เราสองคนซื้อที่ดินผืนนี้มาได้เกือบ 8 ปีแล้ว ดินตรงที่วางแผนไว้ว่าจะทำเป็นนาข้าว พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง ก็ดันขูดหน้าดินไปถมใส่แปลงผักซะหมด เลยไม่มั่นใจว่าดินจะดีพอสำหรับปลูกข้าวมั๊ย ก็เลยยังไม่ได้เริ่มปลูกข้าวซักที  ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นแปลงนาทั้งผืน มีแค่ตูบน้อยๆ กับต้นแจง 4 ต้นเท่านั้น 
อีกอย่างก็ไม่เคยทำนากันทั้งสองคน ไม่รู้ขั้นตอนทำนาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังมีความตั้งใจว่าจะปลูกข้าวกินเอง
หลังจากที่บ้านดำ และ แปลงผัก เริ่มเข้าที่เข้าทาง ก็เลยตั้งใจจะปลูกข้าวจริงๆ ในเดือน พฤศจิกา 2023
เนื่องจากนาข้าวอยู่ทางด้านหลัง ต้องเดินมาค่อนข้างไกล เราก็เลยบอกกับแฟนว่า อยากได้เถียงนาน้อยๆ เผื่อว่ามาจะได้มีร่มไว้นั่งเล่น นั่งพักบ้าง
ตอนแรกที่เริ่มออกแบบกันกับช่าง ไอ้เราก็ได้ยินนะว่า 2 คูณ 2 เมตร แต่ว่าเราดันไปบอกแฟนว่าอยากได้เถียงนา ทรงเหมือนร้านกาแฟที่ไปเห็นที่เขาใหญ่เมื่อสองเดือนก่อน (น่าจะอารมณ์เดียวกับตอนที่บอกว่าอยากได้ห้องน้ำนอกบ้านที่เหมือนคาเฟ่นั่นแหละ ฮา)
แฟนเราก็จัดให้ค่ะ เถียงนาทรงร้านกาแฟ บวกกับความตั้งใจแรกที่เราขุดบ่อเพื่อเอาไว้ทำนาตั้งแต่แรก ก็เลยทำหลังคาให้สามารถวางแผงโซล่าเซลล์ได้ด้วย 
พอหลังคาถูกออกแบบมาให้เอียงหาแดด แต่ไม่สามารถที่จะให้ร่มเงาได้เพราะทั้งโล่ง ทั้งสูง ทั้งโปร่ง สุดท้าย จากเถียงนาน้อย ขนาด 2 เมตร ก็กลายเป็น 8 เมตรซะงั้น
แต่ใช้ได้ค่ะ พอแดด มาเช้า เราก็นั่งมาทางทิศตะวันตก พอแดดบ่าย ก็ย้ายไปข้างหน้า หลบได้ได้จริงๆนะ
พอได้เถียงนาแล้ว ก็เลยเริ่มอยากปลูกข้าวจริงๆ แล้ว เพราะภาพในหัว ตอนที่มีนาข้าวคู่กับเถียงนา คงจะสวยไม่น้อย
เราเลือกปลูกข้าวไม่ไวแสง เพราะเถียงนาเราเสร็จหลังหน้าฝนพอดี แต่นาแรกถือว่าทดลองไปก่อนค่ะ คราวหน้าค่อยเอาใหม่  
ในที่สุดความฝันที่อยากทำนา และ อยากได้เถียงนาก็สำเร็จ เราแวะเวียนมานั่งดูนาข้าวในทุกๆช่วงที่เค้าเติบโต ได้กินข้าวที่ปลูกเอง  มีความสุขสุดๆ ไปเลยค่ะ