ตัวเราเองเพิ่งเรียนจบค่ะ สายสุขภาพฯ ช่วงนี้ดูที่ทำงานคร่าวๆไว้แล้ว มีแพลนในใจว่าจะทำกี่ปี เรียนต่ออะไรดี แต่ด้วยนิสัยของเราคือเป็นคนที่ทำอะไรช้า ทำอะไรพิถีพิถัน(รึเปล่า?) จริงๆอาจจะขี้เกียจ(ฮ่าๆ) แต่เรามีลู่ทางเราก็บอกที่บ้านตลอดนะคะว่าจะทำประมาณนี้ๆ ส่วนตัวเราเป็นน้องคนเล็กสุดในบ้านค่ะ มีพี่ 2 คน พี่ๆทำงานกันหมดแล้ว
เมื่อไม่นานมานี้ได้พูดคุยกับพี่คนโตเขาพูดประมาณว่า ภูมิใจกับเรามาก เราเก่งอะไรทำนองนี้ แต่เรากลับรู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลย หากเป็นเรื่องการเรียนเราว่าไม่ได้ว้าวขนาดนั้น (กลางๆค่อนไปทางต่ำเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่) ระหว่างเรียนเราก็ไม่ได้คุยกับพี่มาก คือพี่แทบจะไม่รู้กิจกรรมหรืออีเว้นท์ที่เราทำเลย ล่าสุดก็คุยกับเราเรื่องแนวๆเรียนต่างประเทศ ทำงานต่างประเทศ บอกเราว่างๆเรียนภาษาก็ดีนะ (ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนของเราแต่แรก) เราบอกกรายๆว่าเรียนเฉยๆแต่ไม่ได้ฝึกใช้มันเหมือนไม่ได้เรียน(ในความคิดเรา) ด้วยงานที่คิดว่าจะต้องทำในอนาคตอันใกล้นี้คิดว่าเรื่องภาษาคงต้องเลื่อนออกไปก่อนแน่ๆ เราไม่ได้อยากทิ้งคำขอนี้ แต่ก็รู้สึกถูกคาดหวังและกดดันซะงั้น ฮ่าๆ
เราชอบนะคะ อยากได้ภาษาอยากทำให้ดีแต่กลับรู้สึกว่าสิ่งนี้จะทำให้เราเหนื่อย เราไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลย เป้าหมายเราตอนนี้คืออยากปรับปรุงบ้านค่ะ อยากค่อยเปลี่ยนเสริมให้มันดูใหม่ขึ้น มีคุยๆกับพี่คนกลางไว้ เราตั้งใจว่าจะหารค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆด้วย(เมื่อเริ่มทำงานแล้ว)
ที่บ้านยังไม่ได้มีภาระมากเรื่องหนี้สินมีแต่ยัง handle ได้ค่ะ ด้วยความเราน้องคนเล็กเราเลยรู้สึกพี่ๆและคนในครอบครัวดูแลตัวเองได้ดี เราอยากใช้ชีวิตแบบน้องคนเล็ก ทำสิ่งที่ชอบ ไม่ต้องคิดว่าต้องแข่งกับใคร รับผิดชอบตัวเองให้ดีก็พอ แต่พอรู้สึกถูกคาดหวังให้ดีพอเท่าพี่ๆ ก็รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาซะงั้น อยากให้สนใจเราน้อยลง รู้ค่ะว่าการที่เราช่วยคนในครอบครัวได้มันดีกว่า ความกดดันมันเป็นแรงเสริมที่ดี เลยคิดว่าน่าจะต้องปรับที่การคิดของเราจริงๆค่ะ
ตอนนี้เรารู้สึกว่าเราขาดแรงบันดาลใจมากเลยค่ะ เหมือนใช้ชีวิตไปวันๆ อยากถามผู้ที่ผ่านเข้ามาอ่านว่ากว่าจะใช้ชีวิตมาถึงวันนี้ ผ่านจุดเปลี่ยน ผ่านเรื่องราวที่ผ่านมาว่าถ้าให้เล่าก็ต้องเรื่องนี้ หรือเรื่องเล็กน้อยในชีวิตก็ได้ค่ะ ว่าแต่ละคนผ่านอะไรมาบ้าง อยากฮึบๆมีแรงในการใช้ชีวิตที่มีเป้าอย่างเร่าร้อนมากกว่านี้ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาให้กำลังใจนะคะ
อยากรับมือจากการหมดไฟจากความคาดหวังของคนในครอบครัว
เมื่อไม่นานมานี้ได้พูดคุยกับพี่คนโตเขาพูดประมาณว่า ภูมิใจกับเรามาก เราเก่งอะไรทำนองนี้ แต่เรากลับรู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลย หากเป็นเรื่องการเรียนเราว่าไม่ได้ว้าวขนาดนั้น (กลางๆค่อนไปทางต่ำเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่) ระหว่างเรียนเราก็ไม่ได้คุยกับพี่มาก คือพี่แทบจะไม่รู้กิจกรรมหรืออีเว้นท์ที่เราทำเลย ล่าสุดก็คุยกับเราเรื่องแนวๆเรียนต่างประเทศ ทำงานต่างประเทศ บอกเราว่างๆเรียนภาษาก็ดีนะ (ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนของเราแต่แรก) เราบอกกรายๆว่าเรียนเฉยๆแต่ไม่ได้ฝึกใช้มันเหมือนไม่ได้เรียน(ในความคิดเรา) ด้วยงานที่คิดว่าจะต้องทำในอนาคตอันใกล้นี้คิดว่าเรื่องภาษาคงต้องเลื่อนออกไปก่อนแน่ๆ เราไม่ได้อยากทิ้งคำขอนี้ แต่ก็รู้สึกถูกคาดหวังและกดดันซะงั้น ฮ่าๆ
เราชอบนะคะ อยากได้ภาษาอยากทำให้ดีแต่กลับรู้สึกว่าสิ่งนี้จะทำให้เราเหนื่อย เราไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลย เป้าหมายเราตอนนี้คืออยากปรับปรุงบ้านค่ะ อยากค่อยเปลี่ยนเสริมให้มันดูใหม่ขึ้น มีคุยๆกับพี่คนกลางไว้ เราตั้งใจว่าจะหารค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆด้วย(เมื่อเริ่มทำงานแล้ว)
ที่บ้านยังไม่ได้มีภาระมากเรื่องหนี้สินมีแต่ยัง handle ได้ค่ะ ด้วยความเราน้องคนเล็กเราเลยรู้สึกพี่ๆและคนในครอบครัวดูแลตัวเองได้ดี เราอยากใช้ชีวิตแบบน้องคนเล็ก ทำสิ่งที่ชอบ ไม่ต้องคิดว่าต้องแข่งกับใคร รับผิดชอบตัวเองให้ดีก็พอ แต่พอรู้สึกถูกคาดหวังให้ดีพอเท่าพี่ๆ ก็รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาซะงั้น อยากให้สนใจเราน้อยลง รู้ค่ะว่าการที่เราช่วยคนในครอบครัวได้มันดีกว่า ความกดดันมันเป็นแรงเสริมที่ดี เลยคิดว่าน่าจะต้องปรับที่การคิดของเราจริงๆค่ะ
ตอนนี้เรารู้สึกว่าเราขาดแรงบันดาลใจมากเลยค่ะ เหมือนใช้ชีวิตไปวันๆ อยากถามผู้ที่ผ่านเข้ามาอ่านว่ากว่าจะใช้ชีวิตมาถึงวันนี้ ผ่านจุดเปลี่ยน ผ่านเรื่องราวที่ผ่านมาว่าถ้าให้เล่าก็ต้องเรื่องนี้ หรือเรื่องเล็กน้อยในชีวิตก็ได้ค่ะ ว่าแต่ละคนผ่านอะไรมาบ้าง อยากฮึบๆมีแรงในการใช้ชีวิตที่มีเป้าอย่างเร่าร้อนมากกว่านี้ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาให้กำลังใจนะคะ