JJNY : 5in1 แจ้งหน่วยงานรัฐทำข้อสงวน│กกต. ส่งเอกสารเพิ่ม│รร.‘หาดใหญ่’โวย│ยอดผลิต-จำหน่ายรถซวนเซ│จีนโต้ข้อกล่าวหา

สำนักนายกฯ แจ้งหน่วยงานรัฐทำข้อสงวนไม่รับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศก่อนลงนามสัญญาใดๆ
https://prachatai.com/journal/2024/03/108583
 
 
สำนักนายกฯ ออกจดหมายถึงหน่วยงานรัฐก่อนลงนามสัญญาใดๆ ให้ทำข้อสงวนไม่รับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ยกเหตุกระทบอำนาจอธิปไตยของไทย หลังมี ครม.มีมติเมื่อ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาให้ทำข้อสงวนไม่รับอำนาจ ICJ จากกรณีเข้าร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญาคุ้มครองบุคคลจากการบังคับสูญหายฯ
 
26 มี.ค.2567 สุณัย ผาสุก ที่ปรึกษา Human Rights Watch เผยแพร่จดหมายของสำนักนายกรัฐมนตรีถึงผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ แจ้งให้หน่วยงานปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ทำข้อสงวนไม่รับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(International Court of Justice หรือ ICJ) ไว้ทุกเรื่องเพื่อไม่ให้กระทบอำนาจต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศ

จดหมายนี้ได้อ้างอิงถึงมติ ครม.ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาที่มีการพิจารณาจัดทำข้อสงวนเพื่อเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับสูญหายของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งในมติดังกล่าวออกมาเป็นหลักการให้ทุกส่วนของราชการและหน่วยงานรัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในกรณีมีความจำเป็นในการทำหนังสือสัญญาที่มีข้อบทให้อำนาจแก่ ICJ มีเขตอำนาจเหนือข้อพิพาทตามหนังสือสัญญานั้น ให้หน่วยงานนั้นๆ จัดทำข้อสงวนไม่รับอำนาจ ICJ ไว้ด้วย
 
สุณัยแสดงความเห็นในทวีตดังกล่าวด้วยว่าที่ผ่านมากลไกยุติธรรมภายในประเทศของไทยไม่สามารถเอาผิดและคลี่คลายกรณีอุ้มหายกว่า 70 รายที่สหประชาชาติทำบันทึกข้อมูลเอาไว้ได้
 
ทั้งนี้ในการประชุม ครม.ครั้งวันที่ 12 มี.ค.นั้น เป็นการลงมติตามข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เพื่อเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ ที่เสนอให้มีข้อสงวนไว้ในส่วนของข้อบทที่ 42 ของอนุสัญญาดังกล่าวที่ระบุถึงกรณีให้อำนาจแก่ ICJ ในการพิจารณาข้อพิพาทระหว่างรัฐภาคี 2 รัฐขึ้นไปในกรณีไม่สามารถยุติได้ด้วยการเจรจา
 
ยธ.ระบุเหตุผลในการเสนอให้จัดทำข้อสงวนไว้ด้วยว่า "เพื่อไม่ให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ มีเขตอำนาจเหนืออำนาจอธิปไตยของไทย ส่งผลให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไม่สามารถก้าวล่วงมาตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างไทยกับรัฐภาคีอื่นได้ ซึ่งข้อพิพาทนั้น ๆ อาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศ ดังนั้น ไทยจึงควรจัดทำข้อสงวนต่อข้อบทดังกล่าวไว้ ดังเช่นที่ได้จัดทำไว้ในอนุสัญญาสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศฉบับอื่น ๆ"

https://twitter.com/sunaibkk/status/1772538517325004881


 
กกต. ส่งเอกสารเพิ่มแล้ว คดียุบก้าวไกล เผยเป็นเอกสาร 44 สส. ลงชื่อเสนอแก้ 112
https://www.khaosod.co.th/politics/news_8157783
 
กกต. ส่งเอกสารเพิ่มแล้ว คดียุบก้าวไกล หลังศาลรัฐธรรมนูญ ระบุเอกสารยังไม่ชัด เผย เป็นเอกสาร 44 สส. ลงชื่อเสนอแก้ มาตรา 112
 
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญยังไม่พิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีเอกสารบางรายการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งไปไม่ชัดเจน และมีคำสั่งให้ กกต. ส่งเอกสารที่ชัดเจนให้กับศาลรัฐธรรมนูญภายใน 7 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือแจ้ง
ซึ่ง กกต. ระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารประกอบคำร้องยุบพรรคก้าวไกลที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นร้องต่อกกต.นั้น
 
ล่าสุดมีรายงานว่า กกต. ได้ส่งเอกสารฉบับที่ชัดเจนไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) โดยเอกสารที่ไม่ชัดเจนดังกล่าวเป็นเอกสารพรรคก้าวไกล ฉบับลงวันที่ 25 มี.ค.64 ที่ 44 สส.พรรคก้าวไกล ลงชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่…พ.ศ.. (แก้ไขเกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 112)
 
ซึ่งสำนักงาน กกต. ได้ประสานไปยังสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอคัดถ่ายเอกสารและได้เอกสารเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา



โรงแรม ‘หาดใหญ่’ โวยปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บ.กระทบธุรกิจ ต้องปลดคนงานลดต้นทุน
https://www.matichon.co.th/region/news_4494051

ภาคธุรกิจโรงแรมหาดใหญ่ โวยการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กระทบต่อธุรกิจหนัก ต้องปลดคนงานออก เพื่อลดค่าใช้จ่าย สนองนโยบายพรรคการเมือง ทำเพื่อผลประโยชน์ตนเอง
 
จากกรณีที่ประชุมไตรภาคี ไฟเขียวขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท นำร่องใน 10 จังหวัด เฉพาะบางพื้นที่ จ.จังหวัดสงขลา อ.หาดใหญ่ ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก เริ่ม 13 เม.ย. เตรียมนำเข้า ครม.พิจารณา
 
นายศิวัฒน์ สุวรรณวงศ์ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลากล่าวว่าการปรับค่าแรงขั้นต่ำจาก 345 บาทเป็น 400 บาทเพิ่ม 15% ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม อ.หาดใหญ่ซึ่ง ที่มองว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียผ่านด่าน จ.สงขลาจำนวนมาก ซึ่งความเป็นจริงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ประมาณ 50%ไปเที่ยว จ.กระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ นครศรี พัทลุง และสตูล ที่พักใน จ.สงขลาประมาณ 50% ที่นั้น
 
นายศิวัฒน์ กล่าวว่า คณะกรรมการไตรภาคีไปผูกติดกับโรงแรม จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ อ.สมุย ที่ขายห้องพักคืนละหลักหมื่นบาท แต่ อ.หาดใหญ่ขายห้องหลักพันบาท แต่ใช้พนักงานเท่ากันค่าใช้จ่ายเท่ากัน ซึ่งเป็นการสนองนโยบายพรรคการเมือง ซึ่งหาเสียงในคราวเลือกตั้ง สร้างความยิ้มให้กับภาคธุรกิจโรงแรมที่กำลังจะฟื้นจากสสถานการณ์โควิด สุดท้ายผลกระทบค่าใช้จ่ายเพิ่ม สุดท้ายโรงแรมต้องปลอดคนงานออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย คนว่างงานเพิ่ม โรงแรมต้องขายห้องราคาเพิ่มขึ้น



ยอดผลิต-จำหน่ายรถยนต์ในไทย ซวนเซ รถอีวีแย่งตลาด
https://tna.mcot.net/business-1341195

กรุงเทพฯ 26 มี.ค.-รถอีวีมีส่วนแบ่งตลาดในไทยเพิ่มขึ้น ในขณะที่งบฯ 67 ล่าช้า แบงก์เข้มงวดสินเชื่อ ส่งผล ยอดผลิต-จำหน่ายรถยนต์ในไทย เดือน ก.พ.หดตัว ยอดผลิตลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี
 
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์เดือน ก.พ.67 อยู่ที่ 133,690 คัน ลดลง 19.28% จากเดือน ก.พ.66 และลดลง 5.92% จากเดือน ม.ค.67 ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากยอดผลิตรถกระบะทั้งส่งออกและขายในประเทศลดลงเนื่องจากบางบริษัทขาดชิ้นส่วน ยอดผลิตรถยนต์นั่งลดลงเพราะถูกรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด และยอดผลิตรถกระบะลดลงตามยอดขายเนื่องจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ตามนโยบายการให้กู้แบบรับผิดชอบและหนี้ครัวเรือนสูงของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ยอดรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 275,792 คัน ลดลง 15.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
สำหรับยอดจำหน่ายในประเทศของเดือน ก.พ.67 อยู่ที่ 52,843 คัน ลดลง 26.15% จากเดือน ก.พ.67 และลดลง 3.60% จากเดือน ม.ค.67 และยอดขายรถ PPV (รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานและดัดแปลงมาจากรถกระบะ) ลดลง 47.6% จากการไปซื้อรถยนต์นั่งตรวจการณ์ที่เป็น HEV (รถยนต์ Hybrid )มากขึ้นเพราะราคาถูกกว่า รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตในระดับต่ำ เพราะการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ล่าช้าไปถึงเดือน เม.ย.67 ทำให้การใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐลดลง ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 107,657 คัน ลดลง 21.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
หาก งบฯ 67 ผ่านสภาฯ มีผลบังคับใช้ เบิกจ่ายได้ และรัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วจะช่วยเพิ่มยอดขายในประเทศให้เพิ่มขึ้น ช่วงนี้น้ำมันแพงก็ทำให้รถปิกอัพมียอดขายต่ำกว่ารถยนต์นั่ง” นายสุรพงษ์ กล่าว
 
ส่วนยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ก.พ.67 อยู่ที่ 88,720 คัน เพิ่มขึ้น 0.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกรถ PPV และรถ HEV แม้ยอดส่งออกจะมีแนวโน้มชะลอลง แต่ตลาดส่งออกยังขยายตัวได้ดีจึงมั่นใจว่าการส่งออกจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่งผลลให้ช่วง 2 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-ก.พ.) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปรวม 175,436 คัน เพิ่มขึ้น 0.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าการส่งออก 121,228.69 คัน
ส่วนการนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนจำนวนมากคงไม่ได้เป็นการทำลายตลาดรถยนต์ในประเทศ เป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศเร็วขึ้น และเป็นเรื่องดีที่ภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมกันวางแผนให้มีความพร้อมที่ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปในภูมิภาค ส่วนยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงพบว่า
 
• ประเภท BEV อยู่ที่ 6,335 คัน ลดลง 15.94% จากเดือน ก.พ.66 เนื่องจากมีการเร่งจดทะเบียนเพื่อรับส่วนลดจากมาตรการสนับสนุนภาครัฐไปในเดือน ม.ค.67 และช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 22,278 คัน เพิ่มขึ้น 81.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.พ.67 มีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV สะสม 154,020 คัน เพิ่มขึ้น 247.72% จากสิ้นเดือน ก.พ.66
 
• ประเภท HEV อยู่ที่ 11,991 คัน เพิ่มขึ้น 51.38% จากเดือน ก.พ.66 และช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 26,134 คัน เพิ่มขึ้น 67.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.พ.67 มีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท HEV สะสม 369,532 คัน เพิ่มขึ้น 34.28% จากสิ้นเดือน ก.พ.66
 
• ประเภท PHEV อยูที่ 894 คัน ลดลง 28.42% จากเดือน ก.พ.66 และช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 1,834 คัน ลดลง 17.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.พ.67 มีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าประเภท PHEV สะสม 55,782 คัน เพิ่มขึ้น 25.08% จากสิ้นเดือน ก.พ.66.-511-สำนักข่าวไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่