ในที่สุดจากการสังเกตมาตั้งแต่ประมาณปี 2548 ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลไปดึงเอาพระสายหนึ่งมายุ่งการเมืองเพื่อหวังเอาสาวกของพระเหล่านั้นมาเป็นมวลชน พระสายนั้นมีสื่อคือวิทยุและศิษย์ที่เป็นพระจำนวนมากและพระเหล่านั้นแต่ละองค์ล้วนมีศิษย์ฆราวาสจำนวนมาก  และสถานการณ์ทางการเมืองก็ดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันตามความคาดหมาย แต่สถานการณ์ของพระมันจะเป็นดังที่เราคาดเดาเชียวหรือ  วันนี้เพิ่งตื่นนอนมาตอน 4 ทุ่ม รู้สึกไม่สบายใจ ใครก็ได้ช่วยถอดสลัก อย่าให้พุทธจักรเหมือนอาณาจักรเลย
    1) ธรรมกายประกาศนานาสังวาสกับคณะสงฆ์ไทย (ธรมยุติและมหานิกาย) ถ้าทำได้ทุกอย่างจบ
    2) ถ้าธรรมกายทำแบบนั้นไม่ได้ ก็ให้มีผู้โจทก์อธิกรณ์ธรรมกายประเด็นไหนก็ได้ที่ชาวบ้านคาใจ แล้วก็สืบสวนสอบสวนโดยพระ (ฆราวาสเข้าไปได้โดยการร้องขอจากพระ เหมือนนางวิสาขาถูกเรียกเข้าไปให้ข้อมูล) ห้ามฆราวาสเข้าไปยุ่งในขั้นตอน เพราะถ้าเปิดโอกาสให้ฆราวาสเข้าไปยุ่งกับวินัยพระ พระรุ่นหลัง ๆ จะลำบาก เท่ากับเปิดประตูนรกเลยทีเดียว
    3) ถ้ามีการนำมวลชนมาปะทะกัน พระองค์ไหนปรี๊ดแตก ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรม หรือประกาศขับพระอีกกลุ่มตรงข้าม พุทธจักรก็บรรลัย
        3.1 สมเด็จพระสังฆราชองค์ต่อไปมาจากนิกายธรรมยุติ เชื่อแน่ว่าพระมหานิกายไม่นิ่งเฉยแน่
        3.2 ถ้ายั่วยุกันถึงสุดขีด พระนิกายธรรมยุติอาจจะไม่ร่วมวงมหาเถรสมาคม เหมือนสังฆบิดรในพระโกฐได้ปฏิบัติหลังจากพระลิขิตฯ ถูกเพิกเฉย ถ้าเป็นแบบนี้จะมีองค์กรใดอันหนึ่งผิดกฏหมาย เป็นองค์กรเถือนไม่บัญญัติใน พรบ. สงฆ์ การต่อสู้จะรุนแรงถึงกับเกิดสังฆเภทได้
     4) ถ้ามีคนหวังจะเข้าไปเป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมกายเพื่อพิจารณาทรัพย์สมบัติทั้งสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ เหมือนกับที่เกิดที่วัดดังริมแม่น้ำที่แปดริ้ว อันนี้ก็เอวัง คงเละไม่แพ้วัดภูเขากลางกรุงแน่นอน

เรากลัวประเด็นที่ 3.2 จะเกิดมากที่สุด ในฐานะชาวพุทธ มันเศร้ามาก