👵👵👵
เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ดูหนังเรื่องนี้มากันแล้ว ซึ่งกระแสหนังปในทางชื่นชมแทบจะ 100% แต่ผมเองเพิ่งได้มีโอกาสไปดูและตอนแรกก็ไม่ได้หวังอะไรมากนัก แต่พอดูไปดูไป อารมณ์มันเหมือนกับเราค่อยๆ โดนหนังตอดอารมณ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหมัดฮุคที่ทำให้เราอยู่ดีๆ ก็น้ำตาร่วงเฉยเลย
👵👵👵
เอ็ม เด็กที่ตัดสินใจดรอปเรียน เพื่อมาเอาดีทางการแคสต์เกมแต่ทำยังไงก็ไม่รุ่ง เอ็มเลยคิดว่าจะรวยด้วยการทำงานสบายๆ แบบ มุ่ย ลูกพี่ลูกน้อง ที่รับหน้าที่ดูแลอากงที่ป่วยระยะสุดท้าย จนกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่ได้รับมรดกเป็นบ้านราคากว่าสิบล้าน เส้นทางเศรษฐีอยู่ตรงหน้า เอ็มจึงอาสาไปดูแล อาม่า ที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง และน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินปี โดยหวังว่าจะได้รับมรดกหลักล้านเช่นกัน เมื่อหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี ต้องมาอยู่ร่วมกัน การต่อปากต่อคำจึงเกิดขึ้นในทุกโมเมนต์แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาที่ให้อาม่าลืมเหงาจากการเฝ้ารอลูกหลานที่จะมาพร้อมหน้ากันตามเทศกาลต่างๆ เท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่า งานที่เริ่มต้นทำเพราะหวังรวย จะทำให้คนห่วยๆ อย่างเอ็มได้รู้ว่า คำว่า "ครอบครัว" มีค่ามากกว่าเงิน
👵👵👵
ต้องบอกว่าหนังเดินเรื่องได้แบบที่ตอนแรกผมคิดว่า คงไม่ได้มีอะไรมากนัก มันคือหนังที่เล่าวิถีชีวิตครอบครัวคนจีนที่หลายๆ คนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ตัวผมเองก็อยู่ในครอบครัวที่มีลักษณะคล้ายๆ แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งหนังก็บอกเล่าความเป็นครอบครัวที่เริ่มจะลืมเลือนความผูกพันที่มีให้กันด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการออกไปมีครอบครัวของตัวเอง การทำมาหากิน หรือแม้กระทั่งเรื่องของความแตกต่างทางด้านอายุและวัย
👵👵👵
หนังค่อยๆ เล่าให้เรามีความผูกพันไปกับตัวละครหลักสองคนคือ เอ็ม และ อาม่า ที่จะค่อยๆ ซึมซับความรักและความห่วงใยที่มีให้กัน ทั้งๆ ที่ตอนแรก เอ็ม อาจจะไม่ได้มีความผูกพันกับ อาม่า มากมายเลยด้วยซ้ำ แต่หนังค่อยๆ พยายามทำให้เห็นว่า การได้ใช้เวลาร่วมกัน การได้มาอยู่ในวิถีชีวิตเดียวกัน มันกลับทำให้ความรักความผูกพันที่มันเคยจางหายไปแล้ว กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาได้อีกครั้ง
👵👵👵
หนังค่อนข้างทำการบ้านมาดีกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของครอบครัวชาวจีนในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพูดคุยกันในครอบครัว ความรู้สึกของคนแก่รุ่นอาม่าที่ส่วนใหญ่จะปากหนัก ไม่ค่อยพูดอะไร แต่ในใจลึกๆ เต็มไปด้วยความห่วงหา ห่วงใย และความคิดถึงลูกหลาน รวมไปถึงความโหยหาความรักของคนแก่ที่เชื่อว่า ยิ่งดูไปเรื่อยๆ เราจะยิ่งสะท้อนและนึกถึงคนในครอบครัวขอเรามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ผมที่ดูแล้วยังนึกถึงอาม่าตอนแกยังมีชีวิตอยู่จริงๆ
👵👵👵
ถ้าเปรียบเทียบหนังเรื่องนี้กับการชกมวย ก็เปรียบได้กับการที่หนังค่อยๆ ปล่อยหมัดแย็บดูเชิงคู่ต่อสู้มาเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่หนังเริ่มเห็นแล้วว่า เอาคนดูอยู่แน่ คนดูเสร็จแน่ หนังก็เริ่มหล่อยหมัดฮุค หมัดบวก เข้าที่จุดน็อคของคนดูอย่างจัง และก็ยังปล่อยออกมาเรื่อยๆ จนคนดูเมาหมัด ตัวผมเองเริ่มที่จะโดนหมัดฮุคของหนังในตอนที่ อาม่า ปวดท้องหนักจนเพ้อว่า อากง อาเหล่ากง อาเหล่าม่า มาหาและชวนไปอยู่ด้วย ฉากนี้แหละที่น้ำตาผมหยดแหมะลงมาโดยไม่รู้ตัว เพราะมันทำให้ผมนึกถึงตอนที่อาม่าผมไม่สบายเข้าโรงพยาบาลแล้วพูดแบบนี้เหมือนกันตอนก่อนที่แกจะเสียชีวิตด้วยโรคชรา
👵👵👵
เรื่องที่ต้องชื่นชมหนังมากๆ นอกจากอารมณ์ร่วมที่หนังสร้างมันขึ้นมาอย่างดีเยียมแล้ว นักแสดงยังถือว่าเป็นจุดแข็งเอามากๆ ของหนัง ผมไม่พูดถึงนักแสดงอาชีพอย่าง บิวกิ้น ที่เป็นตัวเด่นที่สุดคนหนึ่งของหนัง หรือ พี่ดู๋ สัญญา หรือ คุณเผือก แต่ผมกลับชื่นชอบ คุณยายแต๋ว ที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งมีผลงานเรื่องนี้เรื่องแรก แกทำได้อย่างสุดยอด และทำให้เราเห็นถึงความเหงาของคนแก่วัยนี้ได้ดีมากๆ
👵👵👵
คือเอาจริงๆ หนังไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยแม้แต่น้อย มันคือการเล่าเรื่องราวความผูกพันของครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่งที่เรียกว่า อารมณ์แบบนี้แทบจะทุกครอบครัวต้องเคยประสบพบพานกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่การที่หนังสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม มันเลยทำให้คนดูอินและพร้อมจะปล่อยโฮได้ไม่ยากเลย
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] หลานม่า - หนังที่สะท้อนคำว่าครอบครัวที่ถูกลืมเลือนไป หนังมาเนิบๆ แต่หมัดฮุคหนักจนน้ำตาร่วง
👵👵👵
เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ดูหนังเรื่องนี้มากันแล้ว ซึ่งกระแสหนังปในทางชื่นชมแทบจะ 100% แต่ผมเองเพิ่งได้มีโอกาสไปดูและตอนแรกก็ไม่ได้หวังอะไรมากนัก แต่พอดูไปดูไป อารมณ์มันเหมือนกับเราค่อยๆ โดนหนังตอดอารมณ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหมัดฮุคที่ทำให้เราอยู่ดีๆ ก็น้ำตาร่วงเฉยเลย
👵👵👵
เอ็ม เด็กที่ตัดสินใจดรอปเรียน เพื่อมาเอาดีทางการแคสต์เกมแต่ทำยังไงก็ไม่รุ่ง เอ็มเลยคิดว่าจะรวยด้วยการทำงานสบายๆ แบบ มุ่ย ลูกพี่ลูกน้อง ที่รับหน้าที่ดูแลอากงที่ป่วยระยะสุดท้าย จนกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่ได้รับมรดกเป็นบ้านราคากว่าสิบล้าน เส้นทางเศรษฐีอยู่ตรงหน้า เอ็มจึงอาสาไปดูแล อาม่า ที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง และน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินปี โดยหวังว่าจะได้รับมรดกหลักล้านเช่นกัน เมื่อหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี ต้องมาอยู่ร่วมกัน การต่อปากต่อคำจึงเกิดขึ้นในทุกโมเมนต์แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาที่ให้อาม่าลืมเหงาจากการเฝ้ารอลูกหลานที่จะมาพร้อมหน้ากันตามเทศกาลต่างๆ เท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่า งานที่เริ่มต้นทำเพราะหวังรวย จะทำให้คนห่วยๆ อย่างเอ็มได้รู้ว่า คำว่า "ครอบครัว" มีค่ามากกว่าเงิน
👵👵👵
ต้องบอกว่าหนังเดินเรื่องได้แบบที่ตอนแรกผมคิดว่า คงไม่ได้มีอะไรมากนัก มันคือหนังที่เล่าวิถีชีวิตครอบครัวคนจีนที่หลายๆ คนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ตัวผมเองก็อยู่ในครอบครัวที่มีลักษณะคล้ายๆ แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งหนังก็บอกเล่าความเป็นครอบครัวที่เริ่มจะลืมเลือนความผูกพันที่มีให้กันด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการออกไปมีครอบครัวของตัวเอง การทำมาหากิน หรือแม้กระทั่งเรื่องของความแตกต่างทางด้านอายุและวัย
👵👵👵
หนังค่อยๆ เล่าให้เรามีความผูกพันไปกับตัวละครหลักสองคนคือ เอ็ม และ อาม่า ที่จะค่อยๆ ซึมซับความรักและความห่วงใยที่มีให้กัน ทั้งๆ ที่ตอนแรก เอ็ม อาจจะไม่ได้มีความผูกพันกับ อาม่า มากมายเลยด้วยซ้ำ แต่หนังค่อยๆ พยายามทำให้เห็นว่า การได้ใช้เวลาร่วมกัน การได้มาอยู่ในวิถีชีวิตเดียวกัน มันกลับทำให้ความรักความผูกพันที่มันเคยจางหายไปแล้ว กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาได้อีกครั้ง
👵👵👵
หนังค่อนข้างทำการบ้านมาดีกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของครอบครัวชาวจีนในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพูดคุยกันในครอบครัว ความรู้สึกของคนแก่รุ่นอาม่าที่ส่วนใหญ่จะปากหนัก ไม่ค่อยพูดอะไร แต่ในใจลึกๆ เต็มไปด้วยความห่วงหา ห่วงใย และความคิดถึงลูกหลาน รวมไปถึงความโหยหาความรักของคนแก่ที่เชื่อว่า ยิ่งดูไปเรื่อยๆ เราจะยิ่งสะท้อนและนึกถึงคนในครอบครัวขอเรามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ผมที่ดูแล้วยังนึกถึงอาม่าตอนแกยังมีชีวิตอยู่จริงๆ
👵👵👵
ถ้าเปรียบเทียบหนังเรื่องนี้กับการชกมวย ก็เปรียบได้กับการที่หนังค่อยๆ ปล่อยหมัดแย็บดูเชิงคู่ต่อสู้มาเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่หนังเริ่มเห็นแล้วว่า เอาคนดูอยู่แน่ คนดูเสร็จแน่ หนังก็เริ่มหล่อยหมัดฮุค หมัดบวก เข้าที่จุดน็อคของคนดูอย่างจัง และก็ยังปล่อยออกมาเรื่อยๆ จนคนดูเมาหมัด ตัวผมเองเริ่มที่จะโดนหมัดฮุคของหนังในตอนที่ อาม่า ปวดท้องหนักจนเพ้อว่า อากง อาเหล่ากง อาเหล่าม่า มาหาและชวนไปอยู่ด้วย ฉากนี้แหละที่น้ำตาผมหยดแหมะลงมาโดยไม่รู้ตัว เพราะมันทำให้ผมนึกถึงตอนที่อาม่าผมไม่สบายเข้าโรงพยาบาลแล้วพูดแบบนี้เหมือนกันตอนก่อนที่แกจะเสียชีวิตด้วยโรคชรา
👵👵👵
เรื่องที่ต้องชื่นชมหนังมากๆ นอกจากอารมณ์ร่วมที่หนังสร้างมันขึ้นมาอย่างดีเยียมแล้ว นักแสดงยังถือว่าเป็นจุดแข็งเอามากๆ ของหนัง ผมไม่พูดถึงนักแสดงอาชีพอย่าง บิวกิ้น ที่เป็นตัวเด่นที่สุดคนหนึ่งของหนัง หรือ พี่ดู๋ สัญญา หรือ คุณเผือก แต่ผมกลับชื่นชอบ คุณยายแต๋ว ที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งมีผลงานเรื่องนี้เรื่องแรก แกทำได้อย่างสุดยอด และทำให้เราเห็นถึงความเหงาของคนแก่วัยนี้ได้ดีมากๆ
👵👵👵
คือเอาจริงๆ หนังไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยแม้แต่น้อย มันคือการเล่าเรื่องราวความผูกพันของครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่งที่เรียกว่า อารมณ์แบบนี้แทบจะทุกครอบครัวต้องเคยประสบพบพานกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่การที่หนังสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม มันเลยทำให้คนดูอินและพร้อมจะปล่อยโฮได้ไม่ยากเลย
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้