พูดแล้วพวกคุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า

จะว่าฉันบ้าก็ได้นะ แต่ฉันเป็นคนมีซิกเซ้นส์ ตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน ฉันพยายามที่จะตั้งใจศึกษาธรรมฝึกจิตตน แต่เหมือนยิ่งตั้งใจ มันก็ยิ่งมีอะไรมาต้าน ตอนที่ยังมองไม่เห็นผี ไม่เห็นเทวดา ไม่เคยมีใครมายุ่งกับชีวิต แต่พอเริ่มมองเห็นปั๊ป มีคนพยายามมาเป่าหู มารบเร้า พูดว่า ไม่ต้องไปฝึกหรอกจิตน่ะ ในโลกนี้มีอะไรที่น่ารื่นรมย์ให้สัมผัสกว่าเยอะแยะ แล้วคำพูดประมาณนี้ก็ออกมาจากปากพ่อแท้ๆด้วยว่า ไม่ต้องไปสนใจหรอกศึกษาธรรมน่ะ รอบั้นปลายชีวิตก่อน ค่อยทำ สิ่งที่มันมากวนใจก็คือ ทุกๆวันพระ โดยเฉพาะวันพระใหญ่ เราจะมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว แล้วก็ เหมือนยิ่งพยายามฝึกจิต กิเลสในใจยิ่งฟู ยิ่งหนาขึ้น วันพระใหญ่ทีไร เห็นหน้าผู้ชาย แล้วอยากลากผู้ชายไปข่มขืน แล้วเวลาผ่านไป ห้าปี สิบปี จิตใจเราเหมือนถูกลากโดยคนที่ไม่ปรารถนาจะเห็นเราเจริญ มีแต่ผู้ชายหล่อๆ แบบหล่อมากมาเข้าหา เหมือนมายั่วยวน แล้วนับวัน เรายิ่งกลัวใจตัวเองว่า จะกลายเป็นคนเจ้าชู้ กลัวใจตัวเองว่าจะหักห้ามใจตัวเองไม่อยู่แล้วนอนกับเค้าไปทั่ว รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง รู้สึกเหมือนกับกำลังจะกลายเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง ลองคบแฟนมีแฟนแล้ว มันก็ไม่รู้สึกเหมือนจะดีขึ้น รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า
ใครคิดว่าเราแต่งเรื่องจะว่าให้เราก็ได้นะ เราไม่โกรธ
แต่มันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ
ถ้าเป็นพวกคุณ พวกคุณจะทำยังไง ปัญหาคือ ฉันหลบลี้หนีหน้าผู้คนไปอยู่ในป่าไม่ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3


ยังมีคนเข้าใจผิดและสับสนเกี่ยวกับอาการของโรค Hysteria กับ Nymphomaniac  เยอะเลยค่ะ  มันไม่เหมือนกันนะคะ

ทั้งสองอาการผิดปกตินี้ ถือเป็นอาการผิดปกติทางจิต  แต่สิ่งกระตุ้นและความต้องการ-การตอบสนองเป็นคนละเรื่องค่ะ

คนที่เป็น Hysteria มักจะชอบเรียกร้องความสนใจและอยากจะรู้สึกว่าได้รับความรัก อยากรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ อยากรู้สึกว่าถูกรักถูกเอาใจถูกให้ความสนใจ (จึงเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นอยู่ตลอดเวลา . . ในพี่พันนี่ก้อมีเยอะค่ะ ทั้งที่รู้ตัวและไม่ยอมรับและทั้งที่รู้ตัว )  ทำให้คนที่ป่วยด้วยโรคนี้จุพยายามจินตนาการหรือทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างและทำเรื่องสารพัดแม้แต่เรื่องที่น่าอาย  แค่เพื่อให้ได้รับความสนใจหรือเห็นใจแบบที่ตัวเองต้องการ  (ต่อให้จะเป็นความรักที่จอมปลอมหรืออะไรก็ตาม  แต่เค้าจะมีความสามารถจินตนาการและหลอกตัวเองไปได้เรื่อย เรื่อย จนแยกความจริงกับเรื่องที่ตัวเองมโนไม่ออกในซักวันนึง)


กลุ่มคนที่เป็นโรคนี้คือ ต้องบอกว่ามักจะไม่ฉลาดนัก  และเกือบจะเข้าขั้นออทิสติก  คือ  จะมีความฉลาดทางอารมณ์ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหรือการหักห้ามใจอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานของคนที่เป็นปกติแต่ยังไม่ถึงกับคนที่มีภาวะออทิสติกค่ะ


เพี้ยนจริงจัง


ส่วนอาการของ Nymphomaniac นั้นจะถูกกระตุ้นเร้าด้วยความรู้สึกทางเพศและทำให้อยากมีเพศสัมพันธ์หรือมีกิจกรรมทางเพศตลอดเวลา  มักจะชอบจินตนาการถึงตัวเองที่ได้ร่วมเพศกับบุคคลอื่นแบบไร้เหตุผล  และนำไปสู่การนำตัวเองเข้าไปพยายามเกี่ยวข้องทางด้านของเรื่องเพศกับผู้อื่นตลอดเวลา  คือ  ออกอาการ หรือ ชอบบรรยายจินตนาการของตัวเองว่าต้องการบุคคลอื่นมาตอบสนองอารมณ์ทางเพศของตัวเองแบบไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้ตลอดเวลา  นึกภาพว่า  ใช้ชีวิตอยู่ในฤดูผสมพันธุ์ตลอดเวลา 12 เดือนไม่พักและพยายามส่งกลิ่นเรียกตัวผู้หรือตัวเมียตลอดเวลานั่นแหละค่ะถ้าจะให้เข้าใจง่าย


และจะมีคนที่เป็นทั้งสองโรคนี้แบบคอมโบในเวลาเดียวกันด้วย  ทั้งนี้ทั้งนั้น  ก้อต้องปรึกษานักจิตเพื่อประเมินดูว่า  ปมในใจและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาเป็นอย่างไร  และเป็นอาการจากความเจ็บป่วยจริงหรือไม่  (เพราะความเจ็บป่วยทางจิตก็ต้องได้รับการรักษาเหมือนกัน  นักจิตต้องประเมินและต้องส่งต่อให้จิตแพทย์เพื่อรักษาความเจ็บป่วย  ก้อเหมือนความเจ็บป่วยทางกายนี่แหละค่ะ ไม่งั้นก็จะอยู่เป็นภาระกับสังคมและคนรอบข้างเพราะแยกแยะผิดผิดชอบชั่วดีเองไม่ได้)  


แต่ก้อจะมีที่ไม่ได้เป็นด้วยอาการทางจิตอย่างเดียวนะคะ  มันจะมีคนที่นิสัยหรือที่เราเรียกว่าสัน…เค้าเป็นไปในทางนั้นด้วย  ไม่ได้ป่วย แค่อยาก  ไม่มีหิริโอตัปปะหริอมีศีลธรรมต่ำ  อะไรแบบนั้น

เราเอง  คงแนะนำให้พบนักจิตวิทยาเพื่อช่วยเหลือและประเมินให้อย่างถูกต้องค่ะ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่