ถ้าย้อนกลับไปไกลๆ เมื่อ 8 ปีก่อน ตั้งแต่เราได้ที่ดินผืนนี้มา แปลงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว แฟนเราก็ออกแบบ วางผังของที่ดินเรียบร้อย เสร็จสรรพคือได้บ่อน้ำ บ้าน แปลงผัก และ สวนผลไม้
แต่ไม่กี่ปีถัดมา ก็มีคนขายแปลงที่อยู่ติดกับเราพอดี เลยทำให้แฟนเราวางแผนว่าจะแบ่งที่ตรงนั้นไว้ ทำนา ขุดบ่อ และปลูกต้นสัก
การปลูกต้นไม้ ปลูกข้าว น่าจะเป็นความฝันของเกษตรกรมือใหม่หลายๆคน
เมื่อความฝันชัดเจนขึ้นเราก็เลยเติมเต็ม ด้วยการไปหาที่เรียนทำนา ในที่สุดก็มาจบที่ข้าวขวัญของอาจารย์เดชา แต่ว่าปีนั้นที่ไปเรียน ความรู้เริ่มต้นเป็นศูนย์ สิ่งที่อาจารย์สอนมันเลยไม่เข้าไปผสมกับความรู้พื้นฐานที่มี แถมไม่ได้ทดลองปลูกจริงเพราะปีนั้นแล้งมาก
ความพยายามที่จะปลูกข้าวก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ แต่ยังไม่มีโอกาสซักที จนมาปี 2023 เราได้จ้างปลูกข้าว เราได้ข้าวมาก็ 310 กิโล ปี 2024 เราลองปลูกข้าวเองได้มา เกือบ 550 กิโล แต่สิ่งที่เราต้องทำการบ้านต่อจากนี้ก็คือ เรื่องของการสีข้าว
เราแทบไม่ได้ทำการบ้านเรื่องโรงสีขนาดเล็กเลยว่าอยู่ที่ไหนบ้าง จะขนใส่รถไปสี ก็ยังไม่หาข้อมูล เห็นว่ามีรถโรงสีวิ่งบริการอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ติดต่อ หรือ ลองซักที
ส่วนแฟนเราผู้คิดเล็กๆไม่เป็น เริ่มอยากหาเครื่องสีข้าวเองซะแล้ว หาข้อมูลอยู่ซักพักก็ได้โรงงานแถวๆพระราม 2 ราคาหลักหมื่น เราก็พากันไปดู แต่พอเค้าสาธิตให้ดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ละ เครื่องเล็กก็จริง แต่ออกแบบให้เราเหนื่อยไปหน่อย
แฟนเราไม่ละความพยายาม ก็ไปเจออาจารย์ท่านหนึ่งอยู่ที่สกลนครที่ท่านทำเครื่องสีข้าว รอบนี้เราลงทุนขนข้าวไป 2 กระสอบเพื่อไปขอทดลองเอาข้าวเราไปสีจริงๆ เราประทับใจกับคำแนะนำของอาจารย์ และ การทำงานของเครื่องสี ทำให้เราตัดสินใจสั่งเครื่องสีข้าว
เมื่อเรามีเครื่องสีแล้วก็เริ่มสีข้าว แบ่ง และ แจกจ่ายถ้วนหน้า แต่ว่า feedback กลับมาคือ ข้าวเรายังมีหิน กรวด ข้าวลีบ และ ลวดปนมาอยู่ คิดว่าน่าจะมาตอนตากข้าว
เลยเป็นเหตุให้ต้องหาตัวช่วยที่สองเข้ามา นั่นก็คือ เครื่องคัดข้าวก่อนสี เครื่องนี้ถือว่าช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกได้เยอะเลยละ ทำให้เราได้ข้าวที่คิดว่าน่าจะเอาไปขายได้แล้ว
จัดการใส่ถุงแพค 1 กก ไปฝากขายที่ร้าน ในระหว่างที่แพคข้าวใส่ถุงไป ก็เริ่มสังเกตเห็นเมล็ดข้าวที่มีสีดำๆ แกลบ และข้าวสีแดง (ซึ่งไม่ใช่ข้าวมันปู)
เครื่องมือชิ้นที่สามก็ตามมา คือ เครื่องยิงสี รอบนี้เราก็ขนข้าว สีขาวแดงของเราไปทดลองกับเครื่องจริงๆ หลังจากที่ได้เห็นความสามารถของเครื่องแล้ว เราสองคนชอบมาก เพราะนอกจากจะแยกข้าวสีต่างๆออกไปได้แล้ว เรายังสามารถคัดข้าวที่เมล็ดสั้น ออกไปได้อีก ก็เลยตัดสินใจเอาเครื่องนี้มา
เราทดลองสีข้าวกล้องที่เพิ่งเกี่ยวเมื่อวันลอยกระทง และ คัดข้าว ได้ข้าวเมล็ดเต็มมาถึง 60% ของน้ำหนักข้าวเลยทีเดียว
เรามองว่าทั้ง สามเครื่องนี้เป็นการลงทุน เพราะถ้าในอนาคต มีเพื่อนๆ ที่อยากปลูกข้าวเหมือนเรา แต่มีแปลงขนาดเล็ก แล้วอยากสีข้าว ก็อาจจะแวะมาหาเราได้
จากคนที่ไม่มีความรู้เรื่องทำนา ปลูกข้าว แต่ตอนนี้เราสามารถปลูกเอง และขายได้แล้วค่ะ ถึงปริมาณจะไม่เยอะ แต่มันคือจุดเริ่มต้นที่ดี ทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำต่อไปค่ะ
ย้อนดูการปลูกข้าวของเราได้นะคะ
ตอนแรกก็แค่อยากปลูกข้าว แต่มันไม่จบแค่นั้นนะซิ
การปลูกต้นไม้ ปลูกข้าว น่าจะเป็นความฝันของเกษตรกรมือใหม่หลายๆคน
ส่วนแฟนเราผู้คิดเล็กๆไม่เป็น เริ่มอยากหาเครื่องสีข้าวเองซะแล้ว หาข้อมูลอยู่ซักพักก็ได้โรงงานแถวๆพระราม 2 ราคาหลักหมื่น เราก็พากันไปดู แต่พอเค้าสาธิตให้ดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ละ เครื่องเล็กก็จริง แต่ออกแบบให้เราเหนื่อยไปหน่อย
เมื่อเรามีเครื่องสีแล้วก็เริ่มสีข้าว แบ่ง และ แจกจ่ายถ้วนหน้า แต่ว่า feedback กลับมาคือ ข้าวเรายังมีหิน กรวด ข้าวลีบ และ ลวดปนมาอยู่ คิดว่าน่าจะมาตอนตากข้าว
เครื่องมือชิ้นที่สามก็ตามมา คือ เครื่องยิงสี รอบนี้เราก็ขนข้าว สีขาวแดงของเราไปทดลองกับเครื่องจริงๆ หลังจากที่ได้เห็นความสามารถของเครื่องแล้ว เราสองคนชอบมาก เพราะนอกจากจะแยกข้าวสีต่างๆออกไปได้แล้ว เรายังสามารถคัดข้าวที่เมล็ดสั้น ออกไปได้อีก ก็เลยตัดสินใจเอาเครื่องนี้มา
เราทดลองสีข้าวกล้องที่เพิ่งเกี่ยวเมื่อวันลอยกระทง และ คัดข้าว ได้ข้าวเมล็ดเต็มมาถึง 60% ของน้ำหนักข้าวเลยทีเดียว