ซัน.. My Prince และ Feedback งานกำกับลออจันทร์

ซัน ในเรื่องลออจันทร์ 
แอคติ้งเค้าดูฉลาดนะ สมเป็นเด็กจบนอก 
เวลาเล่นบทซีเรียส จอมวางแผน นานๆ ยิ้มที ทำให้ใจฟู
ท่วงท่า ใบหน้า ออร่า สายตา อยู่ในขั้นพระเอก รอดูเรื่องถัดไป 
ม่านเมฆ ไม่อาจปิดบังแสงดาว ไว้ได้นาน ฉันใดก็ย่อมเป็น ฉันนั้น
การทำธุรกิจต้องแยก ระหว่าง คนธรรมดา กับ ดารา
ดาราที่ต้องมีทั้งการวางบุคลิกภาพ และความงามชวนมองของรูปลักษณ์

การกำกับเราว่าทื่อๆ ตรงๆ ไปนิดนึง 
เหมือนกล้องมาจ่อ แล้วนักแสดงถูกบล็อกตลอดเวลา
เช่น 3 วิ ต้องทำหน้าแบบนี้  หันทางนี้
อยากให้ดูงานกล้องที่ผสานกับงานแสดง ใน "สงครามสมรส"
นักแสดงแสดงอย่างเป็นธรรมชาติ express แบบจัดเต็ม 
ขนาดเมียน้อยเป็นเด็กใหม่วัยรุ่น ก็ดูมีสคิล แลกหมัดกับนักแสดงรุ่นใหญ่ได้สบายๆ
กล้องทำหน้าที่เป็นผู้ตาม เขาจะทำงานกันแบบลื่นไหลเหมือนไม่ได้นัดกันระหว่างกล้องกับนักแสดง

ลออจันทร์ วิธีการเล่าเรื่อง ไม่มีลูกเล่น  จึงไม่ค่อยเหมาะที่จะกำกับละครรัก 
นึกถึงฝีมือชูศักดิ์ สุธีธรรม ในยุคก่อน มีมุขเล็กๆ น้อยๆ เต็มไปหมด 
ส่วนคุณพงษ์พัฒน์ ที่เคยกำกับ ดราม่าพุ่ง มุมมองในเรื่องมนุษย์ถูกถ่ายทอดผ่านงานละครอย่างลึกซึ้ง 
สำหรับลออจันทร์ ควรเลือกเรื่องที่เอื้อให้กำกับออกมาตรงๆ ซึ่งแสดงฝีมือได้เช่นกัน
แบบ Forest Gumps เป็นเสน่ห์ของความตรงไปตรงมาอีกรูปแบบนึง

นางเอกสง่า พาเรื่องรอด งานเสื้อผ้าโอเค
พระเอก แอคติ้งค่อนข้างดี เพียงแต่ดูไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองบางครั้ง
การแสดงออกทางสายตาของพระเอก คือ ได้อารมณ์
ในขณะที่ซัน มีของจากข้างใน ดูชิล เล่นออกมาเป็นธรรมชาติและดูเติบโตกว่า
ในเรื่องพรหมลิขิต 

สรุป 
1. เลือกงานที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง
2. ความสำเร็จของบริษัท เราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ทำ คุณเป็นเจ้าของสวนส้ม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ปลูกส้ม
เราจ้างให้ทำตามสเปก แล้วเปลี่ยนไปเป็นคนคุมคุณภาพ เพื่อให้การเตรียมงานด้านอื่น ครบเครื่องมากขึ้น
3. อย่าประหยัดต้นทุน โดยจ้างคนไม่มีฝีมือ ต้นทุนต่ำแต่กำไรจะยากด้วย เสียเวลาแก้งานอีกต่างหาก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่