Day 8
(Plan: Sumida park >> Sensoji temple >> Maxwell Aqua park แต่ไม่ได้ไป T.T &
Bonus track: Airporter review ส่งกระเป๋าไปคอยที่สนามบินกัน)
=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!=!
(: เช้าวันนี้เราจะออก Start กันที่ริมแม่น้ำ Sumida หรือที่ Sumida park กันครับ การเดินทางก็สามารถนั่ง Toei - Asakusa line มาที่สถานี Asakusa แล้วออกทางออก A5
(: ที่สวนแห่งนี้ เราสามารถเดินเล่น นั่งกินลม ชมวิวเลียบแม่น้ำ Sumida และวิวตึกฝั่งตรงข้าม ทั้งตึก Asahi และ Tokyo Sky Tree ได้ด้วย
เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอต้นซากุระที่บานรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ 4 - 5 ต้น แต่มีต้นนึงน่าจะบานที่สุดแล้วในบริเวณนั้น ก็เลยกลายเป็นดาวเด่นโดนรุมถ่ายรูปฉ่ำๆไปเลยครับ
มีคู่แต่งงานมาถ่ายรูปด้วย ^^
ออกเดินเล่นกันต่อ ในสวนนี้เราจะเห็นทั้งคนมานั่งชิลล์กันบ้าง มาวิ่งออกกำลังกายกันบ้าง ก็บรรยากาศมันดีอะเน๊าะ และที่สวนแห่งนี้ก็มีต้นไม้ ดอกไม้หลากหลายพันธุ์บานเต็มไปหมด สีสันก็สวยงามถูกใจแม่ผมยิ่งหนัก บอกผมให้ถ่ายรูปให้รัวๆ
(: ลากแม่ออกจาก Sumida park เพื่อเดินไปยัง Sensoji temple กัน
(: รถเข็น 3 ล้ออีก 1 สัญลักษณ์ของย่าน Asakusa ถ้ามีโอกาสก็อยากลองนั่งบ้างแหะ
(: มุมมหาชน บริเวณโคม Kaminarimon ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับ Asakusa Culture Tourist Information center เลยครับ
(: เดินถัดจากโคม Kaminarimon ก็จะเป็นถนน Nakamise ของขายเพียบตั้งแต่ขนม ภาพวาด เสื้อยืด ของฝาก ยัน Bath bomb
พวกผมก็โดนร้านค้าแถวนี้ตกเงินในกระเป๋าไปพอสมควร
(: ผมจะยังไม่เข้าไปไหว้พระในวัดนะครับ แต่จะเดินต่อเพื่อจะไปต่อแถวร้านสุกี้ยากี้เจ้าดังแถวนั้นกัน
มีผ่านร้านที่มีโชว์จากคู่นักตลกด้วย ผมเคยเห็นในรายการพวกโกโกริโก๊ะ ที่จะมาเป็นคู่หรือกลุ่ม 3 คนเพื่อทำภารกิจในรายการ
(: เดินต่อมาจะผ่าน Uniqlo และดองกี้ แล้วก็จะเจอร้านที่เราจะไปกินกันตรงหัวมุมพอดี ร้าน Asakusa Imahan
ผมเคยอ่านรีวิวมาว่า สุกี้ยากี้ร้านนี้อร่อยมว๊ากกกกกก สายเนื้ออย่างผมก็ต้องขอลองหน่อยครับ
(: เรามาถึงหน้าร้านตอน 10:23 ร้านเปิด 11:30 เมื่อมาถึงก็มายืนต่อแถวกันเลย ขนาดพวกเรามากันเร็วแล้วยังเป็นคิวที่ 3 เลยครับ
คิวแรกเป็นคู่คนจีน ส่วนคิวที่ 2 เป็นครอบครัวชาวญี่ปุ่นครับ เราก็ต่อแถว สลับกันนั่ง สลับกันไปเดินเล่นแถวนั้นระหว่างรอร้านเปิด
คิวหลังจากเรายืนต่อไปครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นทางร้านก็จะออกมาจัดระเบียบแถวไม่ให้ไปยืนกันบนทางเดินแล้วรบกวนคนอื่น
(: พอร้านเปิด พนง.ก็จะให้เข้าไปทีละครอบครัว เราได้ขึ้นไปกินที่ชั้น 3 ก็ต้องถอดรองเท้าแล้วขึ้นลิฟต์ไป โดยจะเป็นโต๊ะนั่งกับพื้น ถ้าสว.ท่านไหนไม่สามารถนั่งกับพื้นได้ ก็สามารถขอเก้าอี้ตัวเล็กๆ อารมณ์เก้าอี้ซักผ้าจากทางร้านมานั่งได้นะครับ
(: ส่วนการสั่งอาหาร ถ้ามากัน 3 คนจะต้องสั่งอย่างน้อย 3 อย่าง ซึ่งพนง.ประจำโต๊ะเราแนะนำให้สั่งอาหาร 2 Sets + อาหารจานเดี่ยว 1 ก็ถือว่า 3 Orders แล้ว เราจึงได้ Lunch set มา 2 กับเส้นอูด้งมา 1
(: Side dish ที่มาจาก 2 Lunch sets ที่เราสั่งไปครับ
(: เนื้อ !!! มาล้าววววว มื้อนี้ยอมควักครับ อยากลองเนื้อลายสวยๆ อย่างงี้มานานแล้ว
(: แต่ละโต๊ะจะมีพนักงานบริการประจำโต๊ะนะครับ โดยตอนแรกเค้าจะมาสาธิตวิธีทำให้เราดูก่อน เช่นถ้าหม้อแห้งให้เทซอสน้ำดำ พอน้ำดำเริ่มแห้งหรือเค็มไปให้เติมน้ำซุปใส แล้วก็ทำให้เรากินก่อนคนละชิ้น จากนั้นก็เป็นหน้าที่เราแล้วที่ต้องทำไปกินไป
ถ้าใครมีโอกาส ผมแนะนำร้านนี้เลยฮะ รู้สึกมีอีกสาขาที่ Ueno ด้วย
[ตั้งวงแชร์ พาแม่เที่ยว - Tokyo] @ Day 8/9 - ตะลุย Asakusa & Ueno & ร้านขายของจิปาถะตรง Asakusabashi ก่อนกลับไทยแลนด์