พูดถึงเมืองซาน ฟรานซิสโก หลายคนคงนึกถึงสะพานโกลเด้นเกท (Golden Gate) ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองหรือจะบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐเลยก็ว่าได้ แต่นอกจากนั้นแล้ว เป็นที่รู้กันว่าเมืองนี้ยังมีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติอย่างหนึ่งก็คือ แผ่นดินไหวครับ มีรอยเลื่อนหลักของเปลือกโลก 2 ชุดที่อยู่ใกล้กับซาน ฟรานซิสโก ก็คือ San Andreas Fault  กับ  Hayward Fault



ตอนที่จะเริ่มสร้างสะพานโกลเด้นเกท ก็มีการประเมินความเสี่ยงจากแผ่นดินไหว โดยการออกแบบ โครงสร้างของตำแหน่งสะพานนั้น ฐานรากทางทิศเหนือจะตั้งอยู่บนชุดหินตะกอน-หินแปรชื่อว่า Franciscan Complex ส่วนฐานรากทางทิศใต้ตั้งอยู่บนหิน Serpentinite จุดที่น่าเป็นห่วงก็คือฐานรากทางทิศใต้เพราะตั้งอยู่บนชั้นหินที่รู้กันว่ามีความเปราะ ลื่นไถลได้ง่ายและจะมีความเสี่ยงต่อการพังทลายเมื่อเจอแผ่นดินไหวระดับรุนแรง 


ตัวอย่างหินเซอร์เพนทิไนท์บริเวณฐานสะพานโกลเด้นเกท

เป็นธรรมดาของการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ตอนนั้นก็มีหลายคนออกมาวิจารณ์ ให้ความเห็นเรื่องการก่อสร้าง ในจำนวนนั้นก็มีศาสตราจารย์ทางด้านธรณีวิทยา 2 คนที่มีความเห็นขัดแย้งกัน โดยศาสตราจารย์ Bailey Willis จาก Stanford แสดงความเห็นว่าจุดฐานรากนั้นไม่น่าจะปลอดภัยจากการเกิดแผ่นดินไหว ส่วนศาสตราจารย์ Andrew C. Lawson จาก Berkeley มองว่า ไม่มีปัญหา เรื่องเล่าตลกคือว่า Lawson เดินตรวจฐานรากโดยใช้ค้อนเล็กลองเคาะๆ ดูตามอุโมงค์หิน Serpentinite ตรงจุดที่จะสร้างสะพานแล้วบอกว่าไม่มีปัญหา ซึ่งก็ไม่มีปัญหาจริงๆ เพราะหลังจากนั้นโครงการก่อสร้างสะพานโกลเด้นเกทก็ดำเนินการต่อไปได้ ส่วน Andrew C. Lawson ก็ถูกแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาโครงการในเวลาต่อมา !!!

ปัจจุบันสะพานแห่งนี้เปิดใช้งานได้ตามปกติ แต่ก็มีการเฝ้าระวังตรวจสอบความแข็งแรงอยู่เสมอ จะรอดหรือไม่รอด จะอยู่หรือไป จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด