ผัดเผ็ดปลาดุก น้ำแกงขลุกขลิก อร๊อย อร่อย


สวัสดีค่ะ วันนี้มาชวนกินข้าวกับ

ผัดเผ็ดปลาดุก น้ำแกงขลุกขลิก

คลุกข้าวอร๊อย อร่อยค่ะ เราเป็นคนที่
ชอบกินปลาดุกผัดแบบไม่ทอดค่ะ
เพราะเนื้อจะนิ่มๆ ไม่แข็ง กินง่าย
และไม่ต้องใส่น้ำตาล จนออกหวาน
แบบผัดปลาดุกทอดกรอบด้วยค่ะ
เมนูวันนี้ ง๊าย ง่าย มากๆค่ะ
ก่อนอื่น ขอเหลากระชายก่อนนะคะ
เราชอบกินเนื้อกระชายด้วย ดังนั้น
เราจะใช้วิธี เหลา เอาแต่ส่วนที่เป็น
เนื้อ ส่วนแกนกลาง จะแข็ง เราทิ้งไป
เราไม่ซื้อกระชายที่เขาซอยขายนะคะ
เพราะเขาซอยทั้งราก ยาวเป็นวา ยิ่ง
ยาวจะยิ่งสวย ได้ราคา แล้วก็แช่น้ำที่
ผสมสารส้ม และอื่นๆ เพื่อกระชายจะ
มีความแข็ง ความสด ใหม่ ไม่เหี่ยว
ไม่ดำ....
ทำไมรู้ เพราะเมื่ออดีต สมัยสาวๆ
แถวบ้านเรา ฮิต ซอยขิง ซอยกระชาย
ค่าซอยโลละ 7 บาท กระชายถุงละ
10 กิโล ได้ค่าซอย 70 บาท แต่ซอย
แล้วไม่คุ้มกับค่าปวดหลัง และค่าขนม
ที่ซื้อไปกิน ระหว่างนั่งซอย เลยเลิก
หันไปเอาดี ทางอื่นดีกว่า
เพี้ยนขำหนักมากเพี้ยนขำหนักมาก
น้ำพริกแกง เราผสม ระหว่างพริกแกงเผ็ด
และพริกแกงใต้ ซื้อเจ้าประจำนะคะ ไม่ตำ
เองล่ะค่ะ  กลัวตำไม่อร่อย  อิ อิ
เพราะกลัวว่าเนื้อปลาดุกจะเละ เราจะไม่
ผัดแบบโช้งเช้ง แต่จะใช้วิธี กวนก้นกระทะ
ให้น้ำพริกแกง ลอยขึ้นมาผสมกับเนื้อปลา
เติมน้ำให้พอท่วมเนื้อปลา ปรุงรส แล้วรอ
ให้น้ำแกงเดือด และ งวดขึ้น เราจะเติม
กะทิ ลงไปนิดหน่อย เพื่อให้มีความนัว
หวานน้อยๆ โดยไม่ต้องใส่น้ำตาล และ
สีของน้ำพริกที่ผัด จะขาว สวยขึ้น ไม่ดำ
โยนทุกสิ่งอย่างลงไป อย่าได้แคร์
เสร็จแล้วคร่าาาาาาาา
ง่ายจริงๆ ไม่ยุ่งยาก แต่ความอร่อย
มากมาย จริงๆค่ะ
ระดับความเผ็ด เต็มสิบค่ะ กลิ่นหอม
ของกระชาย ใบมะกรูด ใบกระเพรา
กลบกลิ่นคาวของปลาดุกได้หมดสิ้น
จุ๊บๆจุ๊บๆจุ๊บๆ
นี่คือเมนูโปรด ที่เราทำกินค่อนข้างบ่อย
อาจมีคำถามว่า ทำไมไม่ใส่ใบโหระพา
เนื่องด้วยเราชอบความเผ็ดร้อน ถึงใจ
และกลิ่นหอมฉุนของใบกระเพรามากกว่า
เลยใส่ใบกระเพราค่ะ
อมยิ้ม05อมยิ้ม05
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่