Day 2
(Plan: Fujiko F Museum >>> Play Comme des Garcons shop)
=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=
(: เช้าวันแรกที่ญี่ปุ่นที่เราจะออกเที่ยวกัน ขอเปิดรูปวันนี้ด้วยทางเดินหน้าโรงแรม ฟ้าใส มีแดด พร้อมกิ่งไม้แห้งๆ และอากาศที่หนาวมาก โดยจุดหมายแรกของเรา คือ Fujiko F Museum ครับ
TIP: ผมจะมาขอ Confirm อีกเสียงที่บอกให้หนีไปเวลาขึ้นรถไฟ Rush hour โดยเฉพาะช่วงเช้า บ้านผมลองมาแล้วครับ แน่นจริง ดันจริง รถเบรคไม่มีล้ม ขนาดมันปิ้งแข็งๆในกระเป๋าแม่ผมคือแบนแบบแบนเลยครับ แต่ !! ถ้าต้องขึ้นช่วงเวลานั้นจริงๆ พยายามเป็นต้นแถวเวลารอรถไฟ แล้วเวลาเข้าไปในขบวนก็ต้องพยายามดันตัวเองไปอยู่กลางๆ ขบวน (แม้จะรู้สึกผิดที่ต้องดันคนอื่น) ตรงกลางๆขบวน จะมีบริเวณพอให้มีที่หายใจ ไม่โดนแยกจากกลุ่มหรือโชคดีก็จะได้นั่งครับ
อีกข้อ ถ้าเป็นคนร้อนง่าย ก่อนเข้ารถไฟ ผมจะถอดเสื้อกันหนาว เพราะในรถไฟมี Heater ไม่งั้นจะร้อนมากๆ ผมเกือบจะเป็นลมเลย
(: การเดินทางไป Fujiko F Museum ผมว่าคนส่วนใหญ่จะต้องไปเปลี่ยนจาก JR ไปขึ้นสาย Odaykyu ที่ Shinjuku station
ซึ่งพอออกจากรถไฟ JR อย่าเพิ่งรีบเดินลงบันไดหรือตามชาวบ้านเค้าครับ พยายามมองหาป้ายบนสถานีและดูว่าทางออกหรือสายรถไฟที่เราจะไปต่อควรไปทางไหน อย่างผมก็เดินตามป้ายและจู่ๆ ก็เดินเข้า Gate ของ Odaykyu ไปแบบงงๆ 555
(: โดยเราจะนั่ง Odakyu Odawara Line Rapid express จาก Shinjuku ไปที่สถานี Noborito ช่วง 9 โมงกว่าๆ คือรถไฟโล่งแล้วครับ ก็นั่งชิลล์ๆ พักสายตากันไป พอก้าวเท้าลงที่สถานีก็แน่ใจได้เลยครับว่าลงไม่ผิด เพราะสถานีตกแต่งป้ายด้วยตีมโดราเอมอน หรือสีฟ้าพร้อมกระดิ่งคอพี่ม้อนทั้งสถานี
(: ให้ออก Central gate exit นะครับ จะเจอ 7/11 อยู่ซึ่งก็มีพวกกระเป๋า แฟ้ม ตุ๊กตาโดราเอมอนขาย ราคาน่าจะถูกกว่าที่มิวเซียมนิดนึง พี่สาวผมบอกว่าลายของหรือหน้าตาโดราเอมอนที่ 7/11 น่ารักกว่าที่ Fujiko F บ้านผมก็เล็งๆ ของพวกกระเป๋าผ้ากันไว้ค่อยมาซื้อตอนขากลับ
(: ฝั่งตรงข้าม 7/11 ก็มีร้านขนมปังอยู่ชื่อ Sweet box คนต่อแถวเรื่อยๆ พวกเราก็ไม่พลาดครับ จัดชิฟฟอนมา 1 ชูครีมมา 1 และหมดเกลี้ยงก่อนจะได้ถ่ายรูปครับ 555
TIP: ก็ Confirm อีกเรื่องว่าถังขยะหายากกว่าในห้องน้ำครับที่ญี่ปุ่น ฉะนั้นซื้อขนมแล้วยืนกินหน้าร้านแล้วจัดการขยะให้เสร็จเรียบร้อยครับ ตามถังขยะในห้องน้ำก็ห้ามทิ้งพวกขยะเหล่านี้นะครับ
(: ถัดจากร้าน Sweet box จะมีป้ายบอกทางไปรอขึ้นรถบัสสำหรับไป Museum ครับ เดินลงบันไดไปก็จะเห็นรถบัสจอดรออยู่ ค่าเสียหายก็ 220 Yen สามารถจ่ายผ่านบัตร IC ได้ครับ
(: เอาตารางรถบัสมาฝากครับจาก Website ซึ่งถ้าเลือกภาษาอังกฤษ จะไม่เห็นรอบรถก็งงๆนิดนึงดี
โดยสีฟ้าคือเวลาออกจากสถานีวันธรรมดา ส่วนสีชมพูเป็นเวลาของวันหยุดครับ (ขอบคุณคุณ Saviivi V ที่ช่วยแก้ไขครับ)
(: รถบัสก็จะจอดที่ป้ายสถานีรถไฟและอีกป้ายก็หน้า Museum เลย ไม่มีหลงแน่นอน
(: พอมาถึงที่ Museum ถ้ายังไม่ถึงรอบที่จองไว้จะยังเข้าไม่ได้นะครับ อย่างผมจองรอบ 11 โมง ไปถึง 10:30 ก็ต้องนั่งรอกันไป โดยบริเวณที่ลงรถบัสจะมีที่นั่งอยู่ หรือจะเดินเล่นรอบๆ Museum ก็ได้ อย่างไปถ่ายรูปป้ายด้านหน้า แต่อย่าเผลอขึ้นไปเหยียบหญ้านะครับ จะโดนดุแบบผมเอา ฮ่าๆ
(: หรือจะเดินไปอีกฝั่งของมิวเซียมก็เจอว่าด้านหลังเป็นที่จอดรถจักรยาน และด้านข้างมีโตํะไม้สำหรับนั่งกินขนมหรือของว่างก่อนเข้า Museum ให้อยู่ ซึ่งก็เจอคู่ชาวญี่ปุ่นมานั่งกินข้าวปั้นกัน ส่วนบ้านผมก็มานั่งตากแดดเอาความอุ่นแล้วก็จัดการขนมถุงกับเยลลี่องุ่นที่ซื้อมาจาก 7/11 ที่สถานีรถไฟกัน
(: พอใกล้ถึงเวลารอบของเรา ผู้คนก็จะทยอยไปต่อแถวครับ นอกจากนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว มีฝรั่งด้วยนะครับ แล้วก้อคู่ที่มาเดทกันก้อเยอะ เด็กน้อยที่มากับคุณแม่ก็เยอะเช่นกันครับ สำหรับ Ticket การเข้าก็ให้โชว์ QR code ที่ได้รับมาให้พนักงานสแกนครับ แล้วเค้าจะค่อยๆ แบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวให้เข้าไปด้านในเพื่อฟังข้อปฏิบัติ และรับบัตรเพื่อใช้ดู Short movie ด้านในมิวเซียมครับ
Fujiko F Museum
การซื้อตั๋ว: เข้าใจว่าตอนนี้ไม่สามารถซื้อผ่านตู้ที่ Lawson ได้แล้วนะครับ จะซื้อได้ผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1.ซื้อ Online รับตั๋วเป็น QR code (ถ้าจะไปช่วงวันที่ 1-15 ซื้อตั๋ว Online ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ของเดือนก่อนหน้า หรือถ้าไปช่วงวันที่ 16-31 ซื้อตั๋วได้ตั้งแต่วันที่ 5 ของเดือนนั้นๆ) หรือ 2.ซื้อ Online รับและจ่ายเงินที่ 7/11 ต้องทำภายใน 3 วันหลังทำการจอง Online
ราคา: 1,000 Yen ครับ ผมซื้อ Online จ่ายด้วย JCB (ลอง Travel card แล้วตัดบัตรไม่ได้)
ภายในชั้น 1 - 2: จะเป็น Exhibition room เล่าเรื่องราวของผู้เขียนอาจารย์ Fujiko ที่เข้าโตเกียวเพื่อมาเป็นนักวาดการ์ตูน, แสดงความเป็นมาของโดราเอมอนตั้งแต่ Version draft จนมาเป็นแมวฟ้า Version แรกๆ ที่หน้าตาไม่ได้เหมือนปัจจุบัน, จัดแสดงหนังสือการ์ตูน และพัฒนาการจนมาเป็นการ์ตูน และในที่สุดออกมาเป็น The movie โดยที่บริเวณนี้ ห้าม !! ถ่ายภาพเด็ดขาดครับ
การจัดแสดงหรือการบรรยายก็ "ดีงาม" มากครับ ตรงบริเวณทางเข้าจะมี QR code แสดงและให้กรอกรหัสผ่านรูปภาพ จากนั้นจะโชว์หน้าต่างที่เป็นตัวเลขให้เรากด หมายความว่า เวลาเราเดินผ่านตู้แสดงหมายเลขอะไร ก็กดหมายเลขนั้นแล้วฟังบรรยายจากมือถือเราได้เลยครับ ส่วนสัญญาณ Internet เค้ามี Free wifi ให้ แต่บรรยายไม่มีภาษาไทยนะครับ มีภาษาอังกฤษ
และอีก 1 จุดที่ชวนขนลุก น้ำตาคลอสำหรับผม คือ การโชว์โต๊ะทำงาน วิทยุ แผ่นเสียงและหนังสือ หรือของใช้ของอาจารย์ที่ใช้วาดการ์ตูนออกมา บ่งบอกว่าท่านใส่ใจรายละเอียดในการ์ตูนมาก เช่น ถ้าจะวาดไดโนเสาร์ อาจารย์ก็จะศึกษาโครงสร้างจากหนังสือ การได้มาเห็นวิธีการทำงานอย่างงี้มันปลุกไฟในการทำงานของผมเลยฮะ
ชั้น 3 - ชั้นลอยฟ้า: ก็จะเป็นส่วนที่มีกิจกรรมต่างๆให้ทำ โซนนั่งอ่านการ์ตูน ห้องน้ำ ห้องเด็กเล็ก ตู้กาชาปอง Movie Theater ร้านอาหาร และก็สนามกลางแจ้งให้ถ่ายรูปครับ
(: ขึ้นมาที่ชั้น 3 ก็จะเจอไจแอนท์ เวอร์ชั้นคนหล่อ จากตอน บ่อน้ำของนายพราน (ถ้าจำชื่อตอนไม่ผิด) คนรอโยกพี่แอ้นท์เยอะมากครับ
(: จากนั้นเราเจอ Model บ้านโนบิตะ ซึ่งเก็บรายละเอียดได้ดีมาก ถ่ายรูปออกมาดูมีความสมจริง
(: ตู้กาชาปองดูดวิญญาณ เข้าใกล้แล้ว ไม่หยอดไม่ได้
(: มุมอ่านหนังสือการ์ตูนครับ มีโอเรมอนจิ๋วมาถ่ายรูปด้วย
(: ไปชม Doraemon The movie ตอนพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่กันครับ ซึ่งประโยคเด็ดของภาพยนต์ผมให้ที่ประโยคสุดท้ายครับ
แปลคร่าวๆ จากที่จำได้นะครับ คือ โดราเอมอน ได้นำพวกเราทุกคนจากทุกมุมโลกมาอยู่ด้วยกัน ณ.ที่เห็นนี้
(: ขึ้นมาต่อกันที่ Playground ก็จะมีแมวฟ้ามายืนต้อนรับ ท่อที่เราคุ้นตาเวลาโนบิตะไปสนามเด็กเล่นกับแก๊งค์ ประตูไปที่ไหนก็ได้ แล้วก็ไดโนเสาร์จาก The movie นอกจากนี้ที่ชั้นนี้ก็มีคาเฟ่ ร้านของฝากเล็กๆพวกแก้ว ขนม แต่คิวยาวมากๆ พวกเราเลยอดครับ
(: เป็นอนุสรณ์เล็กๆ ระหว่างอาจารย์ Fujiko และเหล่าตัวการ์ตูนที่อาจารย์สร้างขึ้นมา
(: และแน่นอนครับ ด่านสุดท้ายก็ต้องเป็นร้านขายของที่ระลึก คนแน่นมากครับด้วยบริเวณไม่ใหญ่มาก ราคาก็ถือว่าแรงอยู่ แล้วผมก็โดนแม่ป้ายยาครับในที่สุด
(: จากนั้น เราก็โบกมือลา แล้วนั่งบัสกลับมาที่สถานี ซึ่งเวลานี้ก็บ่ายโมงกว่า สายตาหันไปเห็นสาวญี่ปุ่น 2 คนยืนกินเมลอนปังอยู่ พวกเราก็ไม่พลาดครับ ร้านอยู่ตรงที่รถบัสจอดเลย ไม่รู้หิวหรืออะไร ขนมปังอร่อยมากๆ มากจนเกือบจะลืมถ่ายรูปกันอีกแล้วครับ
[ตั้งวงแชร์ พาแม่เที่ยว - Tokyo & Kawaguchiko & Nikko trip] @ Day 2 - ย้อนวัยไป Fujiko F Museum