เห็น รีวีว ในพันทีป เยอะแล้ว รูปจากภาพยนต์มากมาย กระทู้นี้ ขอลงรูปเดียว แล้ว เข้าเนื้อหาหนังเลยนะครับ
ก่อนอื่น รูปที่เลือกมา ทำไมถึงเลือกรูปนี้ ขอแจ้งตอนท้ายกระทู้ครับ
หลานม่า คนชอบเยอะครับ ตั้งแต่ตอนมีหนังตัวอย่าง แต่ หนังตัวอย่าง อาจดูแล้วเป็นหนังเบาสมอง ตลกๆ หลานย่า แลกเปลี่ยนคำพูดกัน ฮาๆ หยาบบ้างหน่อยๆ แต่รอบที่ผมไปดู ไม่มีฮาแรงๆเลย มีแต่ต่างคนต่างขำกันบ้าง ตามความรู้สึกของแต่ละคน ที่จะมีฮาเสียงดังพร้อมกันทั้งโรงหนัง บอกเลย ไม่มี ...เลย
คนที่สนใจหนังเรื่องนี้ คงทราบ พล็อตเรื่องแน่นอนอยุ่แล้ว ถึงอยากไปดู หลาน ผู้หวังมรดก จากคนแก่คืออาม่า คุณยายของตน เนื่องด้วยเห็นตัวอย่างจาก ลูกพี่ลูกน้องสาว ที่ทำแล้วได้รับจากการดูแลคนแก่ ใกล้ตาย จึงมีความนึกที่อยากจะได้บ้าง ในเบื้องต้น มีแค่นั้น ไม่ได้มีความกตัญญูใสๆมาแต่ต้นเลย
เรื่องครอบครัวแบบนี้ คนจีน คงรู้กันแบบ ไม่ต้องสร้างหนังก็รู้กันได้ว่า ลูกหลานที่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายาย พอมีตังค์ ก็มักจะทำแบบนี้ คือ เอาใจหวังได้มรดก ไม่ต่างจากหนังฝรั่งถ้านึกแบบ คนละไสตล์ก็คือ Knove out แต่เรื่องแบบไทยๆ เราไม่มีฆาตกรรม ขืนสร้างแบบนั้น ไม่ได้ใจคนไทย ฝรั่งก็คือฝรั่ง ไทยก็คือไทย เราชอบหนังแบบ สไตล์ ดูสบาย จบสวยๆ
หนังสร้างมาได้เกือบครบ องค์ประกอบ ยกเว้น เพื่อนของตัวเอก คือ เอ็ม หนุ่มหล่อวัยใส แต่ไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟน ไม่มีสังคมอะไรแสดงออกมาในหนังเลย นั่นอาจเป็นองค์ประกอบที่ดูแปลก กับคนวัย เอ็ม ตัวละครหลัก คู่กับอาม่า อย่างน้อย มีฉากบ้านเพื่อนมีอาม่า อาป๊าอะไรบ้างสักหน่อยจะดูครบองค์รวมขึ้น แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไร หนังเน้นครอบครัว insider กันไปเลย
ก่อนเข้าวังวนครอบครัว เอ่ยถึง ลูกพี่ ลูกน้อง ที่โปสเตอร์อาจเขียนว่า มุ่ย หวังการตอบแทนสูงจากการลงทุน แต่ผมกลับมองว่า มุ่ย รู้แหล่ะว่าคนแก่มีตังค์ แต่ ถ้าดูจากในหนัง มุ่ย ทำงานหนัก และเรียกว่าลงแรง ลงทุน แบบในหนังไม่เห็นว่าเธอจะมี ลูกเล่นอะไร นอกจากเอาความตรงไป ตรงมา ดูแลคนแก่จนวาระสุดท้าย ก่อนได้รับ มรดก ซึ่ง เธอก็เสี่ยง แม้หนังจะทำให้เธอดูเหมือน มืออาชีพเรื่องนี้ แต่ถ้านึกๆดู ใครจะไปมั่นใจว่าเธอจะได้มรดกใหญ่สุด คือ ไม่แน่หรอก เพราะ เธอเองก็เดาว่า เอ็ม จะได้มรดก เพราะสาเหตุเดียวกับเธอ แต่ เอ็ม ก็ไม่ได้ แสดงว่า มุ่ย ที่ได้มรดกมา ควรมองว่าเธอทำในเรื่องที่ คนอื่นหนีไม่ยอมทำมากกว่า เธอจึงได้ การตอบแทนใหญกว่าใคร เช็ดของเสียคนแก่ตลอดเวลานานๆ ไม่อดทนสุดยอด ก็ทำลำบากอยู่
วงในครอบครัว อาม่า มีลูก 3 คน คนฉลาดแบบทั่วไปคือพี่ชาย ภาพพจน์ดี มีบ้านหรู ครอบครัวอบอุ่นดูครบทุกอย่าง แต่ พี่ชายคนคน จะว่าไปคือ คนเดียวที่หวังมรดก เพื่อให้ครอบครัวตัวเองดีขึ้น แม้จะดีอยู่แล้ว ถึงกับเอ่ยปากถามหาโฉนดบ้าน ที้งที่อาม่า ยังไม่ตาย คนแรกเลย
ลูกคนเล็กอาม่า ด้วยความที่ไม่มีอะไรเทียบพี่ชายคนโตได้เลย ตรงกันข้าม หนี้ท่วมตัว หวังมรดก เพราะ หนี้ที่จัดการไม่ไหว อาม่ารู้ดี จังยกบ้านให้ โดยไม่ได้รักลูกคนนี้มากสุดหรอก แต่เห็นว่า เอาตัวไม่รอดมากสุดต่างหาก มาถึงฉากนี้ อาจต้องทำความเข้าใจแล้วว่า ลูกแม่หลายคน คนที่รักสุดอาจไม่ได้จำเป็นต้องได้ มรดกมากสุด เพราะความรักของแม่ คือ อยากให้ทุกคน ไม่ลำบาก คนสบายแล้ว เขาก็อาจจะให้หน่อย คนลำบากมากเขาก็ให้มากหน่อย อย่าไปยึดกับคำว่า รักมากให้มาก หรือ ทุกคนต้องมี Logic มีตรรก คือ คนแบบอาม่า มีแต่ความรัก ความห่วงใย คนสมัยใหม่ มีการศึกษา ชอบยึดกับคำว่า logic ตรรก ซีกมันฟรอยด์ อะไรก็ว่าไป แต่อาม่าไม่รู้จัก อาม่าไม่สนใจ อาม่ารู้วา่ ลูกคนเล็ก กำลังแย่ และ ยกบ้านให้ ลูกคนเล็กไป
แน่นอน ลูกคนโต ที่ว่าเป็นลุกรัก คนโปรด ถึงกับโมโหแบบว่า ทำไม เขาไม่ได้บ้าน รวมถึง เอ็ม หลานที่ทำดีหวังมรดก ถึงกับ ด่าอาม่า ว่า โง่ ที่ช่วยคนไม่เอาไหนอย่าง ลูกชายคนเล็ก
การช่วยคนที่เป็นลูก จะต้องอาศัยความฉลาดหลักแหลมขนาดไหน ? คนที่ทำดีหวังมรดก อย่างเอ็ม อาม่า ก็รู้แก่ใจ ว่า ยังเด็ก มีอนาคต มีความสามมารถ อาม่า เคยบอกให้ไปทำงาน อะไรดีๆด้วยซ้ำ เพราะเคยสอบได้ที่ 1 แต่เด็กชายเอ็ม หนุ่มเอ็ม ขี้เกียจก็แค่นั้น หวังทางลัดจากมรดกอาม่า พอไม่ได้ ถึงกับด่ายายตัวเอง แล้วจากไปเลย ไม่ได้สนใจอะไรเลย ณ เวลานั้น เป็นฉากที่ดูแล้ว น่าจะเศร้าสุด ที่คนแก่ใกล้ตาย มาโดนหลานด่า ว่าโง่ ตอนกำลังรอรับยาจ่ายตังค์ในโรงพยาบาล
ลูกสาวคนกลาง เป็นคนเดียวที่ไม่ได้บ้าสมบัต อาจเพราะเธอเข้าใจว่า ผญ นั้นไม่อยู่ในสายตาพ่อแม่มาตั้งแต่เล็ก เพราะ ผญ ต้องแต่งงาน และ เปลี่ยนแซ่ เป็นคน ของตระกูลอื่น แม้จะมีสายเลือด สืบสายเลือดจากอุธรร่วมกันมา แต่นี่คือ แนวนึกแนวทำของคนโบราณว่า ลูกสาว ไม่ต้องได้อะไร ยกเว้น โรค ตาม DNA เช่น มะเร็ง ส่วนลูกชายได้ มรดก ซึ่ง อาม่าเอง ก็เข้าใจลูกสาวเต็มอก เพราะ อาม่า ก็โดน pattern ความโบราณของตระกูลกระทำมาเช่นเดียวกัน คือ ไม่ได้อะไรเลย
รายละเอียดหนังระหว่าง หลานกับม่า ก็มีสาระพอควร ในเรื่องคนแก่ อ่านออกตั้งแต่เห็นหน้าเด็กมาเยี่ยมที่บ้านแล้ว ร้อยวันพันปีไม่มา แถมมาบอกว่า แกป่วยเป็นอะไร ให้แก ( อาม่า ) รู้ตัวว่า จะตายแล้วนะ ( ก่อนหน้านั้น ลูกๆพากันช่วยปีดบัง แต่ หลานที่คีดน้อย ปากสว่างบอกอาม่าไป )
หลานไม่ถึงกับแย่ แม้หวังมรดก ก็พยายามทำดี แม้จะมีเป้าหมายก็ตาม คนแก่ย่อมดีใจ กว่าการอยู่คนเดียว กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า คนแก่จะต้องยกมรดกส่วนใหญ่ ให้คนดูแลตอนใกล้ตายเสมอไป เพราะก่อนหน้านั้น เขาอาจมี หรือ เขาอาจไม่มีความในใจเลยว่า จะยกอะไรให้ใคร เพราะอาม่า ก็ไม่ได้รวยมากมาย แต่บ้านหนึ่งหลัง ก็ทำให้ พี่น้อง ทะเลาะกันใหญ่โตได้ แบบในหนัง
ที่ผมเอารูป ขึ้นกระทู้ เพราะ ดูหนังจบแล้ว ผมเห็นว่า ผญ สองคนนี้ คืออามุ่ย และ ลูกสาวอาม่า เป็นสองคนที่ไม่ว่าจะได้มรดกตอบแทนไหม แต่สองคนนี้ คือ คนที่ทำเต็มที่ในการดูแลคนแก่ ส่วนเรื่องผลตอบแทน ขึ้นอยู่กับคนแก่ เพราะ แม้อาม่ยุจะได้มรดก แต่นั่นคือ คนแก่ตายแล้ว ไม่ได้มีสัญญาอะไรว่าจะให้หรือไม่ให้ ไม่อยากให้มองหนังแล้วมาพากัน เอาใจคนแก่ เหมือนเป็นการลงทุน แล้วหวังผล แบบ เอ็ม ในหนัง
สรุป คนแก่ ที่อาจพอจะมีทรัพย์เป็นมรดก ไม่มากก็น้อย อย่าง อาม่า คนเราอย่าไปนึกว่า โลกนี้ ทุกคนจะต้อง ทำดี ได้ดี ทำเลว ได้เลว ลงทุนได้ผลตอบแทน หว่านพืชต้องได้ผล เพราะ คนแก่ถ้าเราไม่รัก ก็ถามตัวเองว่า คุณมีเมตตากับคนแก่แค่ไหน ? พอแล้ว
เพราะ คนแก่ อาจไม่ได้ตอบแทนคุณแบบที่คุณต้องการ อย่างที่ผมบอก คนทุกคนไม่ได้มี Logic สมเหตุผลเสมอไป คนทำไม่ไได้ คนได้ไม่ทำ ลูกคนโต ลูกคนเล็ก ลูกคนกลาง คนเป็นพ่อแม่จะรักใครมากสุด คนเล็กย่อมได้เปรียบ แต่ไม่เสมอไป มันมีปัจจัยอีกเยอะ ไม่มีอะไรแน่นอน
คนโตไม่ได้จะดีทุกคน คนเล็กไม่ได้จะเลวทุกคน คนกลางใชว่าจะเหนือกว่าใครไม่ได้ มันไม่มีสูตรสำเร็จแน่ๆหรอก ที่จะเอามานึกว่า คนโตต้องดี คนเล็กต้องเอาแต่ใจ คนกลางไม่มีตัวตน นั่นมันหนังสือฝรั่งเขียนเอามาขายพวกเราให้อ่านกัน ตอนเรายังไม่รู้จักนึกเอง ตอนนี้ ถ้ามีประสบการณ์แล้ว ก็หยุดเชื่อ ทฤษฏี Wednesday Child ที่เขาเขียนมาให้อ่านได้แล้ว คนเขียนน่ะฉลาด คนอ่านก็อ่านกันพอจรรโลงใจ แต่มันไม่ใช่ คำสาป มันไม่ใช่ กฎเกณฑ์
และที่สำคัญ การศึกษาทำให้คนฉลาด และช่วยเหลือตนเองได้ หากไม่ใช้จ่ายมากกว่าความสามารถจะหามา ก็คงไม่ไดต้องมาแย่งสมบัตมรดก จาก คนแบบ อาม่า ในหนังที่เขาสร้างออกมาให้ดู แบบ จบสวยๆ ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้าโลกนอกจอภาพยนต์ รับรองไว่าไม่จบสวยๆแบบในหนังแน่นอนครับ
เป็นหนังที่ สร้างได้ดีครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปแบบในหนัง ไม่ใช่บรรทัดฐาน และ คนเราไม่ไดเป็นแบบในหนัง เขาถึงเรียกว่า หนัง สร้างให้คนเรามองโลกแง่ดี เพื่อที่ว่า สังคมจะได้วุ่นวายน้อยลง แต่ความจรีงแล้วหนังก็แสดงแง่ความจรีง และจบลงตรงที่ แย่งโฉนดกัน นั่นแหล่ะตรับ
หากใครยังไม่ได้ดู ก็แนะนำว่า ไปดูได้ ไม่น่าเสียดายตังค์ แต่ก็ไม่ได้ขยี้อารมณ์ให้ร้องไห้ หรือ ขำฮากลี้งกันแน่นอน คนเราจะได้อะไรจากหนังไม่เท่ากัน ดูเพื่อความบังเทีง ก็พอครับ เพราะชีวีตจรีง มันแย่ และไม่ได้สวยงามตอนจบแบบในหนัง
รีวีว หลานม่า ดราม่าครอบครัว ดูได้ มีประเด็น สปอยลืเนื้อหาสำคัญเกือบหมด กรุณาอย่าเข้ามาถ้าไม่อยากรู้
ก่อนอื่น รูปที่เลือกมา ทำไมถึงเลือกรูปนี้ ขอแจ้งตอนท้ายกระทู้ครับ
หลานม่า คนชอบเยอะครับ ตั้งแต่ตอนมีหนังตัวอย่าง แต่ หนังตัวอย่าง อาจดูแล้วเป็นหนังเบาสมอง ตลกๆ หลานย่า แลกเปลี่ยนคำพูดกัน ฮาๆ หยาบบ้างหน่อยๆ แต่รอบที่ผมไปดู ไม่มีฮาแรงๆเลย มีแต่ต่างคนต่างขำกันบ้าง ตามความรู้สึกของแต่ละคน ที่จะมีฮาเสียงดังพร้อมกันทั้งโรงหนัง บอกเลย ไม่มี ...เลย
คนที่สนใจหนังเรื่องนี้ คงทราบ พล็อตเรื่องแน่นอนอยุ่แล้ว ถึงอยากไปดู หลาน ผู้หวังมรดก จากคนแก่คืออาม่า คุณยายของตน เนื่องด้วยเห็นตัวอย่างจาก ลูกพี่ลูกน้องสาว ที่ทำแล้วได้รับจากการดูแลคนแก่ ใกล้ตาย จึงมีความนึกที่อยากจะได้บ้าง ในเบื้องต้น มีแค่นั้น ไม่ได้มีความกตัญญูใสๆมาแต่ต้นเลย
เรื่องครอบครัวแบบนี้ คนจีน คงรู้กันแบบ ไม่ต้องสร้างหนังก็รู้กันได้ว่า ลูกหลานที่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายาย พอมีตังค์ ก็มักจะทำแบบนี้ คือ เอาใจหวังได้มรดก ไม่ต่างจากหนังฝรั่งถ้านึกแบบ คนละไสตล์ก็คือ Knove out แต่เรื่องแบบไทยๆ เราไม่มีฆาตกรรม ขืนสร้างแบบนั้น ไม่ได้ใจคนไทย ฝรั่งก็คือฝรั่ง ไทยก็คือไทย เราชอบหนังแบบ สไตล์ ดูสบาย จบสวยๆ
หนังสร้างมาได้เกือบครบ องค์ประกอบ ยกเว้น เพื่อนของตัวเอก คือ เอ็ม หนุ่มหล่อวัยใส แต่ไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟน ไม่มีสังคมอะไรแสดงออกมาในหนังเลย นั่นอาจเป็นองค์ประกอบที่ดูแปลก กับคนวัย เอ็ม ตัวละครหลัก คู่กับอาม่า อย่างน้อย มีฉากบ้านเพื่อนมีอาม่า อาป๊าอะไรบ้างสักหน่อยจะดูครบองค์รวมขึ้น แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไร หนังเน้นครอบครัว insider กันไปเลย
ก่อนเข้าวังวนครอบครัว เอ่ยถึง ลูกพี่ ลูกน้อง ที่โปสเตอร์อาจเขียนว่า มุ่ย หวังการตอบแทนสูงจากการลงทุน แต่ผมกลับมองว่า มุ่ย รู้แหล่ะว่าคนแก่มีตังค์ แต่ ถ้าดูจากในหนัง มุ่ย ทำงานหนัก และเรียกว่าลงแรง ลงทุน แบบในหนังไม่เห็นว่าเธอจะมี ลูกเล่นอะไร นอกจากเอาความตรงไป ตรงมา ดูแลคนแก่จนวาระสุดท้าย ก่อนได้รับ มรดก ซึ่ง เธอก็เสี่ยง แม้หนังจะทำให้เธอดูเหมือน มืออาชีพเรื่องนี้ แต่ถ้านึกๆดู ใครจะไปมั่นใจว่าเธอจะได้มรดกใหญ่สุด คือ ไม่แน่หรอก เพราะ เธอเองก็เดาว่า เอ็ม จะได้มรดก เพราะสาเหตุเดียวกับเธอ แต่ เอ็ม ก็ไม่ได้ แสดงว่า มุ่ย ที่ได้มรดกมา ควรมองว่าเธอทำในเรื่องที่ คนอื่นหนีไม่ยอมทำมากกว่า เธอจึงได้ การตอบแทนใหญกว่าใคร เช็ดของเสียคนแก่ตลอดเวลานานๆ ไม่อดทนสุดยอด ก็ทำลำบากอยู่
วงในครอบครัว อาม่า มีลูก 3 คน คนฉลาดแบบทั่วไปคือพี่ชาย ภาพพจน์ดี มีบ้านหรู ครอบครัวอบอุ่นดูครบทุกอย่าง แต่ พี่ชายคนคน จะว่าไปคือ คนเดียวที่หวังมรดก เพื่อให้ครอบครัวตัวเองดีขึ้น แม้จะดีอยู่แล้ว ถึงกับเอ่ยปากถามหาโฉนดบ้าน ที้งที่อาม่า ยังไม่ตาย คนแรกเลย
ลูกคนเล็กอาม่า ด้วยความที่ไม่มีอะไรเทียบพี่ชายคนโตได้เลย ตรงกันข้าม หนี้ท่วมตัว หวังมรดก เพราะ หนี้ที่จัดการไม่ไหว อาม่ารู้ดี จังยกบ้านให้ โดยไม่ได้รักลูกคนนี้มากสุดหรอก แต่เห็นว่า เอาตัวไม่รอดมากสุดต่างหาก มาถึงฉากนี้ อาจต้องทำความเข้าใจแล้วว่า ลูกแม่หลายคน คนที่รักสุดอาจไม่ได้จำเป็นต้องได้ มรดกมากสุด เพราะความรักของแม่ คือ อยากให้ทุกคน ไม่ลำบาก คนสบายแล้ว เขาก็อาจจะให้หน่อย คนลำบากมากเขาก็ให้มากหน่อย อย่าไปยึดกับคำว่า รักมากให้มาก หรือ ทุกคนต้องมี Logic มีตรรก คือ คนแบบอาม่า มีแต่ความรัก ความห่วงใย คนสมัยใหม่ มีการศึกษา ชอบยึดกับคำว่า logic ตรรก ซีกมันฟรอยด์ อะไรก็ว่าไป แต่อาม่าไม่รู้จัก อาม่าไม่สนใจ อาม่ารู้วา่ ลูกคนเล็ก กำลังแย่ และ ยกบ้านให้ ลูกคนเล็กไป
แน่นอน ลูกคนโต ที่ว่าเป็นลุกรัก คนโปรด ถึงกับโมโหแบบว่า ทำไม เขาไม่ได้บ้าน รวมถึง เอ็ม หลานที่ทำดีหวังมรดก ถึงกับ ด่าอาม่า ว่า โง่ ที่ช่วยคนไม่เอาไหนอย่าง ลูกชายคนเล็ก
การช่วยคนที่เป็นลูก จะต้องอาศัยความฉลาดหลักแหลมขนาดไหน ? คนที่ทำดีหวังมรดก อย่างเอ็ม อาม่า ก็รู้แก่ใจ ว่า ยังเด็ก มีอนาคต มีความสามมารถ อาม่า เคยบอกให้ไปทำงาน อะไรดีๆด้วยซ้ำ เพราะเคยสอบได้ที่ 1 แต่เด็กชายเอ็ม หนุ่มเอ็ม ขี้เกียจก็แค่นั้น หวังทางลัดจากมรดกอาม่า พอไม่ได้ ถึงกับด่ายายตัวเอง แล้วจากไปเลย ไม่ได้สนใจอะไรเลย ณ เวลานั้น เป็นฉากที่ดูแล้ว น่าจะเศร้าสุด ที่คนแก่ใกล้ตาย มาโดนหลานด่า ว่าโง่ ตอนกำลังรอรับยาจ่ายตังค์ในโรงพยาบาล
ลูกสาวคนกลาง เป็นคนเดียวที่ไม่ได้บ้าสมบัต อาจเพราะเธอเข้าใจว่า ผญ นั้นไม่อยู่ในสายตาพ่อแม่มาตั้งแต่เล็ก เพราะ ผญ ต้องแต่งงาน และ เปลี่ยนแซ่ เป็นคน ของตระกูลอื่น แม้จะมีสายเลือด สืบสายเลือดจากอุธรร่วมกันมา แต่นี่คือ แนวนึกแนวทำของคนโบราณว่า ลูกสาว ไม่ต้องได้อะไร ยกเว้น โรค ตาม DNA เช่น มะเร็ง ส่วนลูกชายได้ มรดก ซึ่ง อาม่าเอง ก็เข้าใจลูกสาวเต็มอก เพราะ อาม่า ก็โดน pattern ความโบราณของตระกูลกระทำมาเช่นเดียวกัน คือ ไม่ได้อะไรเลย
รายละเอียดหนังระหว่าง หลานกับม่า ก็มีสาระพอควร ในเรื่องคนแก่ อ่านออกตั้งแต่เห็นหน้าเด็กมาเยี่ยมที่บ้านแล้ว ร้อยวันพันปีไม่มา แถมมาบอกว่า แกป่วยเป็นอะไร ให้แก ( อาม่า ) รู้ตัวว่า จะตายแล้วนะ ( ก่อนหน้านั้น ลูกๆพากันช่วยปีดบัง แต่ หลานที่คีดน้อย ปากสว่างบอกอาม่าไป )
หลานไม่ถึงกับแย่ แม้หวังมรดก ก็พยายามทำดี แม้จะมีเป้าหมายก็ตาม คนแก่ย่อมดีใจ กว่าการอยู่คนเดียว กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า คนแก่จะต้องยกมรดกส่วนใหญ่ ให้คนดูแลตอนใกล้ตายเสมอไป เพราะก่อนหน้านั้น เขาอาจมี หรือ เขาอาจไม่มีความในใจเลยว่า จะยกอะไรให้ใคร เพราะอาม่า ก็ไม่ได้รวยมากมาย แต่บ้านหนึ่งหลัง ก็ทำให้ พี่น้อง ทะเลาะกันใหญ่โตได้ แบบในหนัง
ที่ผมเอารูป ขึ้นกระทู้ เพราะ ดูหนังจบแล้ว ผมเห็นว่า ผญ สองคนนี้ คืออามุ่ย และ ลูกสาวอาม่า เป็นสองคนที่ไม่ว่าจะได้มรดกตอบแทนไหม แต่สองคนนี้ คือ คนที่ทำเต็มที่ในการดูแลคนแก่ ส่วนเรื่องผลตอบแทน ขึ้นอยู่กับคนแก่ เพราะ แม้อาม่ยุจะได้มรดก แต่นั่นคือ คนแก่ตายแล้ว ไม่ได้มีสัญญาอะไรว่าจะให้หรือไม่ให้ ไม่อยากให้มองหนังแล้วมาพากัน เอาใจคนแก่ เหมือนเป็นการลงทุน แล้วหวังผล แบบ เอ็ม ในหนัง
สรุป คนแก่ ที่อาจพอจะมีทรัพย์เป็นมรดก ไม่มากก็น้อย อย่าง อาม่า คนเราอย่าไปนึกว่า โลกนี้ ทุกคนจะต้อง ทำดี ได้ดี ทำเลว ได้เลว ลงทุนได้ผลตอบแทน หว่านพืชต้องได้ผล เพราะ คนแก่ถ้าเราไม่รัก ก็ถามตัวเองว่า คุณมีเมตตากับคนแก่แค่ไหน ? พอแล้ว
เพราะ คนแก่ อาจไม่ได้ตอบแทนคุณแบบที่คุณต้องการ อย่างที่ผมบอก คนทุกคนไม่ได้มี Logic สมเหตุผลเสมอไป คนทำไม่ไได้ คนได้ไม่ทำ ลูกคนโต ลูกคนเล็ก ลูกคนกลาง คนเป็นพ่อแม่จะรักใครมากสุด คนเล็กย่อมได้เปรียบ แต่ไม่เสมอไป มันมีปัจจัยอีกเยอะ ไม่มีอะไรแน่นอน
คนโตไม่ได้จะดีทุกคน คนเล็กไม่ได้จะเลวทุกคน คนกลางใชว่าจะเหนือกว่าใครไม่ได้ มันไม่มีสูตรสำเร็จแน่ๆหรอก ที่จะเอามานึกว่า คนโตต้องดี คนเล็กต้องเอาแต่ใจ คนกลางไม่มีตัวตน นั่นมันหนังสือฝรั่งเขียนเอามาขายพวกเราให้อ่านกัน ตอนเรายังไม่รู้จักนึกเอง ตอนนี้ ถ้ามีประสบการณ์แล้ว ก็หยุดเชื่อ ทฤษฏี Wednesday Child ที่เขาเขียนมาให้อ่านได้แล้ว คนเขียนน่ะฉลาด คนอ่านก็อ่านกันพอจรรโลงใจ แต่มันไม่ใช่ คำสาป มันไม่ใช่ กฎเกณฑ์
และที่สำคัญ การศึกษาทำให้คนฉลาด และช่วยเหลือตนเองได้ หากไม่ใช้จ่ายมากกว่าความสามารถจะหามา ก็คงไม่ไดต้องมาแย่งสมบัตมรดก จาก คนแบบ อาม่า ในหนังที่เขาสร้างออกมาให้ดู แบบ จบสวยๆ ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้าโลกนอกจอภาพยนต์ รับรองไว่าไม่จบสวยๆแบบในหนังแน่นอนครับ
เป็นหนังที่ สร้างได้ดีครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปแบบในหนัง ไม่ใช่บรรทัดฐาน และ คนเราไม่ไดเป็นแบบในหนัง เขาถึงเรียกว่า หนัง สร้างให้คนเรามองโลกแง่ดี เพื่อที่ว่า สังคมจะได้วุ่นวายน้อยลง แต่ความจรีงแล้วหนังก็แสดงแง่ความจรีง และจบลงตรงที่ แย่งโฉนดกัน นั่นแหล่ะตรับ
หากใครยังไม่ได้ดู ก็แนะนำว่า ไปดูได้ ไม่น่าเสียดายตังค์ แต่ก็ไม่ได้ขยี้อารมณ์ให้ร้องไห้ หรือ ขำฮากลี้งกันแน่นอน คนเราจะได้อะไรจากหนังไม่เท่ากัน ดูเพื่อความบังเทีง ก็พอครับ เพราะชีวีตจรีง มันแย่ และไม่ได้สวยงามตอนจบแบบในหนัง