Fixed Mindset vs. Growth Mindset
เปรียบเทียบง่ายๆ
Fixed Mindset คือ ความเชื่อที่ว่าความสามารถของเราเป็นสิ่งที่กำหนดมาแล้วและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น "ฉันไม่เก่งคณิตศาสตร์หรอก มันอยู่ในสายเลือด" หรือ "ฉันไม่ถนัดเรื่องศิลปะ"
Growth Mindset คือ ความเชื่อที่ว่าความสามารถของเราสามารถพัฒนาได้ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝน เช่น "ฉันอาจจะยังไม่เก่งคณิตศาสตร์ตอนนี้ แต่ถ้าฉันตั้งใจเรียนรู้ ฉันก็เก่งขึ้นได้" หรือ "ฉันอยากจะวาดรูปให้สวยขึ้น ฉันจะลองฝึกฝนดู"
การเปรียบเปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่าง Fixed Mindset กับ Growth Mindset
Fixed Mindset มักจะมองว่าตัวเองนั้นเก่งอยู่แล้ว เป็นคนที่ยึดติด พอผิดหวังอะไรก็มักจะโทษตัวเอง และ ชอบคิดว่าตัวเองไม่ดี ตัดพ้อตัวเองต่างๆนานาๆ เป็นทัศนคติแห่งความล้มเหลว
ทัศนคติเชิงลบ เวลาเจอคำวิจาร์ณต่างๆนานาๆ ก็มักจะยึดติดกับอดีตอยู่เป็นประจำ
คนกลุ่มนี้จำเป็นต้องพบจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินอาการและวินิจฉัยโรค หรือ พฤติกรรม เพื่อให้เขา หรือ เธอคนนั้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตอยู่บนสังคมได้ปกติสุข
แต่ในขณะเดียวกัน คนประเภท
Growth Mindset ต่อให้เค้าเจอเรืองราวที่แย่ๆ เจอความคิดที่ขัดแย้งต่อตัวตนของเค้า แล้วเค้าประสบกับปัญหาที่พบเจอหลายๆด้าน เค้าก็จะเอาสิ่งที่เค้าประสบพบเจอเหล่านี้
นำมาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เป็นทัศนคติเชิงบวก พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสแก่ตนเองอยู่เสมอ กล้าเผชิญหน้าต่อความล้มเหลว เพื่อให้เกิดชัยชนะต่อตัวเอง
คำพูดที่ใช้กันของคนที่มีทัศนคติเชิง Fixed Mindset
- "เราทำไม่ได้หรอก"
- "เราไม่เก่งพอ"
- "เรามันคนไร้ประโยชน์ ไร้ค่า"
- "เราเป็นคนที่ไม่มีความหมายของใคร"
- "เราเป็นส่วนเกินของคนอื่น"
- "เราก็แค่คนที่มีอาถรรพ์ในตัวเองคนนึง
คำพูดที่ใช้กันของคนที่มีทัศนคติเชิง Growth Mindset
-"เราจะพยายามให้ดีที่สุด"
-"ฉันจะเรียนรู้จากความผิดพลาด"
-"เราจะสู้ต่อไป ต่อให้ข้างหน้ามีอุปสรรคอะไรขวางทางก็ตาม"
-"เราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้"
-"เราเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น สามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับโลกใบนั
-"อาถรรพ์ในตัวหรือจะสู้ความเพียรพยายามในตัวเองที่ตนมีเพื่ออนาคตที่สดใส"
เหตุผลที่ Growth Mindset สำคัญกว่า Fixed Mindset นั่นก็คือ !!!!
ส่งเสริมการเรียนรู้ คนที่มีทัศนคติเชิง Growth Mindset มักจะเปิดรับความท้าทายและมองหาโอกาสในการพัฒนาตนเองเสมอ รวมไปถึง การพัฒนาตัวเองเช่นนี้ ยอมส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของเราในทุกๆด้สน
เพิ่มความมั่นใจ เมื่อประสบความสำเร็จจากการฝึกฝน คนที่มีทัศนคติเชิง Growth Mindset จะมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น กล้าเสี่ยง กล้าลงมือทำ เพื่อความสำเร็จและผลงานที่เห็นเด่นได้ชัดเจน
สร้างแรงบันดาลใจ การเห็นพัฒนาการของตนเองจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาต่อไป จะเป็นผู้นำทางความคิด ทางจิตวิญญาณ เราไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอื่นเสมอไป หากเรามีทัศนคติเชิงบวก หรือ growth mindset อยู่ในตัวเอง
ปรับตัวได้ดี เมื่อเจออุปสรรค คนที่มีทัศนคติ Growth Mindset จะสามารถปรับตัวและหาทางแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าคนประเภท Fixed Mindset ที่ไม่สามารถแก้ไขหรือปรับตัวให้เข้ากับปัญหาต่างๆ จนนำไปสู่
ปัญหาสุขภาพจิตตามมา
เพราะฉะนั้นแล้ว การมี Growth Mindset จะช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาตนเองได้อย่างไม่หยุดยั้ง และนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของตัวเอง แล้วจะส่งผลดีต่อตัวเราเอง ส่งผลดีต่อหน้าที่การงานของตนเองอีกด้วย
ความแตกต่างระหว่าง fixed mindset กับ growth mindset
Fixed Mindset vs. Growth Mindset
เปรียบเทียบง่ายๆ
Fixed Mindset คือ ความเชื่อที่ว่าความสามารถของเราเป็นสิ่งที่กำหนดมาแล้วและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น "ฉันไม่เก่งคณิตศาสตร์หรอก มันอยู่ในสายเลือด" หรือ "ฉันไม่ถนัดเรื่องศิลปะ"
Growth Mindset คือ ความเชื่อที่ว่าความสามารถของเราสามารถพัฒนาได้ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝน เช่น "ฉันอาจจะยังไม่เก่งคณิตศาสตร์ตอนนี้ แต่ถ้าฉันตั้งใจเรียนรู้ ฉันก็เก่งขึ้นได้" หรือ "ฉันอยากจะวาดรูปให้สวยขึ้น ฉันจะลองฝึกฝนดู"
การเปรียบเปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่าง Fixed Mindset กับ Growth Mindset
Fixed Mindset มักจะมองว่าตัวเองนั้นเก่งอยู่แล้ว เป็นคนที่ยึดติด พอผิดหวังอะไรก็มักจะโทษตัวเอง และ ชอบคิดว่าตัวเองไม่ดี ตัดพ้อตัวเองต่างๆนานาๆ เป็นทัศนคติแห่งความล้มเหลว ทัศนคติเชิงลบ เวลาเจอคำวิจาร์ณต่างๆนานาๆ ก็มักจะยึดติดกับอดีตอยู่เป็นประจำ คนกลุ่มนี้จำเป็นต้องพบจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินอาการและวินิจฉัยโรค หรือ พฤติกรรม เพื่อให้เขา หรือ เธอคนนั้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตอยู่บนสังคมได้ปกติสุข
แต่ในขณะเดียวกัน คนประเภท Growth Mindset ต่อให้เค้าเจอเรืองราวที่แย่ๆ เจอความคิดที่ขัดแย้งต่อตัวตนของเค้า แล้วเค้าประสบกับปัญหาที่พบเจอหลายๆด้าน เค้าก็จะเอาสิ่งที่เค้าประสบพบเจอเหล่านี้ นำมาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เป็นทัศนคติเชิงบวก พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสแก่ตนเองอยู่เสมอ กล้าเผชิญหน้าต่อความล้มเหลว เพื่อให้เกิดชัยชนะต่อตัวเอง
คำพูดที่ใช้กันของคนที่มีทัศนคติเชิง Fixed Mindset
- "เราทำไม่ได้หรอก"
- "เราไม่เก่งพอ"
- "เรามันคนไร้ประโยชน์ ไร้ค่า"
- "เราเป็นคนที่ไม่มีความหมายของใคร"
- "เราเป็นส่วนเกินของคนอื่น"
- "เราก็แค่คนที่มีอาถรรพ์ในตัวเองคนนึง
คำพูดที่ใช้กันของคนที่มีทัศนคติเชิง Growth Mindset
-"เราจะพยายามให้ดีที่สุด"
-"ฉันจะเรียนรู้จากความผิดพลาด"
-"เราจะสู้ต่อไป ต่อให้ข้างหน้ามีอุปสรรคอะไรขวางทางก็ตาม"
-"เราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้"
-"เราเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น สามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับโลกใบนั
-"อาถรรพ์ในตัวหรือจะสู้ความเพียรพยายามในตัวเองที่ตนมีเพื่ออนาคตที่สดใส"
เหตุผลที่ Growth Mindset สำคัญกว่า Fixed Mindset นั่นก็คือ !!!!
ส่งเสริมการเรียนรู้ คนที่มีทัศนคติเชิง Growth Mindset มักจะเปิดรับความท้าทายและมองหาโอกาสในการพัฒนาตนเองเสมอ รวมไปถึง การพัฒนาตัวเองเช่นนี้ ยอมส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของเราในทุกๆด้สน
เพิ่มความมั่นใจ เมื่อประสบความสำเร็จจากการฝึกฝน คนที่มีทัศนคติเชิง Growth Mindset จะมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น กล้าเสี่ยง กล้าลงมือทำ เพื่อความสำเร็จและผลงานที่เห็นเด่นได้ชัดเจน
สร้างแรงบันดาลใจ การเห็นพัฒนาการของตนเองจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาต่อไป จะเป็นผู้นำทางความคิด ทางจิตวิญญาณ เราไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอื่นเสมอไป หากเรามีทัศนคติเชิงบวก หรือ growth mindset อยู่ในตัวเอง
ปรับตัวได้ดี เมื่อเจออุปสรรค คนที่มีทัศนคติ Growth Mindset จะสามารถปรับตัวและหาทางแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าคนประเภท Fixed Mindset ที่ไม่สามารถแก้ไขหรือปรับตัวให้เข้ากับปัญหาต่างๆ จนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตตามมา
เพราะฉะนั้นแล้ว การมี Growth Mindset จะช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาตนเองได้อย่างไม่หยุดยั้ง และนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของตัวเอง แล้วจะส่งผลดีต่อตัวเราเอง ส่งผลดีต่อหน้าที่การงานของตนเองอีกด้วย