เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/219613
ทำไมคนไทยกู้บ้านไม่ผ่าน ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง ผู้บริหารเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ชี้ 3 สาเหตุ คือ ดอกเบี้ยแพง หนี้เยอะ รายได้โตไม่ทันค่าผ่อนบ้าน
สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังน่าเป็นห่วง ขณะที่หนี้เสียพุ่งกว่า 1 ล้านล้านบาท เป็นสินเชื่อบ้านกว่า 180,000 ล้านบาท ปัจจุบันคนไทยเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น แบงก์คุมเข้ม กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ภาคอสังหาริมทรัพย์ยอมรับกระทบยอดขายบ้าน คนไทยกว่าครึ่งที่อยากมีบ้านแต่สุดท้ายซื้อไม่ได้ ชี้ลดดอกเบี้ยช่วยได้บ้าง แต่รัฐต้องฟื้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ประชาชนเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยมีบ้านยากขึ้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขายบ้านได้ยากขึ้น ประมาณครึ่งหนึ่งของคนที่อยากมีบ้านสุดท้ายไม่สามารถซื้อบ้านได้ โดยมีหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือกู้ไม่ผ่าน และ ลูกค้ากังวลภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี
"เพราะวันนี้เราขายบ้านได้น้อยหรือมาก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำบ้านแล้วไง พี่ไม่รู้จะทำบ้านอย่างไรแล้ว เพราะพี่รู้สึกว่าก็ทำบ้านดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว ราคามันเป็นแบบนี้ ต้นทุนที่มันเป็นแบบนี้ แต่มันกลายเป็นปัญหาของคนซื้อ" นางเกษรา กล่าว
ส่วนคนที่ตัดสินใจว่าจะกู้แต่ขอสินเชื่อไม่ผ่านก็มีมาก โดยนางเกษรา บอกว่า สาเหตุที่ทำให้คนเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ยากขึ้น มี 3 สาเหตุหลัก คือ ต้นทุนราคาบ้านขึ้นแต่รายได้คนไม่ขึ้น ผู้กู้มีหนี้เยอะอยู่แล้ว ยกตัวอย่างคนรายได้ 5 หมื่นบาท จริง ๆ สามารถกู้ซื้อบ้าน 4-5 ล้านบาทได้ แต่หากมีหนี้เยอะอยู่แล้วทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ ยื่นกู้ 3 ล้านบาท ยังถูกปฏิเสธสินเชื่อ กู้ไม่ผ่าน และสาเหตุสุดท้ายคือดอกเบี้ย ที่ทำให้การเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น เช่น หากดอกเบี้ย 4% เงินเดือน 12,000 บาท สามารถซื้อบ้าน 1 ล้านบาทได้ แต่หากดอกเบี้ยสูงขึ้นเป็น 6% ต้องมีเงินเดือน 18,0000 บาท
"ใน 100% ที่ซื้อ 50% ที่ยกเลิก อาจจะมีสัก 25% ในนั้นที่บอกว่าสินเชื่อไม่ผ่าน แต่ไม่น่าเชื่อเลยอีก 25% คือลูกค้าเปลี่ยนใจเอง ลูกค้าเปลี่ยนใจเองนี่ก็หลากหลายเหมือนกัน เช่น ได้ข่าวว่าเศรษฐกิจไม่ดี ไม่กล้าเป็นหนี้ เพราะอย่าลืมว่าถึงแม้สินเชื่อบ้านจะเป็นสินเชื่อที่ดี ดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลายาว แต่มันก็เป็นสินเชื่อที่ยาวที่สุดนะ คนเราถ้าไม่มั่นใจก็ไม่อยากติดหนี้ไป 30 ปีไหม เพราะรู้สึกเป็นภาระผูกพันระยะยาว " นางเกษรา กล่าว
นางเกษรา บอกว่า หากจะแก้ปัญหาให้คนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น การลดดอกเบี้ยก็ช่วยได้ แต่ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย วิธีที่ดีที่สุดคือรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ให้ประชาชน เพราะถ้าของถูกแต่คนไม่มีเงินซื้อก็ไม่สามารถแก้
"ยอดปฏิเสธสินเชื่อมันเยอะเพราะรายได้คนสูงไม่ทันกับค่าบ้าน หนี้ครัวเรือนสูง และดอกเบี้ย อันที่ดูเหมือนลดง่ายสุด แต่อาจไม่จีรังที่สุด คือการลดดอกเบี้ย ไม่ปฏิเสธว่าลดดอกเบี้ยแล้วคงช่วยบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาเดียว ลดดอกเบี้ยก็เป็นวิธีการหนึ่ง แต่วิธีที่ดีที่สุดคือเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของรายได้คน " นางเกษรา กล่าว
นางเกษรา ยังบอกว่า คนกรุงเทพมหานคร กว่า 5.7 ล้านคน เกินครึ่งมีเงินเดือนต่ำกว่า 3 หมื่นบาท และกว่า 80% มีเงินเดือนต่ำกว่า 5 หมื่นบาท เสนาจึงเปิดธุรกิจใหม่ในเครือภายใต้ชื่อ “เงินสดใจดี” เข้าไปช่วยคนที่อยากซื้อบ้านแต่เงินไม่พอ โดยให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ในบ้านหรือคอนโดมิเนียมได้ทันที จากนั้นทยอยผ่อนซึ่งจะหักเงินต้นต่อเนื่อง จนถึงจุดที่เงินต้นลดมาอยู่ในระดับที่ลูกค้าน่าจะสามารถกู้สินเชื่อบ้านได้ จะมีการส่งต่อลูกค้าให้กู้สินเชื่อบ้านจากธนาคารแทนเข้าสู่ระบบผ่อนบ้านปกติ ซึ่งกว่า 1 ปีที่ผ่านมาช่วยให้คนมีบ้านกว่า 100 หลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
เปิดสาเหตุ ทำไมกู้บ้านไม่ผ่าน ดอกแพง-หนี้เยอะ-รายได้โตไม่ทัน
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/219613
ทำไมคนไทยกู้บ้านไม่ผ่าน ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง ผู้บริหารเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ชี้ 3 สาเหตุ คือ ดอกเบี้ยแพง หนี้เยอะ รายได้โตไม่ทันค่าผ่อนบ้าน
สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังน่าเป็นห่วง ขณะที่หนี้เสียพุ่งกว่า 1 ล้านล้านบาท เป็นสินเชื่อบ้านกว่า 180,000 ล้านบาท ปัจจุบันคนไทยเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น แบงก์คุมเข้ม กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ภาคอสังหาริมทรัพย์ยอมรับกระทบยอดขายบ้าน คนไทยกว่าครึ่งที่อยากมีบ้านแต่สุดท้ายซื้อไม่ได้ ชี้ลดดอกเบี้ยช่วยได้บ้าง แต่รัฐต้องฟื้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ประชาชนเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยมีบ้านยากขึ้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขายบ้านได้ยากขึ้น ประมาณครึ่งหนึ่งของคนที่อยากมีบ้านสุดท้ายไม่สามารถซื้อบ้านได้ โดยมีหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือกู้ไม่ผ่าน และ ลูกค้ากังวลภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี
"เพราะวันนี้เราขายบ้านได้น้อยหรือมาก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำบ้านแล้วไง พี่ไม่รู้จะทำบ้านอย่างไรแล้ว เพราะพี่รู้สึกว่าก็ทำบ้านดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว ราคามันเป็นแบบนี้ ต้นทุนที่มันเป็นแบบนี้ แต่มันกลายเป็นปัญหาของคนซื้อ" นางเกษรา กล่าว
ส่วนคนที่ตัดสินใจว่าจะกู้แต่ขอสินเชื่อไม่ผ่านก็มีมาก โดยนางเกษรา บอกว่า สาเหตุที่ทำให้คนเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ยากขึ้น มี 3 สาเหตุหลัก คือ ต้นทุนราคาบ้านขึ้นแต่รายได้คนไม่ขึ้น ผู้กู้มีหนี้เยอะอยู่แล้ว ยกตัวอย่างคนรายได้ 5 หมื่นบาท จริง ๆ สามารถกู้ซื้อบ้าน 4-5 ล้านบาทได้ แต่หากมีหนี้เยอะอยู่แล้วทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ ยื่นกู้ 3 ล้านบาท ยังถูกปฏิเสธสินเชื่อ กู้ไม่ผ่าน และสาเหตุสุดท้ายคือดอกเบี้ย ที่ทำให้การเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น เช่น หากดอกเบี้ย 4% เงินเดือน 12,000 บาท สามารถซื้อบ้าน 1 ล้านบาทได้ แต่หากดอกเบี้ยสูงขึ้นเป็น 6% ต้องมีเงินเดือน 18,0000 บาท
"ใน 100% ที่ซื้อ 50% ที่ยกเลิก อาจจะมีสัก 25% ในนั้นที่บอกว่าสินเชื่อไม่ผ่าน แต่ไม่น่าเชื่อเลยอีก 25% คือลูกค้าเปลี่ยนใจเอง ลูกค้าเปลี่ยนใจเองนี่ก็หลากหลายเหมือนกัน เช่น ได้ข่าวว่าเศรษฐกิจไม่ดี ไม่กล้าเป็นหนี้ เพราะอย่าลืมว่าถึงแม้สินเชื่อบ้านจะเป็นสินเชื่อที่ดี ดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลายาว แต่มันก็เป็นสินเชื่อที่ยาวที่สุดนะ คนเราถ้าไม่มั่นใจก็ไม่อยากติดหนี้ไป 30 ปีไหม เพราะรู้สึกเป็นภาระผูกพันระยะยาว " นางเกษรา กล่าว
นางเกษรา บอกว่า หากจะแก้ปัญหาให้คนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น การลดดอกเบี้ยก็ช่วยได้ แต่ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย วิธีที่ดีที่สุดคือรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ให้ประชาชน เพราะถ้าของถูกแต่คนไม่มีเงินซื้อก็ไม่สามารถแก้
"ยอดปฏิเสธสินเชื่อมันเยอะเพราะรายได้คนสูงไม่ทันกับค่าบ้าน หนี้ครัวเรือนสูง และดอกเบี้ย อันที่ดูเหมือนลดง่ายสุด แต่อาจไม่จีรังที่สุด คือการลดดอกเบี้ย ไม่ปฏิเสธว่าลดดอกเบี้ยแล้วคงช่วยบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาเดียว ลดดอกเบี้ยก็เป็นวิธีการหนึ่ง แต่วิธีที่ดีที่สุดคือเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของรายได้คน " นางเกษรา กล่าว
นางเกษรา ยังบอกว่า คนกรุงเทพมหานคร กว่า 5.7 ล้านคน เกินครึ่งมีเงินเดือนต่ำกว่า 3 หมื่นบาท และกว่า 80% มีเงินเดือนต่ำกว่า 5 หมื่นบาท เสนาจึงเปิดธุรกิจใหม่ในเครือภายใต้ชื่อ “เงินสดใจดี” เข้าไปช่วยคนที่อยากซื้อบ้านแต่เงินไม่พอ โดยให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ในบ้านหรือคอนโดมิเนียมได้ทันที จากนั้นทยอยผ่อนซึ่งจะหักเงินต้นต่อเนื่อง จนถึงจุดที่เงินต้นลดมาอยู่ในระดับที่ลูกค้าน่าจะสามารถกู้สินเชื่อบ้านได้ จะมีการส่งต่อลูกค้าให้กู้สินเชื่อบ้านจากธนาคารแทนเข้าสู่ระบบผ่อนบ้านปกติ ซึ่งกว่า 1 ปีที่ผ่านมาช่วยให้คนมีบ้านกว่า 100 หลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท