ธรรมยุติ มหานิกาย ผู้เป็นเลิศในสาย

กระทู้สนทนา
ข้อแตกต่างระหว่าง มหานิกาย กับ ธรรมยุตินิกาย ในศาสนาพุทธ เราได้นำเสนอข้อมูล ข้อแตกต่างให้เข้าใจได้ง่ายๆไปแล้ว ตามรายละเอียดข้อมูลในลิงค์ที่แนบซึ่งมีแนวทางหลักๆ เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละนิกาย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น จึงขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบ คือ สมมุติให้ มหานิกายเสมือนนักวิชาการ ฝ่ายธรรมยุตนั้น ก็เปรียบเสมือนนักปฏิบัติ หากสมมุติให้ มหานิกายเปรียบเสมือนวิศวกรเครื่องยนต์ ฝ่ายธรรมยุต ก็จะเปรียบเสมือน เจ้าของหมู่เจ้าของร้านซ่อม หรือช่างยนต์ ที่ได้ความรู้ การซ่อมแซมเครื่องยนต์ มาจาก การฝึกจากหน้างาน โดยไต่เต้ามาจากการเป็นลูกมือของช่างยนต์รุ่นเก่า นั่นเอง 
ดังนั้น ฝ่ายมหานิกาย ก็จะมี ความเชี่ยวชาญ ในพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย ภาษาบาลี และสันสกฤต เวลาแสดงธรรมเทศนา ก็จะพูดเรื่อง พุทธประวัติ เรื่องพระธรรมวินัย สามารถยกพุทธวจนและสามารถอุปมาอุปไมยประกอบได้เป็นอย่างดี 
ส่วนฝ่ายธรรมยุตินิกาย จะมีความเชี่ยวชาญ ในด้าน วิปัสสนากรรมฐาน ภาวนา  และการธุดงควัตร เวลาแสดงธรรมเทศนา ในเรื่อง ขันธ์ 5 อันประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถตอบข้อซักถาม เกี่ยวกับการเจริญสมาธิ ได้ชัดเจน
วันนี้จะขอยกตัวอย่าง บุคคลหรือปูชนียาจารย์ ที่มีความเป็นเลิศ แตกฉาน อันเป็นผลจากการเพียรปฏิบัติ ของแต่ละนิกาย โดยขอยก มาเป็นตัวอย่างไฟล์ละ 1 คน เท่านั้น ทั้งนี้ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของ ผมเอง
1. บุคคลผู้เป็นเลิศ ฝ่ายมหานิกาย
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ อดีตพระนักเทศน์ หรือ ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ ไพรวัลย์พระมหาไพรวัลย์ สามารถจบเปรียญธรรม 7 ตั้งแต่เป็นสามเณร และต่อมา ก็จบเปรียญธรรม 9 และปริญญาโทด้านศาสนา ตามลำดับ พระมหาไพรวัลย์ มีความแตกฉาน ในพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย โดยเป็นที่ยอมรับในสังคมอย่างมาก พระมหาไพรวัลย์ สามารถเทศน์แสดงธรรม หรือตอบข้อซักถาม เกี่ยวกับธรรมะ โดยยกข้อธรรมะจาก พระปริยัติธรรม และธรรมวินัย พร้อมทั้งยกตัวอย่างเหตุการณ์เปรียบเทียบ จากพุทธประวัติ รวมทั้งยังสามารถวินิจฉัยข้อสรุป ได้ในคราวเดียวกัน
สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ ความสามารถในข้อนี้ ก็คือ หลายครั้ง ที่มีเรื่องดราม่าในวงการสงฆ์ หรือ เรื่องที่มีประเด็นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ วงการพระพุทธศาสนา สื่อ หรือสำนักข่าว มักจะเลือกท่าน มาให้ความคิดเห็นอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ท่านจะได้ลาสิกขาจากเพศบรรพชิต มาแล้วก็ตาม แต่ท่าน ก็ยัง ได้รับเลือกให้มาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวจากสื่อ อยู่เช่นเดิม(การถูกเลือกให้มาตอบคำถามจากสื่ออาจมีหลายปัจจัย ซึ่งจะไม่ขอกล่าวในที่นี้) หากจะถามว่า ในเมืองไทยไม่มีผู้ มีความรู้ เข้าใจในพระปริยัติธรรมและธรรมวินัย พอๆกับพระมหาไพรวัลย์อีกแล้วหรือ? ก็คงต้องตอบว่า มีอีกไม่น้อย ฆราวาสหรือพระสงฆ์ ท่านใด ที่เรียนจบเปรียญธรรม 9 ประโยค หรือคนที่ศึกษาหาความรู้ จากช่องทางต่างๆ ด้วยตนเองล้วนเป็นผู้ที่แตกฉาน ในพระปริยัติธรรม และธรรมวินัยทั้งสิ้น แต่ผู้ที่มีไหวพริบ ปฏิภาณ สามารถวินิจฉัย แล้วให้คำตอบที่ถูกต้อง ได้โดยทันที นั้น คงมีไม่มาก ส่วน สาเหตุที่ข้าพเจ้าไม่ยกพระอริยสงฆ์ ท่านอื่นๆในอดีต มา ก็เพื่อ ให้เห็นภาพ ที่ชัดเจน ในการนำความรู้ในพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย มาใช้ประโยชน์ กับสังคมปัจจุบัน

2. บูรพาจารย์ ผู้เป็นเลิศ ฝ่ายธรรมยุตินิกาย
ในฝ่ายธรรมยุตินิกายนี้ ก็คงจะ เป็นที่แน่นอน คือ ท่านพระอาจารย์ใหญ่ แห่งพระสายป่า ท่าน หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็น ผู้เคร่งครัดในพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย ข้อวัตรปฏิบัติ ซึ่งประวัติของท่านถือเป็นแรงบันดาลใจอันดีงามให้กับพระภิกษุสงห์และฆราวาสได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและการภาวนาเจริญสมาธิ ซึ่งกลายเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกในยุคปัจจุบัน ท่านถือเป็นองค์พระวิสุทธิบุคคล ปกิบัติดี ปฏิบัติชอบ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างอันดีงาม เป็นที่ยกย่อง ยอมรับของพุทธศาสนิกชน ทั้งประชาชนชาวไทย หรือแม้บุคคลทั่วไปที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ หากแต่หากได้นำคำสอนขององค์ท่านไปปฏิบัติตาม ย่อมเกิดปฏิปทา เกิดความสงบเย็นใจให้เห็น นำมาซึ่งสันติภาพ ความสงบร่มเย็นกับใจของผู้ปฏิบัติธรรมคำสอนในทันใด ย่อมนำมาซึ่งความสงบสันติสุข 
ผลงานและคุณูปการของท่านมีความประจักษ์โดยเฉพาะการเผยแผ่ข้อวัตรปฏิบัติให้ขยายวงกว้างสู่สังคมได้อย่างจริงจัง ทำให้มีผู้สนใจศึกษาแนวทางที่ท่านได้วางไว้ จึงสามารถกล่าวได้ว่า องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นผู้นำทัพในการเผยแพร่ พระพุทธศาสนาในประเทศไทยอย่างแท้จริง ท่านสามารถเปลี่ยน ความคิดคน ที่เคยนับถือผี ให้หันมา เป็นพุทธศาสนิกชน ได้เพียง แค่การพบท่านเพียงไม่กี่ครั้ง ทั้งยังส่งลูกศิษย์ ซึ่งเปรียบเสมือนนาย กอง ไปสู่หลายๆแห่ง เพื่อเป็นการการสานต่อตามเจตนารมณ์ ดังเช่นที่ท่าน เคยปฏิบัติมา
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงอีกหนึ่งมุมมอง เท่านั้น มิได้ หมายความว่า ผู้ บวชใน มหานิกาย ไม่ต้องเพียรใน วิปัสสนา กรรมฐาน และผู้บวชในธรรมยุตินิกาย ไม่จำเป็นต้องศึกษาพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย ภาษาบาลีสันสกฤต แต่อย่างใด
 การจะบรรลุสู่ เป้าหมายสูงสุด ของพระพุทธศาสนา หรือนิพพาน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ศึกษาพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย พร้อมด้วย เคร่งครัดในศีลสมาธิ บำเพ็ญเพียรภาวนา ให้ครบถ้วน
 หากผู้ใดสามรถปฏิบัติได้ แม้เพียงบรรลุความสำเร็จแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของพระพุทธองค์ เท่านั้น ท่านผู้นั้นก็จะสามารถเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ในโลกได้แล้ว
 ยกตัวอย่างเช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี 
เจ้าพระคุณสมเด็จ ท่าน สำเร็จพระปริยัติธรรม ขั้นปลาย โดยใช้เวลาศึกษาเพียง 5 ปี ในขณะที่เป็นสามเณร และศึกษาสำเร็จแตกฉานพระธรรมวินัย การแปลภาษามคธ ในระหว่างเป็นสามเณร
 จนพระอาจารย์ไว้วางใจให้ เป็นผู้สอนแทนพระอาจารย์ ถึงแม้ว่าท่านจะใช้ชีวิต ในสังคมพระสงฆ์ในเมืองกรุงอยู่หลายปี
 ภายหลังจาก บรรพชาเมื่ออายุครบ ได้ 2 ปี ท่านก็ได้ ธุดงควัตร จาริกไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อศึกษาในด้าน วิปัสสนากรรมฐาน จากพระอาจารย์หลายๆท่านเพิ่มเติม ท่านถือเคร่งในพระธรรมคำสอน อย่างยิ่ง ด้วยเหตุเหล่านี้ ส่งผลให้ เจ้าพระคุณท่าน เป็นอริยสงฆ์ที่ ถูกเล่าขานว่า สามารถเทศนาธรรม ได้ลึกซึ้งอัศจรรย์ ทั้งยังเป็นอริยสงฆ์ที่ ทรงอภิญญาอย่างยิ่ง วัตถุมงคลของท่านถูกร่ำลือกันว่า มีพุทธคุณที่เข้มขลัง ได้รับการยกย่องให้เป็น จักรพรรดิพระเครื่องของเมืองไทย โดยไร้ผู้คัดค้าน

2. บูรพาจารย์ ผู้เป็นเลิศ ฝ่ายธรรมยุตินิกาย
ในฝ่ายธรรมยุตินิกายนี้ ก็คงจะ เป็นที่แน่นอน คือ ท่านพระอาจารย์ใหญ่ แห่งพระสายป่า ท่าน หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็น ผู้เคร่งครัดในพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย ข้อวัตรปฏิบัติ ซึ่งประวัติของท่านถือเป็นแรงบันดาลใจอันดีงามให้กับพระภิกษุสงห์และฆราวาสได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและการภาวนาเจริญสมาธิ ซึ่งกลายเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกในยุคปัจจุบัน ท่านถือเป็นองค์พระวิสุทธิบุคคล ปกิบัติดี ปฏิบัติชอบ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างอันดีงาม เป็นที่ยกย่อง ยอมรับของพุทธศาสนิกชน ทั้งประชาชนชาวไทย หรือแม้บุคคลทั่วไปที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ หากแต่หากได้นำคำสอนขององค์ท่านไปปฏิบัติตาม ย่อมเกิดปฏิปทา เกิดความสงบเย็นใจให้เห็น นำมาซึ่งสันติภาพ ความสงบร่มเย็นกับใจของผู้ปฏิบัติธรรมคำสอนในทันใด ย่อมนำมาซึ่งความสงบสันติสุข 
ผลงานและคุณูปการของท่านมีความประจักษ์โดยเฉพาะการเผยแผ่ข้อวัตรปฏิบัติให้ขยายวงกว้างสู่สังคมได้อย่างจริงจัง ทำให้มีผู้สนใจศึกษาแนวทางที่ท่านได้วางไว้ จึงสามารถกล่าวได้ว่า องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นผู้นำทัพในการเผพแพร่พระพุทธศาสนาในประเทศไทยอย่างแท้จริง ท่านสามารถเปลี่ยน ความคิดคน ที่เคยนับถือผี ให้หันมา เป็นพุทธศาสนิกชน ได้เพียง แค่การพบท่านเพียงไม่กี่ครั้ง ทั้งยังส่งลูกศิษย์ ซึ่งเปรียบเสมือนนายกอง ไปสู่หลายๆแห่ง เพื่อเป็นการการสานต่ตามเจตนารมณ์ ดังเช่นที่ท่าน เคยปฏิบัติมา
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงอีกหนึ่งมุมมอง เท่านั้น มิได้ หมายความว่า ผู้ บวชใน มหานิกาย ไม่เพี้ยนในสมาธิ ภาวนา และผู้บวชในธรรมยุตินิกาย ไม่จำเป็นต้องศึกษาพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย ภาษาบาลีสันสกฤต แต่อย่างใด การจะบรรลุสู่ เป้าหมายสูงสุด ของพระพุทธศาสนา หรือนิพพาน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ศึกษาพระปริยัติธรรม และธรรมวินัย พร้อมกับ เข็มขัดในศีลสมาธิ บำเพ็ญเพียรภาวนา ให้ครบถ้วน หากผู้ใดปฏิบัติได้ แค่ว่า บรรลุความสำเร็จแค่เศษเสี้ยวของพระพุทธองค์ ก็สามารถเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ในโลกได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังษี ท่าน สำเร็จพระปริยัติธรรม ขั้นปลาย โดยใช้เวลาศึกษาเพียง 5 ปี ในขณะที่เป็นสามเณร และศึกษาสำเร็จแตกฉานพระธรรมวินัย แปลภาษามคธ ในระหว่างเป็นสามเณร จนพระอาจารย์ไว้วางใจให้ เป็นผู้สอนแทนพระอาจารย์ ถึงแม้ว่าท่านจะใช้ชีวิต ในสังคมพระสงฆ์ในกรุงอยู่หลายปี ภายหลังจาก บรรพชาเมื่ออายุครบ ได้ 2 ปี ท่านก็ได้ ธุดงควัตร จาริกไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อศึกษาในด้าน สมาธิภาวนา จากพระอาจารย์หลายๆท่านเพิ่มเติม ท่านถือเคร่งในพระธรรมคำสอน อย่างยิ่ง ด้วยเหตุเหล่านี้ ส่งผลให้ เจ้าพระคุณท่าน เป็นอริยสงฆ์ที่ ถูกเล่าขานว่า สามารถเทศนาธรรม ได้ลึกซึ้งอัศจรรย์ ทั้งยังเป็นอริยสงฆ์ที่ ทรงอภิญญาอย่างยิ่ง วัตถุมงคลของท่านถูกร่ำลือกันว่า มีพุทธคุณที่เข้มขลัง ได้รับการยกย่องให้เป็น จักรพรรดิพระเครื่องของเมืองไทย โดยไร้ผู้คัดค้าน
https://youtu.be/z-tmd0XnW7k?si=tAEFHGmHpFNubg-jคลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่