ผมแต่งกลอนง่ายๆกับเพื่อนในห้องแชท ตามอารมณ์ในเวลานั้น เและเพื่อนผมไม่เคยแต่งกลอนมาก่อน ผมเลยเลือกรูปแบบที่ง่ายที่สุดให้ เรียกมันว่า กลอนเสรี
และต่อไปนี้คือสิ่งที่เซฟไว้ครับ
[
มองดูสายลมพัดใบไม้ไหว@
นึกถึงคนที่อยู่ไกลสุดขอบฟ้า#
ใบไม้ใบหนึ่งหลุดจากขั้วล่องลอย@
เฝ้าคอยโมงยามตามวันเวลา#
ใจคนเล่า จากไปที่ใดแล้ว@
ใจติดตามผู้ไกลที่ไปแล้วไม่ลับ#
ถึงมิอาจอยู่ใกล้หากยังคงแสวงหา@
ตอนเอ่ยคำลายังเห็นแม้ในห้วงนิทรา#
แม้นแสงแรกแห่งทิวามาทักทายยังไม่ยอมรับ@
หลับตายังมิตื่นจากคืนคะนึงฝัน#
จำพรากจากคืนวันสันติสุข@
น้ำตาพร่างพร่ายคล้ายไข่มุกหล่นบนหน้า#
ก่อนจะย้อนถามกลับว่า นี่ข้าเป็นอะไร@
ในฝันคล้ายใกล้แต่ความจริงกลับแสนไกล#
ร่างนั้นหยัดยืนอยู่ได้ หากแต่หัวใจแผ่วโหย@
ลมโชยระโรยระรินในใจห่วงหา#
แหงนหน้ามองหมู่เมฆาพาใจหวีดหวิว@
แสงแดดสัมผัสผิวมิคลายหนาวสั่น#
ยามนั้นผันผ่านไปอย่างมิมีผู้ใดรู้ตัว@
วันหนึ่งหากหมอกมัวในใจได้สลาย#
เพียงหวังไว้ให้เราสองคิดถึงช่วงเวลาที่น่าจดจำ@
ชั่วชีวิตสุดขอบฟ้ามิอาจพบ#
ได้บรรจบแค่ฝั่งหนึ่งคะนึงฝัน#
แม้นมิอาจพบพานทั้งชีวัน@
แค่พบในความฝันก็พอใจ@
]
ผม@
เพื่อน#
เขียนไว้ในห้องแชท
และต่อไปนี้คือสิ่งที่เซฟไว้ครับ
[
มองดูสายลมพัดใบไม้ไหว@
นึกถึงคนที่อยู่ไกลสุดขอบฟ้า#
ใบไม้ใบหนึ่งหลุดจากขั้วล่องลอย@
เฝ้าคอยโมงยามตามวันเวลา#
ใจคนเล่า จากไปที่ใดแล้ว@
ใจติดตามผู้ไกลที่ไปแล้วไม่ลับ#
ถึงมิอาจอยู่ใกล้หากยังคงแสวงหา@
ตอนเอ่ยคำลายังเห็นแม้ในห้วงนิทรา#
แม้นแสงแรกแห่งทิวามาทักทายยังไม่ยอมรับ@
หลับตายังมิตื่นจากคืนคะนึงฝัน#
จำพรากจากคืนวันสันติสุข@
น้ำตาพร่างพร่ายคล้ายไข่มุกหล่นบนหน้า#
ก่อนจะย้อนถามกลับว่า นี่ข้าเป็นอะไร@
ในฝันคล้ายใกล้แต่ความจริงกลับแสนไกล#
ร่างนั้นหยัดยืนอยู่ได้ หากแต่หัวใจแผ่วโหย@
ลมโชยระโรยระรินในใจห่วงหา#
แหงนหน้ามองหมู่เมฆาพาใจหวีดหวิว@
แสงแดดสัมผัสผิวมิคลายหนาวสั่น#
ยามนั้นผันผ่านไปอย่างมิมีผู้ใดรู้ตัว@
วันหนึ่งหากหมอกมัวในใจได้สลาย#
เพียงหวังไว้ให้เราสองคิดถึงช่วงเวลาที่น่าจดจำ@
ชั่วชีวิตสุดขอบฟ้ามิอาจพบ#
ได้บรรจบแค่ฝั่งหนึ่งคะนึงฝัน#
แม้นมิอาจพบพานทั้งชีวัน@
แค่พบในความฝันก็พอใจ@
]
ผม@
เพื่อน#