คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ก่อนอื่นขอให้กำลังใจและขอบอกให้ตั้งสติก่อนครับ
เห็นส่วนมากท้อเพราะชอบโหมกันอาทิตย์สุดท้าย (สมัยเรียนที่ไทยผมก็ทำ)
แต่ตอนมาเรียนต่อตปท.ผมใช้วิธีนี้นะ
ผมพกแฟ้มบางๆที่มีซิปแล้วแยก 1 วิชา/แฟ้มครับ และผมไม่จดแล็กเชอร์ในสมุดแต่จะใช้กระดาษรายงาน
เรียกว่าหมดคาบเรียนก็ดึงออกมาแล้วใส่แฟ้มวิชานั้นๆไปเลย (อย่าลืมจดวันที่กับเลขหน้าด้วย)
ตอนเรียนผมอัดเสียงจารย์ไว้แล้วก็นั่งแล็กเชอร์ปกติ กลับบ้านมาก็สรุปที่จารย์สอนใส่สมุดอีกเล่มนึงไว้(แยกเป็นเล่มละวิชาเลย)
ถ้าไม่เข้าใจก็นั่งฟังคลิปที่จารย์พูดอีกรอบ ฟังๆข้ามๆส่วนที่ไม่เข้าใจอะ
ตอนช่วงก่อนสอบเดี๋ยวจารย์ก็มาสรุปให้แล้วก็เน้นให้ไปอ่านตรงนั้นตรงนี้
ผมก็แค่เปิดสรุปในสมุดแล้วลองทำโจทย์หรือการบ้านซ้ำอีกรอบโดยไม่ดูอันเก่า(ผมสายวิดวะฯคำนวณเยอะ)
ถ้าไม่เข้าใจก็คุ้ยๆจากกระดาษรายงานที่จดแล็กเชอร์ไว้นั้นแหละเพราะเนื้อหาเยอะกว่าที่สรุปใส่สมุด
วิชาที่ทฤษฎีจ๋าๆอย่าง ergonomics(ผมมีวิชานี้) ก็ลองวาดรูปประกอบคำอธิบายเอา
อย่างพวกวิชาบริหารอะไรพวกนี้ผมเขียนหัวข้อแล้ว list breakdown มันลงมา
ข้อสอบรุ่นเก่าเป็นไงช่างหัวมัน ผมไม่เคยสนใจซักนิด
และสถาณการณ์ของผมตอนนั้นคือต้องทำงานพิเศษไปด้วยเรียนไปด้วยเลยต้องจัดเวลาให้ดี
บางทีผมก็นั่งฟังที่จารย์สอนซ้ำบนรถไฟตอนกลับบ้านหรือตอนไปทำงานหรือแม้แต่ตอนนอนหลับก็เปิดกล่อมไป
ผลลัพธ์คือผมไม่เคยได้ต่ำกว่าที่ 2 และได้ทุนทุกเทอมจนเรียนจบครับ
เดี๋ยวจะหาว่าบ้าเรียนอย่างเดียว งานอดิเรกผมก็มีนะ อย่างไปเล่นสโนว์บอร์ดกับเพื่อน
ช่วงรีแลกซ์ก็นั่งกินเหล้ากันกับเพื่อนในห้องวิจัย หรือเล่นเกมกันโต้รุ่งผมก็ทำ แปลเควสเกมผมก็เคยทำนะ
เปิดพรีออเดอร์สั่งของผมก็ทำ
ของพวกนี้อยู่ที่คุณจัดสรรเวลาและเรียงลำดับความสำคัญครับ ซึ่งถ้าทำได้มันจะติดตัวมาจนถึงตอนทำงานเลยหละ
สังคมเพื่อนอะ ไม่ต้องไปทุกครั้งก็ได้ครับ บางทีพวกมันก็ชวนโดยไม่ได้คิดอะไร เอาไว้ว่างค่อยไปก็ได้
เห็นส่วนมากท้อเพราะชอบโหมกันอาทิตย์สุดท้าย (สมัยเรียนที่ไทยผมก็ทำ)
แต่ตอนมาเรียนต่อตปท.ผมใช้วิธีนี้นะ
ผมพกแฟ้มบางๆที่มีซิปแล้วแยก 1 วิชา/แฟ้มครับ และผมไม่จดแล็กเชอร์ในสมุดแต่จะใช้กระดาษรายงาน
เรียกว่าหมดคาบเรียนก็ดึงออกมาแล้วใส่แฟ้มวิชานั้นๆไปเลย (อย่าลืมจดวันที่กับเลขหน้าด้วย)
ตอนเรียนผมอัดเสียงจารย์ไว้แล้วก็นั่งแล็กเชอร์ปกติ กลับบ้านมาก็สรุปที่จารย์สอนใส่สมุดอีกเล่มนึงไว้(แยกเป็นเล่มละวิชาเลย)
ถ้าไม่เข้าใจก็นั่งฟังคลิปที่จารย์พูดอีกรอบ ฟังๆข้ามๆส่วนที่ไม่เข้าใจอะ
ตอนช่วงก่อนสอบเดี๋ยวจารย์ก็มาสรุปให้แล้วก็เน้นให้ไปอ่านตรงนั้นตรงนี้
ผมก็แค่เปิดสรุปในสมุดแล้วลองทำโจทย์หรือการบ้านซ้ำอีกรอบโดยไม่ดูอันเก่า(ผมสายวิดวะฯคำนวณเยอะ)
ถ้าไม่เข้าใจก็คุ้ยๆจากกระดาษรายงานที่จดแล็กเชอร์ไว้นั้นแหละเพราะเนื้อหาเยอะกว่าที่สรุปใส่สมุด
วิชาที่ทฤษฎีจ๋าๆอย่าง ergonomics(ผมมีวิชานี้) ก็ลองวาดรูปประกอบคำอธิบายเอา
อย่างพวกวิชาบริหารอะไรพวกนี้ผมเขียนหัวข้อแล้ว list breakdown มันลงมา
ข้อสอบรุ่นเก่าเป็นไงช่างหัวมัน ผมไม่เคยสนใจซักนิด
และสถาณการณ์ของผมตอนนั้นคือต้องทำงานพิเศษไปด้วยเรียนไปด้วยเลยต้องจัดเวลาให้ดี
บางทีผมก็นั่งฟังที่จารย์สอนซ้ำบนรถไฟตอนกลับบ้านหรือตอนไปทำงานหรือแม้แต่ตอนนอนหลับก็เปิดกล่อมไป
ผลลัพธ์คือผมไม่เคยได้ต่ำกว่าที่ 2 และได้ทุนทุกเทอมจนเรียนจบครับ
เดี๋ยวจะหาว่าบ้าเรียนอย่างเดียว งานอดิเรกผมก็มีนะ อย่างไปเล่นสโนว์บอร์ดกับเพื่อน
ช่วงรีแลกซ์ก็นั่งกินเหล้ากันกับเพื่อนในห้องวิจัย หรือเล่นเกมกันโต้รุ่งผมก็ทำ แปลเควสเกมผมก็เคยทำนะ
เปิดพรีออเดอร์สั่งของผมก็ทำ
ของพวกนี้อยู่ที่คุณจัดสรรเวลาและเรียงลำดับความสำคัญครับ ซึ่งถ้าทำได้มันจะติดตัวมาจนถึงตอนทำงานเลยหละ
สังคมเพื่อนอะ ไม่ต้องไปทุกครั้งก็ได้ครับ บางทีพวกมันก็ชวนโดยไม่ได้คิดอะไร เอาไว้ว่างค่อยไปก็ได้
แสดงความคิดเห็น
เครียดเรื่องสอบจนอยากลาออก
บางทีบางแวบก็นึกอยากทำอะไรสิ้นคิดเหมือนกัน
คนที่ผ่านมหาวิทยาลัยมาได้ จัดการตัวเองยังไงตอนสอบครับ เครียดจนร้องไห้ ไม่รู้จะทำยังไงดี