เครื่องโม่แป้งรุ่นเก่า ใครมีอยู่บ้าง ยกมือขึ้น

หนึ่งในเครื่องครัวที่นับวันจะหาดูได้ยากขึ้นทุกที เป็นเครื่องครัวที่อยู่คู่บ้านชาวไทยมาอย่างช้านาน โดยครกบดทำมาจากซีเมนต์หรือหิน มีรูปแบบหลากหลายขนาด ขนาดเล็กสุดก็ราว 45 เซนติเมตร ขนาดใหญ่สุดก็มีขนาดเป็นสามเท่าของขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 135 เซนติเมตร บางที่ก็เรียกครกบด

     ครกบดหรือโม่จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ตัวครกหรือหน่วยครกและฝาครก ตัวครก มีลักษณะเป็นฐานกลม เรียบ ด้านหนึ่งทำเป็นปากให้แป้งไหลลงสู่ภาชนะ และมีแอ่งหรือคลองโดยรอบเชื่อมเป็นระดับเดียวกับปากครก ช่วงกลางของตัวครกยกระดับสูงกว่าขอบครก ตรงหน้าตัดเซาะเป็นร่องหรือฟันตามแนวรัศมีและแนวขวาง ตรงกึงกลางหน้าตัดทำเป็นรูกลมสำหรับใส่เดือยยึดฝาครก ฝาครก ตรงกลางด้านล่างของฝาครกทำรูให้ได้ขนาดสวมรับกับเดือย และตรงหน้าตัดด้านล่างเซาะร่องเช่นเดียวกับตัวครก ด้านบนของฝาครกทำเป็นแอ่งสำหรับใส่ข้าวที่จะบด ตรงแอ่งเจาะรูทะลุฝาด้านล่างเพื่อให้ข้าวสารตกลงด้านล่างเพื่อบดแป้ง ถ้าเป็นครกขนาดเล็กจะเจาะรูสี่เหลี่ยมด้านข้างหนึ่งรูเพื่อใส่ไม้ทำเป็น “มือครก” เรียก “ครกมือเดียว” ถ้าเป็นครกขนาดใหญ่จะมีมือครกสองมือเรียก “ครกสองมือ”
     วิธีการโม่แป้งโดยใช้ครกบด วางครกบดให้สูงกว่าพื้นดินประมาณ ๑ ศอก เพื่อให้สามารถวางภาชนะที่จะรับแป้งจากปากครกบดได้ ข้าวสารที่จะใช้โม่จะต้องแช่น้ำให้พอง หยอดข้าวที่พองแล้วลงรูด้านบนปากฝาครกและหมุนครก ข้าวสารที่บดแล้วจะค่อยๆ ออกมาที่บริเวณแอ่งหรือคลอง การหยอดข้าวสารนั้นถ้าหากหยอดข้าวสารมากเกินไป และมีน้ำผสมอยู่น้อยแป้งที่โม่จะแข้นหนืด ต้องหยอดน้ำช่วย ถ้าหยอดข้าวสารน้อยและใส่น้ำมาก แป้งจะเหลว ฟันครกบดจะเสียดสีกันมากอาจทำให้ซีเมนต์หรือทรายที่ฟันครกหลุด ผสมลงในแป้งได้ ครกบดนั้นเมื่อใช้งานเรียบร้อยแล้วจะต้องล้างให้สะอาด เพราะถ้าล้างไม่สะอาดแป้งจะติดค้างอยู่ตามฟันครกหรือเดือยครกเกิดการบูดเน่าได้


เครดิตร เจาะเวลาหาอดีต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่