สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ยังมีคนเข้าใจผิดและสับสนเกี่ยวกับอาการของโรค Hysteria กับ Nymphomaniac เยอะเลยค่ะ มันไม่เหมือนกันนะคะ
ทั้งสองอาการผิดปกตินี้ ถือเป็นอาการผิดปกติทางจิต แต่สิ่งกระตุ้นและความต้องการ-การตอบสนองเป็นคนละเรื่องค่ะ
คนที่เป็น Hysteria มักจะชอบเรียกร้องความสนใจและอยากจะรู้สึกว่าได้รับความรัก อยากรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ อยากรู้สึกว่าถูกรักถูกเอาใจถูกให้ความสนใจ (จึงเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นอยู่ตลอดเวลา . . ในพี่พันนี่ก้อมีเยอะค่ะ ทั้งที่รู้ตัวและไม่ยอมรับและทั้งที่รู้ตัว ) ทำให้คนที่ป่วยด้วยโรคนี้จุพยายามจินตนาการหรือทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างและทำเรื่องสารพัดแม้แต่เรื่องที่น่าอาย แค่เพื่อให้ได้รับความสนใจหรือเห็นใจแบบที่ตัวเองต้องการ (ต่อให้จะเป็นความรักที่จอมปลอมหรืออะไรก็ตาม แต่เค้าจะมีความสามารถจินตนาการและหลอกตัวเองไปได้เรื่อย เรื่อย จนแยกความจริงกับเรื่องที่ตัวเองมโนไม่ออกในซักวันนึง)
กลุ่มคนที่เป็นโรคนี้คือ ต้องบอกว่ามักจะไม่ฉลาดนัก และเกือบจะเข้าขั้นออทิสติก คือ จะมีความฉลาดทางอารมณ์ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหรือการหักห้ามใจอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานของคนที่เป็นปกติแต่ยังไม่ถึงกับคนที่มีภาวะออทิสติกค่ะ
ส่วนอาการของ Nymphomaniac นั้นจะถูกกระตุ้นเร้าด้วยความรู้สึกทางเพศและทำให้อยากมีเพศสัมพันธ์หรือมีกิจกรรมทางเพศตลอดเวลา มักจะชอบจินตนาการถึงตัวเองที่ได้ร่วมเพศกับบุคคลอื่นแบบไร้เหตุผล และนำไปสู่การนำตัวเองเข้าไปพยายามเกี่ยวข้องทางด้านของเรื่องเพศกับผู้อื่นตลอดเวลา คือ ออกอาการ หรือ ชอบบรรยายจินตนาการของตัวเองว่าต้องการบุคคลอื่นมาตอบสนองอารมณ์ทางเพศของตัวเองแบบไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้ตลอดเวลา นึกภาพว่า ใช้ชีวิตอยู่ในฤดูผสมพันธุ์ตลอดเวลา 12 เดือนไม่พักและพยายามส่งกลิ่นเรียกตัวผู้หรือตัวเมียตลอดเวลานั่นแหละค่ะถ้าจะให้เข้าใจง่าย
และจะมีคนที่เป็นทั้งสองโรคนี้แบบคอมโบในเวลาเดียวกันด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ก้อต้องปรึกษานักจิตเพื่อประเมินดูว่า ปมในใจและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาเป็นอย่างไร และเป็นอาการจากความเจ็บป่วยจริงหรือไม่ (เพราะความเจ็บป่วยทางจิตก็ต้องได้รับการรักษาเหมือนกัน นักจิตต้องประเมินและต้องส่งต่อให้จิตแพทย์เพื่อรักษาความเจ็บป่วย ก้อเหมือนความเจ็บป่วยทางกายนี่แหละค่ะ ไม่งั้นก็จะอยู่เป็นภาระกับสังคมและคนรอบข้างเพราะแยกแยะผิดผิดชอบชั่วดีเองไม่ได้)
แต่ก้อจะมีที่ไม่ได้เป็นด้วยอาการทางจิตอย่างเดียวนะคะ มันจะมีคนที่นิสัยหรือที่เราเรียกว่าสัน…เค้าเป็นไปในทางนั้นด้วย ไม่ได้ป่วย แค่อยาก ไม่มีหิริโอตัปปะหริอมีศีลธรรมต่ำ อะไรแบบนั้น
เราเอง คงแนะนำให้พบนักจิตวิทยาเพื่อช่วยเหลือและประเมินให้อย่างถูกต้องค่ะ
ยังมีคนเข้าใจผิดและสับสนเกี่ยวกับอาการของโรค Hysteria กับ Nymphomaniac เยอะเลยค่ะ มันไม่เหมือนกันนะคะ
ทั้งสองอาการผิดปกตินี้ ถือเป็นอาการผิดปกติทางจิต แต่สิ่งกระตุ้นและความต้องการ-การตอบสนองเป็นคนละเรื่องค่ะ
คนที่เป็น Hysteria มักจะชอบเรียกร้องความสนใจและอยากจะรู้สึกว่าได้รับความรัก อยากรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ อยากรู้สึกว่าถูกรักถูกเอาใจถูกให้ความสนใจ (จึงเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นอยู่ตลอดเวลา . . ในพี่พันนี่ก้อมีเยอะค่ะ ทั้งที่รู้ตัวและไม่ยอมรับและทั้งที่รู้ตัว ) ทำให้คนที่ป่วยด้วยโรคนี้จุพยายามจินตนาการหรือทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างและทำเรื่องสารพัดแม้แต่เรื่องที่น่าอาย แค่เพื่อให้ได้รับความสนใจหรือเห็นใจแบบที่ตัวเองต้องการ (ต่อให้จะเป็นความรักที่จอมปลอมหรืออะไรก็ตาม แต่เค้าจะมีความสามารถจินตนาการและหลอกตัวเองไปได้เรื่อย เรื่อย จนแยกความจริงกับเรื่องที่ตัวเองมโนไม่ออกในซักวันนึง)
กลุ่มคนที่เป็นโรคนี้คือ ต้องบอกว่ามักจะไม่ฉลาดนัก และเกือบจะเข้าขั้นออทิสติก คือ จะมีความฉลาดทางอารมณ์ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหรือการหักห้ามใจอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานของคนที่เป็นปกติแต่ยังไม่ถึงกับคนที่มีภาวะออทิสติกค่ะ
ส่วนอาการของ Nymphomaniac นั้นจะถูกกระตุ้นเร้าด้วยความรู้สึกทางเพศและทำให้อยากมีเพศสัมพันธ์หรือมีกิจกรรมทางเพศตลอดเวลา มักจะชอบจินตนาการถึงตัวเองที่ได้ร่วมเพศกับบุคคลอื่นแบบไร้เหตุผล และนำไปสู่การนำตัวเองเข้าไปพยายามเกี่ยวข้องทางด้านของเรื่องเพศกับผู้อื่นตลอดเวลา คือ ออกอาการ หรือ ชอบบรรยายจินตนาการของตัวเองว่าต้องการบุคคลอื่นมาตอบสนองอารมณ์ทางเพศของตัวเองแบบไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้ตลอดเวลา นึกภาพว่า ใช้ชีวิตอยู่ในฤดูผสมพันธุ์ตลอดเวลา 12 เดือนไม่พักและพยายามส่งกลิ่นเรียกตัวผู้หรือตัวเมียตลอดเวลานั่นแหละค่ะถ้าจะให้เข้าใจง่าย
และจะมีคนที่เป็นทั้งสองโรคนี้แบบคอมโบในเวลาเดียวกันด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ก้อต้องปรึกษานักจิตเพื่อประเมินดูว่า ปมในใจและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาเป็นอย่างไร และเป็นอาการจากความเจ็บป่วยจริงหรือไม่ (เพราะความเจ็บป่วยทางจิตก็ต้องได้รับการรักษาเหมือนกัน นักจิตต้องประเมินและต้องส่งต่อให้จิตแพทย์เพื่อรักษาความเจ็บป่วย ก้อเหมือนความเจ็บป่วยทางกายนี่แหละค่ะ ไม่งั้นก็จะอยู่เป็นภาระกับสังคมและคนรอบข้างเพราะแยกแยะผิดผิดชอบชั่วดีเองไม่ได้)
แต่ก้อจะมีที่ไม่ได้เป็นด้วยอาการทางจิตอย่างเดียวนะคะ มันจะมีคนที่นิสัยหรือที่เราเรียกว่าสัน…เค้าเป็นไปในทางนั้นด้วย ไม่ได้ป่วย แค่อยาก ไม่มีหิริโอตัปปะหริอมีศีลธรรมต่ำ อะไรแบบนั้น
เราเอง คงแนะนำให้พบนักจิตวิทยาเพื่อช่วยเหลือและประเมินให้อย่างถูกต้องค่ะ
แสดงความคิดเห็น
พูดแล้วพวกคุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า
ใครคิดว่าเราแต่งเรื่องจะว่าให้เราก็ได้นะ เราไม่โกรธ
แต่มันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ
ถ้าเป็นพวกคุณ พวกคุณจะทำยังไง ปัญหาคือ ฉันหลบลี้หนีหน้าผู้คนไปอยู่ในป่าไม่ได้