เราแต่งงานกับสามีต่างชาติเป็นแม่บ้าน full time มีหน้าที่ดูแลทุกอย่างในบ้าน ดูแลสามี ดูแลการเรียนของลูก รับส่งลูกๆ ทั้ง 3คน ครอบครัวพอมีพอใช้ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่อบอุ่นมีความสุขกันดี
สงกรานต์ที่ผ่านมากลับไปหาแม่ที่บ้านต่างจังหวัด (ปกติจะพาแม่เที่ยวเป็นประจำ แม่อยากได้อะไรก็จะไลน์มาให้ซื้อส่งไปเรื่อยๆ) ก็เจอแม่พูดขึ้นมาลอยๆ (เราก็ยืนอยู่ข้างๆ นั่นแหละ) ว่า อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง ชาตินี้คงไม่มีวาสนาจะมีบ้านเป็นของตัวเองเหมือนคนอื่นเค้า
เราฟังแล้วบางทีก็รู้สึกน้อยใจในสิ่งที่แม่พูด เราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ที่ผ่านมาสิ่งไหนทำเพื่อแม่ได้เราก็ทำให้เสมอ แม้แต่ตอนที่แม่อยากมีรถเก๋งขับ เราก็จ่ายเงินส่งแม่ไปเรียนขับรถ สอบไปขับขี่ แล้วก็ซื้อรถมือสอง 1xx,xxxให้แม่ไว้ใช้ไปหาหมอที่ รพ.
แต่ก็เข้าใจว่าแม่คงผิดหวังในชีวิตมาหลายครั้ง เพราะตอนอยู่กับพ่อเราบ้านที่อยู่ก็ถูกธนาคารยึด
พอเลิกกับพ่อเราไปอยู่กับแฟนใหม่ได้ 20กว่าปี แม่ก็มักจะบ่นเสมอว่า แฟนใหม่แม่สร้างบ้านเป็นชื่อลูกสาวเค้า(แต่เรื่องนี้เราคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้ว เพราะลูกเค้าเป็นคนยื่นกู้ดำเนินการเองผ่อนเอง)
ปัจจุบันเราได้ยกบ้านเดี่ยว 1หลัง ในโครงการจัดสรร (ไม่ติดจำนอง) ให้แม่ไว้เก็บค่าเช่า (บ้านเก่าแล้ว ค่าเช่าแค่ 5,xxx) และเคยถามแม่ว่า อยากย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ไหมจะให้ช่างรีโนเวทให้ใหม่แบบที่แม่ชอบแล้วให้แม่มาอยู่ แต่แม่บอกไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้ เพราะพ่อเคยมาอยู่ (ปัจจุบันพ่อเราเสียไปหลายปีแล้ว และไม่ได้เสียในบ้านหลังนี้นะคะ)
เคยขอร้องสามีให้ซื้อบ้านหลังเล็กๆ ในจังหวัดที่แม่เราอยู่ เพื่อปิดเทอมจะได้ให้หลานๆ ไปใช้เวลาอยู่กับคุณยาย สามีก็ไม่ยอมซื้อ แถมยังชอบบ่นว่าแม่เราไม่ค่อยสนใจดูแลเด็กๆ ไปเที่ยวที่ไหนๆ ด้วยกันก็ตื่นแต่เช้ามาแต่งหน้าแต่งตัว ไม่เคยสนใจหลานๆ เลย ซึ่งเราเคยอธิบายกับสามีแล้วว่า แม่เราเลี้ยงเรามาด้วยความยากลำบาก เราเป็นคนบอกแม่เองว่าไม่ต้องทำอะไรนะ เราอยากให้แม่สบายๆ ให้แม่มาพักผ่อน ทุกๆ อย่างเราจะให้ให้ทุกๆ คนเอง
ทุกวันนี้เราพยามดูแลแม่ให้ดีที่สุด ตามกำลังความสามารถที่เราจะทำได้ แต่บางครั้งเราก็รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถให้ในสิ่งที่แม่ต้องการ ให้ในสิ่งที่แม่ฝันไว้ได้ เราควรจัดการกับความเสียใจนี้อย่างไรดีคะ
อยากทำทุกอย่างให้แม่มีความสุข แต่บางสิ่งบางอย่างมันก็เกินกำลังจริงๆค่ะ
แม่อายุ 63 แล้ว ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ในฐานะลูกถ้าไม่สามารถเติมเต็มความฝันของแม่ได้จะเท่ากับอกตัญญูรึเปล่าคะ
สงกรานต์ที่ผ่านมากลับไปหาแม่ที่บ้านต่างจังหวัด (ปกติจะพาแม่เที่ยวเป็นประจำ แม่อยากได้อะไรก็จะไลน์มาให้ซื้อส่งไปเรื่อยๆ) ก็เจอแม่พูดขึ้นมาลอยๆ (เราก็ยืนอยู่ข้างๆ นั่นแหละ) ว่า อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง ชาตินี้คงไม่มีวาสนาจะมีบ้านเป็นของตัวเองเหมือนคนอื่นเค้า
เราฟังแล้วบางทีก็รู้สึกน้อยใจในสิ่งที่แม่พูด เราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ที่ผ่านมาสิ่งไหนทำเพื่อแม่ได้เราก็ทำให้เสมอ แม้แต่ตอนที่แม่อยากมีรถเก๋งขับ เราก็จ่ายเงินส่งแม่ไปเรียนขับรถ สอบไปขับขี่ แล้วก็ซื้อรถมือสอง 1xx,xxxให้แม่ไว้ใช้ไปหาหมอที่ รพ.
แต่ก็เข้าใจว่าแม่คงผิดหวังในชีวิตมาหลายครั้ง เพราะตอนอยู่กับพ่อเราบ้านที่อยู่ก็ถูกธนาคารยึด
พอเลิกกับพ่อเราไปอยู่กับแฟนใหม่ได้ 20กว่าปี แม่ก็มักจะบ่นเสมอว่า แฟนใหม่แม่สร้างบ้านเป็นชื่อลูกสาวเค้า(แต่เรื่องนี้เราคิดว่าเค้าทำถูกต้องแล้ว เพราะลูกเค้าเป็นคนยื่นกู้ดำเนินการเองผ่อนเอง)
ปัจจุบันเราได้ยกบ้านเดี่ยว 1หลัง ในโครงการจัดสรร (ไม่ติดจำนอง) ให้แม่ไว้เก็บค่าเช่า (บ้านเก่าแล้ว ค่าเช่าแค่ 5,xxx) และเคยถามแม่ว่า อยากย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ไหมจะให้ช่างรีโนเวทให้ใหม่แบบที่แม่ชอบแล้วให้แม่มาอยู่ แต่แม่บอกไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้ เพราะพ่อเคยมาอยู่ (ปัจจุบันพ่อเราเสียไปหลายปีแล้ว และไม่ได้เสียในบ้านหลังนี้นะคะ)
เคยขอร้องสามีให้ซื้อบ้านหลังเล็กๆ ในจังหวัดที่แม่เราอยู่ เพื่อปิดเทอมจะได้ให้หลานๆ ไปใช้เวลาอยู่กับคุณยาย สามีก็ไม่ยอมซื้อ แถมยังชอบบ่นว่าแม่เราไม่ค่อยสนใจดูแลเด็กๆ ไปเที่ยวที่ไหนๆ ด้วยกันก็ตื่นแต่เช้ามาแต่งหน้าแต่งตัว ไม่เคยสนใจหลานๆ เลย ซึ่งเราเคยอธิบายกับสามีแล้วว่า แม่เราเลี้ยงเรามาด้วยความยากลำบาก เราเป็นคนบอกแม่เองว่าไม่ต้องทำอะไรนะ เราอยากให้แม่สบายๆ ให้แม่มาพักผ่อน ทุกๆ อย่างเราจะให้ให้ทุกๆ คนเอง
ทุกวันนี้เราพยามดูแลแม่ให้ดีที่สุด ตามกำลังความสามารถที่เราจะทำได้ แต่บางครั้งเราก็รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถให้ในสิ่งที่แม่ต้องการ ให้ในสิ่งที่แม่ฝันไว้ได้ เราควรจัดการกับความเสียใจนี้อย่างไรดีคะ
อยากทำทุกอย่างให้แม่มีความสุข แต่บางสิ่งบางอย่างมันก็เกินกำลังจริงๆค่ะ