนไทยต้องใช้ชื่อบาลีสันสกฤตอย่างเดียวเลยหรอ คำตอบที่ได้คือก็ไม่จำเป็น
กลับบอกว่าทางราชบัณฑิตยสถานไม่มีส่วนในการอนุมัติชื่อเราอยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่เขต ทางเค้าแค่หาความหมายเฉยๆ อ่าวแล้วคุยกันทำไมตั้งนาน (มองที่จนทเขต) เราก็วางสาย บอกจนทพี่ๆ มันอยู่ที่พี่ละว่าจะเอายังไง จนทก็ทำหน้างงกับตัวเองเหมือนกัน **คนไทยอิสลามเปลี่ยนชื่ออิสลามได้ แต่เราไม่มีศาสนา หรือคนพุทธ จะเปลี่ยนเป็นแบบอิสลามไม่ได้ งงป่ะ 55555
สรุป
เราเปลี่ยนได้นะ เพราะตีมึนไปเลยไม่ยอม นั่งไปเรื่อยๆ ยืนยันว่าจะชื่อนี้ แต่ก็ใช้เวลานานมาก
สิ่งที่อยากถามคือ
1.ไม่เข้าข่ายความผิดของกฎเกณฑ์แล้วทำไมถึงทำไม่ได้ ไปออกกฎมาให้ชัดเจาะจงกว่านี้ดีมั้ย
2.บรรทัดฐานของเจ้าหน้าที่แต่ละเขตใช้อะไรเป็นตัววัด ดาราบุคคลบางคนชื่อพิลึกกึกกือทำไมเปลี่ยนได้
3.เมื่อไหร่ความล้าหลังพวกนี้จะหมดไป คนไทยจะอยู่แต่บาลีสันสกฤตอย่างเดียวรึไง ทั้งที่ภาษาพวกนี้ก็ไม่ใช่ภาษาไทย ทำไมถึงให้ privilege ภาษาเหล่านี้อย่างเดียว คือ มันคงไม่มีใครตั้งชื่อ โครเมียมเฮกซะวาเลนซ์ แคลเซียมคาร์บอเนต หรอก ถ้ามีกรณีนี้ก็ใช้ดุลพินิจสิ ว่าชื่อมันยากไปมั้ย-ออกกฎให้ชัดเจนห้ามใช้ชื่อวิทย์ แล้วทุกคนเกิดมามีสิทธิจะใช้ชื่ออะไรก็ได้รึป่าว?
ส่งท้าย
อยากบอกคนที่กำลังจะเปลี่ยนชื่อถ้าจิตไม่แข็ง บ้าไม่พอ ให้โทรไปถามราชบัณฑิตยสถานก่อนเลยว่าชื่อที่จะเปลี่ยนมีความหมายมั้ย ถ้ามีคุณเปลี่ยนแบบสวยๆเลย ถ้าไม่คุณก็ไปแกล้งบ้าที่เขตเอา