ผมเห็นพ่อแม่บางคน พอลูกแต่งงาน ก็หวังอยากอุ้มหลาน หวังให้ลูกตัวเองมีหลานให้สัก 2-3 คน
ถ้าให้พูดถึงค่านิยม และความเคยชินของวัฒนธรรมสืบเชื้อสาย คนในวัย Babyboommer อย่างรุ่นพ่อแม่ของเราๆทั้งหลาย
ก็คงจะเคยชินกับค่านิยมแบบนั้น ซึ่งมันก็แล้วแต่บางคนด้วยว่า ผู้ใหญ่แต่ละคน มีทัศนคติและมุมมองเรื่องแบบนี้ยังไง
แต่เชื่อไหมครับ ว่าการมีบุตร 1 ชีวิตเกิดเพิ่มขึ้นมา
ความรับผิดชอบของผู้ให้กำเนิด หรือ พ่อแม่ ผู้เป็นเจ้าของ DNA ของเด็ก1ชีวิต
มันมากมายมหาศาลมากนะครับ ซึ่งตามมาด้วยค่าใช้จ่าย
และสิ่งที่คนรุ่นใหม่คิดและมองว่ามันควรจะเป็น แน่นอน ว่าถ้าจะให้1ชีวิตที่ขึ้นชื่อว่า ลูกของเรา เกิดมา
เขาต้องเกิดมาเจอไม่ลำบาก และ เรามั่นใจว่าเราเลี้ยงให้เขาไม่ลำบากได้ไปจนกว่าเขาจะถึงวัยที่ทำงาน เลี้ยงตัวเองได้
ก็เหมือนรุ่นของเรา ที่พ่อแม่ก็ส่งเสียตัวเราเรียน จบเราเรียนจบทำงาน
แต่ค่าครองชีพ สมัยพ่อแม่เรา
กับค่าครองชีพในปัจจุบันของไทย มันต่างกันลิบลิ้วเลย
ฉะนั้น มันเทียบกันไม่ได้เลย
พ่อแม่บางคนอาจจะคิดย้อนไปว่า อ้าวสมัยแกเป็นเด็กทารก เป็นเด็ก
ฉันยังเลี้ยงแกได้จนโต จนมีงานการทำ จนแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาได้
แล้วทำไมแกจะมีหลานให้ฉันไม่ได้
ซึ่งแน่นอนว่า ลูกบางคน อาจจะมีหลานให้พ่อแม่ตัวเอง เพียงเพราะโดนกดดัน
แต่พอมีแล้ว ถ้าการเงิน หน้าที่การงาน ความเสถียรภาพทางการเงินของเราไม่ดีพอ
หรือรายได้ รายจ่าย มากกว่ารายรับ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ยังไงละครับ...ปัญหาตามมาแน่นอน และจะมากขึ้นดว้ย เพราะเรามี 1 ชีวิตที่เพิ่มเข้ามา
และเราต้องรับผิดชอบชีวิตเขาไป 10-20 ปี หรืออาจจะตลอดชีวิต ยิ่งกว่าเป็นหนี้บ้าน เป็นหนี้ธนาคารซะอีก
ถ้าลูกเรียนไม่จบ หางานทำไม่ได้ มันก็เป็นหน้าที่พ่อแม่อีกใช่มั้ยครับ ที่ต้องเป็นที่พี่งให้ลูก ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง
ใครจะด่าผมก็ได้นะ ผมไม่อยากเจอแบบหลังครับ มันเป็นเวรกรรม หรือความทุกข์ใจ ซะมากกว่า
ซึ่งเราคาดการณ์อนาคตไม่ได้เลย เราอาจจะสอนลูกดี แต่ลูกอาจจะไม่เอา
อาจจะติดเพื่อน ถ้าลูกมีสังคมที่ดี คบเพื่อนที่ดี เราก็ดีใจ โชคดีของเราที่ลูกไม่เกเร
แต่ถ้าไปเจอสังคมแย่ คบเพื่อนแย่ เราจะเสียลูกไปเลย คงไม่ต้องอธิบายเพิ่มนะครับ ข่าวมีให้ดูเยอะไปหมด
เด็กจะน่าสงสารขนาดไหน ที่เขาเกิดมาแต่ผู้ที่ทำให้เขาเกิดมา ทำให้เขามาเจอความลำบาก
ถ้าเป็นผม ผมคงทนดูไม่ได้ ทำเขาเกิดมา เขาต้องลำบาก อยากกินอะไรก็ไม่ได้กิน เพราะเราซื้อให้เขาไม่ได้ตลอด
อยากซื้อสังคมดีๆให้ลูก อยากให้เรียนโรงเรียนอนุบาลดีๆ โรงเรียนประถมชั้นต้นดีๆ มัธยมปลายดีๆ
แต่ถ้าเราไม่มีเงิน ก็คือเท่ากับว่า เราไม่สามารถซื้อสังคมให้ลูกตัวเองได้ เราเลือกสังคมในวัยเด็ก ให้ลูกไม่ได้เลย
เพราะทุกอย่างต้องใช้เงิน
คนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่ที่มองว่า การมีลูก มันตามมาด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย
อีกอย่าง เราก็ไม่รู้ว่า เด็กหนึ่งคนที่เราทำเขาเกิดมา สังคมจะทำให้เขาเป็นคนแบบไหน
เราจะซื้อสังคมดีๆให้ลูกได้ยังไง เพราะในเมื่อถ้าการเงินเรายังไม่พร้อม แต่เราทำเขาเกิดมาในตอนที่เราไม่พร้อม
ถ้าเขาเกิดมา แล้วเราเลี้ยงให้เขาสบายไม่ได้ สู้ไม่มีเลยจะดีกว่า
แต่งงาน อยู่ด้วยกัน แต่ไม่มีลูก
ถ้าบางคนอาจจะคิดว่า ไม่มีลูกแล้วใครจะมาดูแลเราตอนแก่ เจ็บป่วย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
คือถ้าจะมีลูก เพียงเพราะหวังจะพึ่งพาลูก เป็นภาระให้ลูกตอนเราชราภาพ
ผมบอกเลย ถ้าตอนนี้ผมเป็นตัวอ่อน ผมจะกัดหางตัวเองตายตอนนั้นเลย
คงไม่มีใครอยากเกิดมา ถ้ารู้ว่าต้องมาแล้ว ต้องเจออะไรบ้าง
การแก้ปัญหา ถ้าเราแก่ไปแล้วกลัวไม่มีใครดูแลตอนแก่
ทำงานครับ เก็บเงิน เงินนั้นจะดูแลเราตอนเราแก่หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อยเอง
เดี๋ยวนี้บ้านพักคนชรา ล้านนึงอยู่ได้ 10-15 ปี
ถึงตอนนั้น เราก็คงไม่ลำบากเท่าไหร่แล้ว
ตอนยังมีแรง ยังหนุ่มยังสาว
ทำงานบ้าง หาวันหยุดไปเที่ยวทั่วไทย ปีนึงจองตั๋วบินไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง
ให้รางวัลชีวิตตัวเอง โดยที่ไม่ต้องคอยกังวลชีวิตของคนที่เรารัก นอกจากพ่อแม่ของเรา
ที่ต้องดูแลให้ดี อย่าให้ท่านลำบากทั้งทางกาย และใจ หรือจนกว่าจะตายจากกันไปข้างนึง
ผมคิดว่านะ ชีวิตของใครหลายๆคน รวมถึงผมในตอนี้ ที่คิด
คิดแค่ ชีวิตทำงานเพื่อหาเงิน เลี้ยงดูตัวเองได้ อย่าก่อหนี้ ดูแลสุขภาพ เที่ยวบ้าง เก็บเกี่ยวความสุข
แค่ตัวเราเองเองไม่ต้องมีลูกให้ห่วง หรือคาดหวังอะไรจากเขา มีห่วงแค่พ่อแม่ผู่ให้กำเนิดพอ
แก่แล้ว เที่ยวไกลไม่ได้ กินข้าวได้นิดหน่อย ชีวิตมันก็มีเท่านี้แหละครับ
โปรดอย่าลืม : การอยากมีผู้สืบสันดาน หรือมีลูก ถ้าจะมีเพื่อกลัวไม่มีใครเลี้ยงดูตอนเราแก่ อย่ามีเลยครับ เพราะแค่คิดก็ผิดแล้ว เพราะแท้จริงแล้วคุณแค่กลัวลำบากตอนแก่ แต่ไม่ได้คิดถึงจิตใจมนุษย์คนนึงที่คุณทำเขาเกิดมาเลย การมีลูกควรมีเมื่อเราพร้อม ทั้งความรับผิดชอบ ทั้งความรัก และความพร้อมทางการเงิน ที่จะเลี้ยงดูให้เขาไม่ลำบากไปจนกว่าเขาจะเลี้ยงดูตัวเองได้ตลอดรอดฝั่ง จนกว่าเขาจะมีความมั่นคงในชีวิต ซึ่งมันคือสิ่งที่เราอยากให้ลูกได้มี ได้เป็นแบบนั้น หมายถึงความมั่นคงทั้งการเงิน การงาน ในชีวิตนะ แต่ถ้าเกิดมา แล้วต้องมาแบกความคาดหวังจากคุณทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผมมองว่า เด็กก็คงไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลย
เขาคงไม่อยากเกิดมา เพื่อแบกความคาดหวังจากใคร
ข้อความในกระทู้นี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมคนเดียวเท่านั้น อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่น้อมรับความเห็นต่างครับผม
สมัยนี้คบหากันจนแต่งงาน แต่ไม่คิดมีลูก ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่พ่อแม่ของคนวัยทำงาน 25-30+ ควรเข้าใจเรื่องนี้สักทีครับ
ถ้าให้พูดถึงค่านิยม และความเคยชินของวัฒนธรรมสืบเชื้อสาย คนในวัย Babyboommer อย่างรุ่นพ่อแม่ของเราๆทั้งหลาย
ก็คงจะเคยชินกับค่านิยมแบบนั้น ซึ่งมันก็แล้วแต่บางคนด้วยว่า ผู้ใหญ่แต่ละคน มีทัศนคติและมุมมองเรื่องแบบนี้ยังไง
แต่เชื่อไหมครับ ว่าการมีบุตร 1 ชีวิตเกิดเพิ่มขึ้นมา
ความรับผิดชอบของผู้ให้กำเนิด หรือ พ่อแม่ ผู้เป็นเจ้าของ DNA ของเด็ก1ชีวิต
มันมากมายมหาศาลมากนะครับ ซึ่งตามมาด้วยค่าใช้จ่าย
และสิ่งที่คนรุ่นใหม่คิดและมองว่ามันควรจะเป็น แน่นอน ว่าถ้าจะให้1ชีวิตที่ขึ้นชื่อว่า ลูกของเรา เกิดมา
เขาต้องเกิดมาเจอไม่ลำบาก และ เรามั่นใจว่าเราเลี้ยงให้เขาไม่ลำบากได้ไปจนกว่าเขาจะถึงวัยที่ทำงาน เลี้ยงตัวเองได้
ก็เหมือนรุ่นของเรา ที่พ่อแม่ก็ส่งเสียตัวเราเรียน จบเราเรียนจบทำงาน
แต่ค่าครองชีพ สมัยพ่อแม่เรา
กับค่าครองชีพในปัจจุบันของไทย มันต่างกันลิบลิ้วเลย
ฉะนั้น มันเทียบกันไม่ได้เลย
พ่อแม่บางคนอาจจะคิดย้อนไปว่า อ้าวสมัยแกเป็นเด็กทารก เป็นเด็ก
ฉันยังเลี้ยงแกได้จนโต จนมีงานการทำ จนแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาได้
แล้วทำไมแกจะมีหลานให้ฉันไม่ได้
ซึ่งแน่นอนว่า ลูกบางคน อาจจะมีหลานให้พ่อแม่ตัวเอง เพียงเพราะโดนกดดัน
แต่พอมีแล้ว ถ้าการเงิน หน้าที่การงาน ความเสถียรภาพทางการเงินของเราไม่ดีพอ
หรือรายได้ รายจ่าย มากกว่ารายรับ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ยังไงละครับ...ปัญหาตามมาแน่นอน และจะมากขึ้นดว้ย เพราะเรามี 1 ชีวิตที่เพิ่มเข้ามา
และเราต้องรับผิดชอบชีวิตเขาไป 10-20 ปี หรืออาจจะตลอดชีวิต ยิ่งกว่าเป็นหนี้บ้าน เป็นหนี้ธนาคารซะอีก
ถ้าลูกเรียนไม่จบ หางานทำไม่ได้ มันก็เป็นหน้าที่พ่อแม่อีกใช่มั้ยครับ ที่ต้องเป็นที่พี่งให้ลูก ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง
ใครจะด่าผมก็ได้นะ ผมไม่อยากเจอแบบหลังครับ มันเป็นเวรกรรม หรือความทุกข์ใจ ซะมากกว่า
ซึ่งเราคาดการณ์อนาคตไม่ได้เลย เราอาจจะสอนลูกดี แต่ลูกอาจจะไม่เอา
อาจจะติดเพื่อน ถ้าลูกมีสังคมที่ดี คบเพื่อนที่ดี เราก็ดีใจ โชคดีของเราที่ลูกไม่เกเร
แต่ถ้าไปเจอสังคมแย่ คบเพื่อนแย่ เราจะเสียลูกไปเลย คงไม่ต้องอธิบายเพิ่มนะครับ ข่าวมีให้ดูเยอะไปหมด
เด็กจะน่าสงสารขนาดไหน ที่เขาเกิดมาแต่ผู้ที่ทำให้เขาเกิดมา ทำให้เขามาเจอความลำบาก
ถ้าเป็นผม ผมคงทนดูไม่ได้ ทำเขาเกิดมา เขาต้องลำบาก อยากกินอะไรก็ไม่ได้กิน เพราะเราซื้อให้เขาไม่ได้ตลอด
อยากซื้อสังคมดีๆให้ลูก อยากให้เรียนโรงเรียนอนุบาลดีๆ โรงเรียนประถมชั้นต้นดีๆ มัธยมปลายดีๆ
แต่ถ้าเราไม่มีเงิน ก็คือเท่ากับว่า เราไม่สามารถซื้อสังคมให้ลูกตัวเองได้ เราเลือกสังคมในวัยเด็ก ให้ลูกไม่ได้เลย
เพราะทุกอย่างต้องใช้เงิน
คนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่ที่มองว่า การมีลูก มันตามมาด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย
อีกอย่าง เราก็ไม่รู้ว่า เด็กหนึ่งคนที่เราทำเขาเกิดมา สังคมจะทำให้เขาเป็นคนแบบไหน
เราจะซื้อสังคมดีๆให้ลูกได้ยังไง เพราะในเมื่อถ้าการเงินเรายังไม่พร้อม แต่เราทำเขาเกิดมาในตอนที่เราไม่พร้อม
ถ้าเขาเกิดมา แล้วเราเลี้ยงให้เขาสบายไม่ได้ สู้ไม่มีเลยจะดีกว่า
แต่งงาน อยู่ด้วยกัน แต่ไม่มีลูก
ถ้าบางคนอาจจะคิดว่า ไม่มีลูกแล้วใครจะมาดูแลเราตอนแก่ เจ็บป่วย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
คือถ้าจะมีลูก เพียงเพราะหวังจะพึ่งพาลูก เป็นภาระให้ลูกตอนเราชราภาพ
ผมบอกเลย ถ้าตอนนี้ผมเป็นตัวอ่อน ผมจะกัดหางตัวเองตายตอนนั้นเลย
คงไม่มีใครอยากเกิดมา ถ้ารู้ว่าต้องมาแล้ว ต้องเจออะไรบ้าง
การแก้ปัญหา ถ้าเราแก่ไปแล้วกลัวไม่มีใครดูแลตอนแก่
ทำงานครับ เก็บเงิน เงินนั้นจะดูแลเราตอนเราแก่หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อยเอง
เดี๋ยวนี้บ้านพักคนชรา ล้านนึงอยู่ได้ 10-15 ปี
ถึงตอนนั้น เราก็คงไม่ลำบากเท่าไหร่แล้ว
ตอนยังมีแรง ยังหนุ่มยังสาว
ทำงานบ้าง หาวันหยุดไปเที่ยวทั่วไทย ปีนึงจองตั๋วบินไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง
ให้รางวัลชีวิตตัวเอง โดยที่ไม่ต้องคอยกังวลชีวิตของคนที่เรารัก นอกจากพ่อแม่ของเรา
ที่ต้องดูแลให้ดี อย่าให้ท่านลำบากทั้งทางกาย และใจ หรือจนกว่าจะตายจากกันไปข้างนึง
ผมคิดว่านะ ชีวิตของใครหลายๆคน รวมถึงผมในตอนี้ ที่คิด
คิดแค่ ชีวิตทำงานเพื่อหาเงิน เลี้ยงดูตัวเองได้ อย่าก่อหนี้ ดูแลสุขภาพ เที่ยวบ้าง เก็บเกี่ยวความสุข
แค่ตัวเราเองเองไม่ต้องมีลูกให้ห่วง หรือคาดหวังอะไรจากเขา มีห่วงแค่พ่อแม่ผู่ให้กำเนิดพอ
แก่แล้ว เที่ยวไกลไม่ได้ กินข้าวได้นิดหน่อย ชีวิตมันก็มีเท่านี้แหละครับ
โปรดอย่าลืม : การอยากมีผู้สืบสันดาน หรือมีลูก ถ้าจะมีเพื่อกลัวไม่มีใครเลี้ยงดูตอนเราแก่ อย่ามีเลยครับ เพราะแค่คิดก็ผิดแล้ว เพราะแท้จริงแล้วคุณแค่กลัวลำบากตอนแก่ แต่ไม่ได้คิดถึงจิตใจมนุษย์คนนึงที่คุณทำเขาเกิดมาเลย การมีลูกควรมีเมื่อเราพร้อม ทั้งความรับผิดชอบ ทั้งความรัก และความพร้อมทางการเงิน ที่จะเลี้ยงดูให้เขาไม่ลำบากไปจนกว่าเขาจะเลี้ยงดูตัวเองได้ตลอดรอดฝั่ง จนกว่าเขาจะมีความมั่นคงในชีวิต ซึ่งมันคือสิ่งที่เราอยากให้ลูกได้มี ได้เป็นแบบนั้น หมายถึงความมั่นคงทั้งการเงิน การงาน ในชีวิตนะ แต่ถ้าเกิดมา แล้วต้องมาแบกความคาดหวังจากคุณทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผมมองว่า เด็กก็คงไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลย
เขาคงไม่อยากเกิดมา เพื่อแบกความคาดหวังจากใคร
ข้อความในกระทู้นี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมคนเดียวเท่านั้น อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่น้อมรับความเห็นต่างครับผม