ถ้าเป็นผมที่รู้สึกเวลาไม่พอใช้ครั้งแรกน่าจะประมาณ ม.4 ยุคนั้นไม่มีโซเซียลมีเดีย เริ่มเข้าวัยรุ่น ช่วงนั้นรู้สึกมีอะไรให้ทำเยอะมาก ไม่ว่าจะเรียนพิเศษ เตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย ฝึก รด.
แล้ววัยรุ่นอ่ะครับ เพิ่มมีเพื่อน มีสังคม ก็ต้องหาเวลานัดไปมี activity กับเพื่อน แล้วพอเห็นเพื่อนเล่นดนตรี เล่นกีฬา แล้วสาวกรี๊ด ก็อยากเอามั่ง หัดมั่ง แล้วพอฝึกจีบสาวแรกๆก็คุยโทรศัพท์วันนึง 2-3 ชั่วโมง ค่าโทรศัพท์นี่บานเลย ไม่รู้หาเรื่องอะไรมาคุยได้หนักหนา
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยรู้สึกว่าเวลาพอใช้อีกเลย ยิ่งโซเชียลมายิ่งหนักเข้าไปใหญ่
ผมจำได้นะ ตอนเด็กๆ 8-9 ขวบงี้ เวลามันเหลือนะ รู้สึกกว่าจะผ่านไปแต่ละวันน้านนาน เลิกเรียนมา เล่นกับเพื่อนก็แล้ว ดูละครตอนเย็นก็แล้ว ทำการบ้านก็แล้ว มันก็ไม่หมดวันสักที แต่แปลกนะ ตอนนั้นไม่พกนาฬิกา ไม่มีมือถือ แต่กลับรู้เวลาได้แม่นมาก แบบเรากะๆได้ว่า เนี่ย ตอนนี้สักประมาณบ่าย 3 ละ พอไปดูเวลาจริงๆ ผิดไม่เกิน 5 นาที เดี๋ยวนี้ไถ facebook tiktok กะว่าสัก 5 นาที อ้าว หายเป็น ชม. 555555
คุณเริ่มรู้สึกว่าเวลาไม่พอใช้ครั้งแรกเมื่อไร
แล้ววัยรุ่นอ่ะครับ เพิ่มมีเพื่อน มีสังคม ก็ต้องหาเวลานัดไปมี activity กับเพื่อน แล้วพอเห็นเพื่อนเล่นดนตรี เล่นกีฬา แล้วสาวกรี๊ด ก็อยากเอามั่ง หัดมั่ง แล้วพอฝึกจีบสาวแรกๆก็คุยโทรศัพท์วันนึง 2-3 ชั่วโมง ค่าโทรศัพท์นี่บานเลย ไม่รู้หาเรื่องอะไรมาคุยได้หนักหนา
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยรู้สึกว่าเวลาพอใช้อีกเลย ยิ่งโซเชียลมายิ่งหนักเข้าไปใหญ่
ผมจำได้นะ ตอนเด็กๆ 8-9 ขวบงี้ เวลามันเหลือนะ รู้สึกกว่าจะผ่านไปแต่ละวันน้านนาน เลิกเรียนมา เล่นกับเพื่อนก็แล้ว ดูละครตอนเย็นก็แล้ว ทำการบ้านก็แล้ว มันก็ไม่หมดวันสักที แต่แปลกนะ ตอนนั้นไม่พกนาฬิกา ไม่มีมือถือ แต่กลับรู้เวลาได้แม่นมาก แบบเรากะๆได้ว่า เนี่ย ตอนนี้สักประมาณบ่าย 3 ละ พอไปดูเวลาจริงๆ ผิดไม่เกิน 5 นาที เดี๋ยวนี้ไถ facebook tiktok กะว่าสัก 5 นาที อ้าว หายเป็น ชม. 555555