เราย้ายมาอยู่บ้านแฟนหลายปี จนเมื่อปีที่แล้วเราตกงาน เลยตัดสินใจพาครอบครัวกลับไปอยู่บ้านเรา เพราะเราคิดว่า อย่างน้อยกลับบ้านเรา เรายังมีครอบครัว แต่พอกลับไปแล้ว เราพยายามดิ้นรน ไปอยู่อาศัยกับญาติด้วยความกดดันเพราะระหว่างหางาน ครอบครัวเราต้องเป็นภาระครอบครัวของน้องสาว ไม่นานแฟนเราก็ได้งานพร้อมที่พักใหม่ แรกๆเหมือนจะดี สุดท้ายก็มีปัญหาในเรื่องงานเป็นเหตุสุดวิสัย ทำให้เราแฟน และลูกอายุ1ขวบ ต้องโดนไล่ออกจากห้องเพราะจ่ายค่าเช่าห้องล่าช้า เราย้ายไปอยู่หอใหม่ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้านายแฟน และปัญหาก็เกิดอีกครั้ง เพราะอยู่ๆเจ้านายแฟนก็ขาดการติดต่อ ครอบครัวเราไม่มีแม้กระทั่งเงินติดตัว เงินซื้อกับข้าว ซื้อขนมให้ลูก เราตัดสินใจไปทำงานพิเศษ เพราะคิดว่าเดี๋ยวคงติดต่อกับเจ้านายแฟนได้ ระหว่างที่เราประสบปัญหาเราไม่สามารถปรึกษา หรือพูดคุยกับครอบครัวได้เพราะทุกครั้งที่พูด เราจะโดนซ้ำเติมเหมือนกับว่าเราพยายามไม่พอ เรากลับมาอยู่บ้านเกิดของตัวเองแต่เหมือนเราเป็นคนไร้ญาติ เหมือนเราเป็นคนไม่มีใคร อดทนอยู่แบบอดๆอยากๆ ไม่ไปขอใคร เราพยายามทำงานประคองตัวเองกับครอบครัว แต่เวลามันน้อยเกิดไป จนสุดท้ายเราโดนไล่ออกจากที่อยู่เป็นครั้งที่สอง เรากับแฟนตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่บ้านแฟนที่ต่าง จ. เพราะเราคิดว่าอย่างน้อยก็ไม่มีใครมาไล่เราได้อีก เราสงสารลูก เราบอกครอบครัวว่าเราจะย้ายกลับต่าง จ. แต่สิ่งที่เขาพูดกลับมาคือ เหมือนเราเป็นคนทิ้งครอบครัว ไม่คิดจะช่วยดูแลคนในครอบครัว เราทุกข์ใจทุกวัน จนเราคิดจะไม่อยู่บนโลก ยังดีที่มีลูกคอยดึงสติเราไว้ เรากลับมาอยู่บ้านต่าง จ. ตัดสินใจตัดการติดต่อทุกอย่าง ขออยู่เงียบๆกับครอบครัว แก้ปัญหาชีวิตของครอบครัวเราโดยที่ไม่มีใครมาซ้ำเติมให้เราแทบเป็นบ้าอีก เราผิดไหม #ก่อนหน้านี้เรามีปัญหาเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง รักษากับ รพ.ใน จ. แต่ตอนนี้เรากำลังพยายามดึงสติตัวเองไม่ให้ดิ่งถึงขั้นจะทำร้ายตัวเองอีก เราผิดไหมที่ขอนักตัวเองก่อน หรือเรากำลังหนีปัญหา
เจอแต่เรื่องผิดหวัง กดดัน จนปลีกตัวออกจากครอบครัว ไม่ติดต่อหาใคร ปิดเฟส ไม่รับโทรศัพท์ เรากำลังทำผิดอยู่รึเปล่า